เปิดหน้าผู้แทนครูก.ค.ศ.โดนม.44

        ว่ากันว่าเพื่อให้การบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ!! พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 16/2560 เรื่อง การบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โละองค์ประกอบของคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ชุดเดิม และเริ่มต้นองค์ประกอบของบอร์ดชุดใหม่ทันที

          องค์ประกอบชุดใหม่นี้จะมีขนาดกะทัดรัดขึ้น จากเดิมมีมากถึง 31 คน ลดเหลือ 14 คน โดยมี รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธาน กรรมการโดยตำแหน่ง 8 คน คือ รมช.ศึกษาธิการ ปลัด ศธ. เลขาธิการคณะกรรมการการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เลขาธิการสภาการศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และเลขาธิการคุรุสภา ส่วนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จากเดิม 9 คน เหลือ 3 คนในด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล ด้านการศึกษา และด้านกฎหมาย  เลขาธิการ ก.ค.ศ.เป็นกรรมการและเลขานุการ และให้มีผู้ช่วยเลขานุการไม่เกิน 2 คน 

          ส่วนที่หายไปจากบอร์ดชุดเดิมนั่นคือ ผู้แทนจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ที่มีการบริหารงานบุคคลของหน่วยงานตนเอง โดยเฉพาะผู้แทนครูและบุคลากรทางการศึกษา 12 คนที่มาจากผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ครูทั้งจากฝ่ายประถมและมัธยม พ้นจากบอร์ดใหญ่โดยสิ้นเชิง 

       อดีตผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่หายไป ประกอบด้วย 1.นายเชิดศักดิ์ ศรีสง่าชัย ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ขอนแก่น เขต 2,

2.ว่าที่ร.ต.อานนท์ สุขภาคกิจ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) กรุงเทพฯ 1,3.นายบุญฤทธิ์ ไชยบุตร ผอ.สพป.ตรัง เขต 2 ,4.นายรัชชัยย์ ศรสุวรรณ ผอ.สพม.เขต 8 (ราชบุรี), 5.นายกิติศักดิ์ บุญดาว ผอ.สพป.อุบลราชธานี เขต 1 6.นางสุนทรีย์ ทองอินทร์ ผอ.สพป.พิษณุโลก เขต 1 7.นายออน กาจกระโทก ผอ.สพป.นครราชสีมา เขต 3

       8. นายสงกรานต์ จันทร์น้อย ผอ.สพม.เขต 12 (นครศรีธรรมราช-พัทลุง), 9.นายพรรษา ฉายกล้า จาก สอศ. 10 นายจิรพจน์ จึงบรรเจิดศักดิ์ จากกระทรวงวัฒนธรรม 11.นายชาญ คำภิระแปง จาก สพป.เชียงใหม่ เขต 2 และ 12.นายสุทธิพร ไชยพิเดช จาก สพม.เขต 29 (อุบลราชธานี-อำนาจเจริญ)

           เจตนารมณ์ของการกำหนดให้มีผู้แทนครูฯ อยู่ในบอร์ดก.ค.ศ.ที่ผ่านมานั้น ด้วยหวังให้เป็นปากเสียงแทนครูทั่วประเทศ แต่ที่ผ่านมาก็มีข้อสังเกตว่าการทำงานยังไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์เท่าที่ควร และหลายครั้งส่งผลให้การพิจารณาเรื่องสำคัญๆของบอร์ดก.ค.ศ.ต้องยืดเยื้อล่าช้า หลายคนก็สวมหมวกหลายใบคือ ทั้งอยู่ในบอร์ดใหญ่ อยู่ในคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) วิสามัญ,อ.ก.ค.ศ.วิสามัญเฉพาะกิจต่างๆ จนกลายเป็นมีอำนาจ มีอิทธิพล จนทำให้ต้องจัดระเบียบใหม่ 

