Lifestyle

!!ไม่เอาคนเกษียณเป็น“อธิการบดี”..งงเด้!!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“ผมท้า ถ้าจะทำให้จบ ไม่ตั้งคนเกษียณเป็นอธิการบดี ผมจะไม่รับตำแหน่งจนเกษียณ” คำมั่นจากปาก "ผศ.ดร.รัฐกรณ์ คิดการ"ประธานทปสท.

          “ผมท้า ถ้าจะทำให้จบ ไม่ตั้งคนเกษียณเป็นอธิการบดี ผมจะไม่รับตำแหน่งจนเกษียณ” คำมั่นจากปาก "ผศ.ดร.รัฐกรณ์ คิดการ" ประธานที่ประชุมประธานสภาคณาจารย์และข้าราชการแห่งประเทศไทย(ทปสท.)เปิดใจกับ"กมลทิพย์ ใบเงิน " เว็บไซด์คมชัดลึก เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2560

!!ไม่เอาคนเกษียณเป็น“อธิการบดี”..งงเด้!!

ผศ.ดร.รัฐกรณ์ คิดการ

          “พี่ใหญ่”หรือ“ดร.ใหญ่” ผศ.ดร.รัฐกรณ์  คิดการ  สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และ ปริญญาเอก ด้านเทคโนโลยีทางการศึกษา จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒิ(มศว) และคว้าปริญญาโทใบที่สอง รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต ด้านการจัดการสำหรับนักบริหาร จากนิด้า หรือ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(NIDA)

!!ไม่เอาคนเกษียณเป็น“อธิการบดี”..งงเด้!!

          เริ่มรับราชการในตำแหน่ง นักวิชาการโสตทัศนศึกษา กรมพลศึกษา ปี 2528 ย้ายไปเป็นอาจารย์วิทยาลัยพลศึกษาสมุทรสาคร ปี 2537 แล้วสอบบรรจุได้โอนไปเป็นอาจารย์วิทยาลัยครูหมู่บ้านจอมบึง ปี2537 แล้วย้ายไปเป็นอาจารย์สถาบันราชภัฏนครราชสีมา

!!ไม่เอาคนเกษียณเป็น“อธิการบดี”..งงเด้!!  

          ปี 2544 เป็นกรรมการสภาประจำสถาบัน กรรมการสภามหาวิทยาลัย ผู้แทนคณาจารย์ ประธานสภาคณาจารย์และข้าราชการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา 2 สมัยจนถึงปัจจุบัน และประธานที่ประชุมประธานสภาคณาจารย์และข้าราชการแห่งประเทศไทย(ทปสท.) 2 สมัยจนถึงปัจจุบัน ซึ่งปี 2547 สถาบันราชภัฏเปลี่ยนสถานะเป็น"มหาวิทยาลัยราชภัฏ"

!!ไม่เอาคนเกษียณเป็น“อธิการบดี”..งงเด้!!

          “พี่ใหญ่”ในกลุ่มผองเพื่อน มีมนุษยสัมพันธ์ดีเยี่ยม เพื่อนพึ่งพาได้ เป็นนักคิด นักเขียน นักวิชาการ เป็นลูกข้าวเหนียว จากดินแดนที่ราบสูง เมืองแม่ย่าโม ฉายแววเป็นนักต่อสู้เพื่อผดุงความยุติธรรมตั้งแต่เป็นนักศึกษา ทว่าในสายตาของแวดวงการศึกษาบ้านเราแล้ว เขาคือ “ความหวัง” เขาคือ “แสวงสว่าง” ที่คอยเป็น“กระจก”สะท้อนให้มองเป็นปมปัญหาทางการศึกษา ให้ได้รับการแก้ไขได้“ตรงจุด”หรือ“เกาถูกที่คัน”มากที่สุดในยุคนี้      

           “ที่ผมออกมาเคลื่อนไหว เพราะต้องการให้การดำเนินการเป็นไปตามกฎหมาย และยุติธรรมกับนักศึกษา ที่มหาวิทยาลัยควรนำเอารายได้จากการจัดเก็บค่าเทอมจากนักศึกษา นำไปพัฒนานักศึกษาอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่ใช่นำเอาเงินจำนวนนี้ไปจ้างคนเกษียณมาเป็นอธิการบดี” 

