โต๊ะเมืองบาติก บางหมาก กันตัง คือชื่อบนเฟซบุ๊ก ช่วยให้การซื้อง่ายขายคล่อง
ศูนย์ดิจิทัลชุมชน กศน. เปิดคอร์สสอนชาวบ้านใช้คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน ขายสินค้าออนไลน์ หลักสูตรละ 15 ชั่วโมงเพื่อให้ชาวบ้านได้เรียนรู้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ
“การได้อบรมความรู้เรื่องเทคนิคการขายสินค้าออนไลน์ผ่านศูนย์ดิจิทัลชุมชน ช่วยเพิ่มช่องทางขายผ้าบาติกของศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนตำบลบางหมากได้มาก ลูกค้ารู้จักกลุ่มโต๊ะเมืองของเรามากขึ้น สนใจติดต่อ สอบถาม สั่งซื้อผ้าบาติกผ่านเฟซบุ๊ก และไลน์ โดยเฉพาะลูกค้าจากหน่วยงานราชการมีค่อนข้างมาก ทั้งยังเป็นช่องทางที่ช่วยบอกข่าวสาร เช่นในเวลาไปออกพื้นที่ขายสินค้าโอทอปในจังหวัดต่างๆ ลูกค้าบางคนที่เคยสั่งตามเพจ ก็ตามไปซื้อถึงจำหน่ายด้วย” ลุงศักดิ์-ร.ต.ท.ศักดิชัย พรมจิตร์ วัย 62 ปีอดีตข้าราชการตำรวจ สภ.กันตัง ต.บางหมาก อ.กันตัง จ.ตรัง ถ่ายทอดเรื่องราว
ลุงศักดิ์ โชว์หน้าเฟซบุ๊กที่เป็นช่องทางขายสินค้า
“โต๊ะเมืองบาติก บางหมาก กันตัง”คือชื่อบนเฟซบุ๊ก ที่ใช้เป็นช่องทางการขายสินค้า ลุงศักดิ์ เล่าว่า การขายผ้าบาติกผ่านเฟซบุ๊ก และติดต่อผ่านไลน์ ช่วยให้ยอดขายดีขึ้น โดยเฉพาะผ้าบาติกลายพิมพ์ ซึ่งพัฒนามาประมาณ 3 ปี เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยม มีผู้สนใจสั่งซื้อทั้งทางออนไลน์ และเวลาออกบูธขายในต่างจังหวัด เนื่องจากมีความแปลกใหม่ลวดลายไม่ซ้ำ ปัจจุบันมีนับ 10 ลาย เช่น ม้าน้ำ พะยูน ฯลฯ ซึ่งที่ผ่านมาคนจะคุ้นเคยกับผ้าบาติกลายเขียนลวดลายส่วนใหญ่จะเป็น ลายหอนาฬิกา สามล้อตุ๊กตุ๊ก ลายพะยูน ลายสถานีรถไฟ
แบบพิมพ์ลายผ้าบาติก
อย่างไรก็ดี ผ้าบาติกลายพิมพ์จะมีราคาจำหน่ายสูงกว่าลายเขียน เพราะขั้นตอนการออกแบบ แกะลายพิมพ์ค่อนข้างยากต้องเท่ากันหมดทั้ง 4 ด้านเพื่อที่ลวดลายในการพิมพ์ จะปะติดปะต่อกัน ราคาขายตกผืนละ 600 บาท ถ้าตัดเสื้อแขนสั้นสำเร็จรูปแขนสั้น 850 บาท แขนยาว 1,200 บาท ส่วนลายเขียน 400 บาท ตัดเสื้อแขนสั้นตัวละ 550 บาท เป็นต้น ที่ชุมชนบางหมากครัวเรือนส่วนใหญ่มีอาชีพทำสวนยาง เวลาว่างจากการกรีดยางทาง กศน.ก็เข้ามาช่วยสนับสนุน สอนอาชีพเพื่อให้ทุกคนมีรายได้เพิ่ม ทั้งยังสอนเทคนิคการขาย การพัฒนาสินค้า อย่างในช่วงที่ทุกคนสวมใสเสื้อผ้าชุดสีดำ สีสุภาพเพื่อแสดงความอาลัยต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 เราก็เปลี่ยนมาผลิตผ้าบาติกโทนสีหม่นจำหน่าย ก็ได้รับการตอบรับอย่างดี