                 “หมอธี” - นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์

     แต่ที่ผู้แทนครูฯทั้งหลายไม่เคลื่อนไหว เพราะเคลียร์ใจกันแล้ว โดย “หมอธี” - นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ แจงว่าการปรับองค์ประกอบโดยตัดผู้แทนครูฯจากบอร์ด ก.ค.ศ.ไม่ได้เป็นความขัดแย้งหรือมองว่าเป็นศัตรู แต่เพื่อให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพ สามารถที่จะปรับแก้กฏระเบียบต่างๆให้มีความรวดเร็ว เพื่อผลประโยชน์ของครูอย่างแท้จริง 

           เพราะที่ผ่านมา คสช.มีคำสั่งยกเลิก อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาแล้วก็ต้องปรับบอร์ด ก.ค.ศ.ให้สอดคล้องกัน โดยผู้แทนครูฯ ก็ไปทำหน้าที่ อ.ก.ค.ศ.วิสามัญกลั่นกรองงานเสนอ ซึ่งหลังมีคำสั่ง ม.44 ดังกล่าวมีผู้แทนครูจะขอมาพบ ยินดีให้พบแต่ขอให้เป็นผู้แทนครูจริงๆ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เป็นการเข้ามาดำเนินการต่อเนื่องจากคำสั่ง ม.44 เดิม

          “เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาเพราะที่ผ่านมาได้มีการทำความเข้าใจกันแล้ว ส่วนที่เกรงว่าจะมีการเคลื่อนไหวของผู้แทนครู เรื่องนี้คงไม่ยอมไม่ใช่ว่าผมก้าวร้าวแต่ประเทศต้องเดินหน้าด้วยเหตุผลและกฎหมาย ไม่เช่นนั้นคงทำงานกันไม่ได้”รมว.ศึกษาธิการ กล่าว

           สอดคล้องกับ ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัด ศธ. ยืนยันว่า การปรับองค์ประกอบครั้งนี้ไม่ได้มีความขัดแย้งใด และผู้แทนข้าราชการครูฯ ที่อยู่ในบอร์ดก.ค.ศ.ชุดเดิมทราบอยู่แล้วว่าจะมีคำสั่งนี้ออกมาเพื่อเตรียมความพร้อมในการปฏิรูปการศึกษา ส่วนบทบาท หน้าที่ของบอร์ดก.ค.ศ.จากนี้จะเน้นการบริหารงานเชิงนโยบายมากขึ้น บนหลักการเดียวกับบอร์ด ก.พ. 

           ส่วนผู้แทนครูฯ สามารถเข้าจะเข้าไปทำหน้าที่อยู่ในอ.ก.ค.ศ.วิสามัญ ซึ่งตามคำสั่งกำหนดไว้เบื้องต้น 3 ชุดจากเดิมที่มี 11 ชุด เพื่อทำการแทน ก.ค.ศ. ได้แก่ อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับการอุทธรณ์และการร้องทุกข์ อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับวินัยและการออกจากราชการ อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ส่วนอ.ก.ค.ศ.วิสามัญเฉพาะกิจที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 200 ชุดยังคงทำหน้าที่ต่อไป

          “องค์ประกอบในอ.ก.ค.ศ.วิสามัญชุดใหม่จะกำหนดไว้ไม่เกิน 15 คนจากเดิมที่เคยมีคณะละ 14-23 คนและระบุไว้ว่าประธานมาจากบอร์ด ก.ค.ศ. ผู้ทรงคุณวุฒิ 11 คน และข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัด ศธ. 2 คน ซึ่งผู้แทนครูฯ ที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดสามารถเข้ามาอยู่ในส่วนนี้ได้”ดร.ชัยพฤกษ์ กล่าว 

     คงต้องดูกันต่อไปว่า การปรับระบบการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จัดระเบียบใหม่คราวนี้จะสำเร็จได้อย่างตั้งใจหรือไม่ แต่แว่วว่าการแต่งตั้งต่างๆจะมีการออกหลักเกณฑ์มาเฟ้นให้ได้ผู้แทนครูตัวจริงเสียงจริงและกระชับพื้นที่การทำงานชัดเจนอีกด้วย.