          ผศ.ดร.รัฐกรณ์ ฟันธงว่าปัญหาธรรมาภิบาลในมหาวิทยาลัยราชภัฏ(มรภ.)และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล(มทร.)ในปัจจุบัน สาเหตุหนึ่งเกิดจากการแต่งตั้งอธิการบดีที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ไม่สามารถเบิกจ่ายค่าตอบแทนต่างๆ ตามระเบียบราชการได้ เลยต้องไปออกระเบียบเอง ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่ออธิการบดีวัยเกษีณกระทำความผิดก็ไม่สามารถดำเนินการทางวินัยได้ ต้องไปฟ้องอาญาผ่านขั้นตอน 3 ศาลใช้เวลายาวนานหลายปี ไม่เหมือนอธิการบดีที่มาจากข้าราชการทั่วไปที่มีโทษร้ายแรงถึงขั้นไล่ออก อีกทั้งอธิการบดีเกษียณต้องทำผิดระเบียบราชการตามมาอีกมากมาย เช่น การลาไปต่างประเทศ ที่ให้เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(เลขาฯ กกอ.)เป็นผู้อนุมัติ แต่เลขาฯกกอ.จะอนุมัติเฉพาะคนที่เป็นข้าราชการเท่านั้น ทำให้อธิการบดีวัยเกษียณหลายคนเลยใช้วิธีลักไก่อนุมัติตัวเอง ซะงั้น!!

          “ผมเรียกร้องพลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี,พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี, นพ.ธีระเกียรติ  เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ,และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่าใช้อำนาจตามมาตรา 44 ตั้งคนเกษียณเป็นอธิการบดี เพราะจะเกิดความเสียหายกับระบบการศึกษาไทยและประเทศชาติมากกว่าจะเกิดผลดีครับ”

          หาก"บิ๊กตู่"ใช้มาตรา 44 ให้คนที่ไม่มีสถานภาพเป็นข้าราชการ หรือพนักงานในสถาบันอุดมศึกษาเป็นอธิการบดีของมหาวิทยาลัยราชภัฏ ราชมงคลได้ ก็จะขัดกับพ.ร.บ.ราชภัฏ, พ.ร.บ.ราชมงคล และพ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา และคำพิพากษาศาลปกครองที่เคยพิพากษาว่า "การแต่งตั้งอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชมงคล ต้องแต่งตั้งจาก “ข้าราชการ/พนักงานในสถาบันอุดมศึกษานั้น”

          ไม่เพียงเท่านั้น ยังบ่อนทำลายระบบราชการที่กำหนดให้เกษียณอายุ แล้วให้คนรุ่นหลังขึ้นมาทดแทน เหมือนกระทรวงอื่นๆ ที่กำหนดให้ตำแหน่งบริหารต้องเกษียณอายุที่ 60 ปี การต่ออายุทำได้ แต่ให้ไปปฏิบัติหน้าที่อื่น เช่น สอน, ทำวิจัย แต่ห้ามเป็นผู้บริหาร และยังเป็นการเปิดช่องให้อธิการบดีที่เกษียณอยู่ในตำแหน่งยาวไปโดยไม่มีที่สิ้นสุด หลายคนเป็นอธิการบดีครบ 2 วาระ 8 ปี ก็วนเวียนไปเป็นอธิการบดีสถาบันอุดมศึกษาที่อื่น และการเข้าสู่ตำแหน่งอธิการบดีก็ใช้แค่เสียงในสภามหาวิทยาลัยเป็นผู้เลือก ที่ล้วนเป็นพรรคพวกเดียวกัน หรือ"สภาเกาหลัง"

          “ปัจจุบันการตั้งคนวัยเกษียณเป็นอธิการบดี  ลามไปถึงตำแหน่งรองอธิการบดี และลามไปถึงคณบดีแต่ละคณะในมหาวิทยาลัยราชภัฏ,ราชมงคลแล้ว แน่นอนในอนาคตอันใกล้นี้ จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของ2กลุ่มมหาวิทยาลัยเหล่านี้ เพราะไม่สามารถสร้างรายได้ หรือต่อยอดยอดงานวิจัยในเชิงพาณิชย์ได้ รายได้ส่วนใหญ่มาจากค่าเทอมของนักศึกษา ซึ่งมีแนวโน้มจะลดลงปีละ ร้อยละ 5 ทุกๆ ปี นับเป็นวิกฤติอุดมศึกษาไทย ที่ต้องเร่งแก้ไขเร่งด่วน ผมขอเถอะ!! ไม่เอาคนเกษียณมาเป็นอธิการบดี"ผศ.ดร.รัฐกรณ์ ย้ำทิ้งท้าย

          ก่อนจะ“ปรับเปลี่ยน”หรือตัดสินใจใดๆ วอน“บิ๊กตู่-บิ๊กแบ๊ก-หมอธี” โปรดอ่าน!! กฏระเบียบ ข้อบังคับ และกฏหมายที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด ระวัง!! งงเด้ ๆๆ!!!

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