“กลุ่มโต๊ะเมืองบางหมากมีสมาชิก 15 คน ถ้าพูดถึงรายได้ต้องบอกว่าดีกว่าทำสวนยาง หลายครอบครัวมีเงินส่งลูกเรียนได้ เฉลี่ยเดือนละ 100,000 บาทโดยเฉพาะถ้าออกไปจำหน่าย 4 ภาคก็จะเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งรายได้ทั้งหมดจะนำมาปันผลกันในกลุ่มฯ ส่วนตัวคลุกคลีกับการทำผ้าบาติกมากว่า 10 ปีเริ่มจากทำเป็นอาชีพเสริมตั้งแต่ยังไม่เกษียณอายุราชการ จนเวลานี้เกษียณฯก็ทำต่อเพื่อเป็นรายได้ให้ตนเองและครอบครัว รวมทั้งพยายามหาความรู้อื่นๆเพิ่มเรื่อยๆจะได้ทันกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้การทำผ้าบาติกให้เด็กรุ่นหลัง ตลอดจนจัดอบรมอาชีพด้วย เพื่อไม่ให้ภูมิปัญญาการทำผ้าบาติกสูญหาย”ลุงศักดิ์ ระบุ
เพราะอยากมีรายได้เสริมจึงเริ่มต้นจากการเรียนรู้ ป้าดา-ปรีดา สุริวงค์ อายุ 58 ปีกลุ่มอาชีพบ้านโคกวัว ต.นาบินหลา อ.เมือง จ.ตรัง เล่าว่า ปัจจุบันไม่ได้ทำงานประจำมีหน้าที่ต้องดูแลแม่ และหลานๆ ส่วนใหญ่ปลูกผัก เลี้ยงไก่ และมารวมกลุ่มกับผู้สูงอายุและชาวบ้านในกลุ่มอาชีพบ้านโคกวัว เรียนรู้อบรมอาชีพกับ กศน.ทำงานฝีมือ เช่น ริ้บบิ้นมาลัย ดอกไม้จันทน์ พวงหรีด ฯลฯ ผลิตสินค้าขาย รายได้ที่เข้ามาในแต่ละเดือนทางกลุ่มจะปันผลให้สมาชิกทั้ง 25 คน ก็ทำให้มีรายได้บ้าง พอมารู้ว่า กศน.มีอบรมเกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยี ตัวเราก็อยู่ว่างๆจึงไปสมัครอบรมดูโดยเลือกการขายสินค้าออนไลน์ เพราะคิดว่าอาจจะได้ช่องทางไปทำอะไรต่อได้ จึงไปสมัครอบรมเมื่อปี 2559 อบรมไป 15 ชั่วโมง
“ตัวป้าเองอายุมากแล้วทำงานอะไรมากก็ไม่ไหว แต่ก็อยากมีรายได้เสริม เลยไปลองดูหาความรู้ เผื่อเอาความรู้จะเอามาทำอะไรได้บ้าง พอไปเรียนจบมาก็คิดว่าขายของออนไลน์น่าจะช่วยเพิ่มรายได้ทางหนึ่ง ซึ่งจะให้ป้าทำเองก็ไม่ค่อยถนัดนัก แต่ให้บอกหรือแนะนำได้ จึงมาคุยกับลูกซึ่งทำงานอยู่ที่ภูเก็ต ให้เขาลองหาช่องทางดูว่าจะขายอะไร ซึ่งลูกเลือกขายเค้กเมืองตรังผ่านเฟซบุ๊ก รับออเดอร์จากที่ภูเก็ต ป้าเป็นคนส่งของไปให้กับรถทัวร์ มีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 1,000-2,000 บาท ตรงนี้ก็ให้เป็นของลูก ส่วนตัวป้าเองก็ทำริบบิ้นพวงมาลัยส่งให้ร้านดอกไม้ที่ภูเก็ต มีลูกค้าประจำอยู่ 2-3 เจ้าส่งของคราวละประมาณ 8,000-10,000 ชิ้นก็มีรายได้เข้ามาส่วนหนึ่งรวมกับเงินปันผลที่ได้จากกลุ่มฯประมาณเดือนละ 1,000 บาทก็ถือว่าดี ก็ตั้งใจว่าจะหาโอกาสเรียนรู้เรื่อยๆเอามาใช้ประโยชน์ในชีวิต”ป้าดา เล่าด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
จากนี้ไปศูนย์ดิจิทัลชุมชนของ กศน.จะมีประสิทธิภาพครอบคลุมทุกตำบล เพื่อทุกคนในชุมชน เรียนรู้ได้ตลอดชีวิต.เพราะได้รับการสนับสนุนจาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กระทรวงพาณิชย์ และบริษัทโทเทิลแอ็คเซ็สคอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) สนับสนุนพัฒนาผลิตผลการเกษตร ธุรกิจค้าขาย ของชาวบ้านได้ดียิ่งขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง