Lifestyle

ศาลฏีกาชี้ชะตา“รังสรรค์”กับพวก11คนวันนี้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

วันนี้ศาลฏีกาชี้ชะตา“รังสรรค์”กับพวก11คนความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบกล่าวหา“จรัญ ธานีรัตน์"ลอกงานวิจัยเพื่อเลื่อนตำแหน่งทางวิชาการเป็น"ผศ."

         วันนี้(24ก.พ.60) ศาลฏีกานัดชี้ชะตา“รังสรรค์ แสงสุข”กับพวก 11 คน ความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตั้งกรรมการสอบกลั่นแกล้งปลด “ร.ต.ท.จรัญ ธานีรัตน์" อาจารย์คณะศึกษาศาสตร์ กล่าวหาลอกงานวิจัยเพื่อเลื่อนขึ้นตำแหน่ง“ผศ.” แหล่งข่าวระบุ“รังสรรค์”หนีซุกผ้าเหลือง

          รายงานข่าวจากภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ(ภตช.) แจ้งว่า วันนี้ (24 กุมภาพันธ์ 2560) เวลา 09.00 น. ภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ(ภตช.) นำโดยนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการ ภตช. เดินทางมาฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ณ ศาลอาญา ถ.รัชดาฯ กรณี นายรังสรรค์ แสงสุข อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง (ม.ร.) และอดีตรองอธิการบดี ตั้งกรรมการสอบกลั่นแกล้งปลดอาจารย์คณะศึกษาศาสตร์ กล่าวหาลอกงานวิจัยเพื่อเลื่อนขึ้นตำแหน่ง “ผู้ช่วยศาสตราจารย์ หรือ ผศ.” เมื่อวันที่  6 สิงหาคม 2552 ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ 2389 /2548 ที่ ร.ต.ท.จรัญ ธานีรัตน์ อดีตอาจารย์ประจำคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง ศาสตราจารย์รังสรรค์ แสงสุข อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง จำเลยที่ 1

           รศ.เฉลิมพล ศรีหงส์ อดีตรองอธิการบดี จำเลยที่ 2, รศ.ระวิวรรณ ศรีคร้ามครัน อดีตคณบดีคณะศึกษาศาสตร์ จำเลยที่ 3, รศ.วิรัตน์ แดนราช รองอธิการบดี จำเลยที่ 4 , รศ.ประสาท สง่าศรี รองอธิการบดี จำเลยที่ 5 , นายประชา ประยูรพัฒน์ ผู้อำนวยการกองการกีฬา จำเลยที่ 6, นางทิพาพัน ศรีวัฒนศิริกุล หัวหน้างานบุคคล จำเลยที่ 7, รศ.วิริยะ เกตุมาโร รองอธิการบดี จำเลยที่ 8, รศ.วัฒน์ บุญกอบ รองอธิการบดี จำเลยที่ 9, รศ.บุเรง ธนพันธุ์ รองอธิการบดี จำเลยที่ 10 และ รศ.กัลยา ตัณศิริ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ จำเลยที่ 11 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

          คดีนี้โจทก์ฟ้องและนำสืบว่า เดิมโจทก์เป็นอาจารย์ประจำคณะศึกษาศาสตร์ ม.รามคำแหง ได้ทำวิจัยและยื่นผลงานวิจัยกับเอกสารทางวิชาการ เสนอคณะผู้บริหารของมหาวิทยาลัยรามคำแหง เพื่อประกอบการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ (ผศ.) ระดับ 6 ผ่านทาง รศ.ระวิวรรณ ศรีคร้ามครัน จำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นคณบดีคณะศึกษาศาสตร์ ให้เสนอต่อไปยังจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นอธิการบดี โดยการพิจารณาดังกล่าวมีพวกจำเลย เป็นกรรมการกลั่นกรองผลงานของโจทก์ ต่อมามีผู้กล่าวหาว่าโจทก์ลอกเลียนผลงานทางวิชาการจากบุคคลอื่น และได้แต่งตั้ง รศ.วิรัตน์ แดนราช รองอธิการบดี จำเลยที่ 4 เป็นประธานสอบข้อเท็จจริง มี รศ.ประสาท สง่าศรี รองอธิการบดี นายประชา ประยูรพัฒน์ ผอ.กองการกีฬา และ นางทิพาพัน ศรีวัฒนศิริกุล หัวหน้างานบุคคล จำเลยที่ 5-7 เป็นกรรมการ

          สรุปการสอบสวนว่า การกระทำของโจทก์ผิดวินัย จึงมีการตั้ง รศ.วิริยะ เกตุมาโร รองอธิการบดี จำเลยที่ 8 เป็นกรรมการสอบวินัย และมี รศ.วัฒน์ บุญกอบ รองอธิการบดี, รศ.บุเรง ธนพันธุ์ รองอธิการบดี และ รศ.กัลยา ตัณศิริ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ จำเลยที่ 9-11 ร่วมเป็นกรรมการสอบสวน ต่อมากรรมการมีมติให้ปลดโจทก์ออกจากราชการ ซึ่งการกระทำของจำเลยที่ 3-11 เป็นการกลั่นแกล้งโจทก์และเอาใจจำเลยที่ 1 จากนั้นโจทก์ ได้ยื่นอุทธรณ์มติดังกล่าวต่ออนุกรรมการ ซึ่งก็เห็นว่าโจทก์มิได้กระทำผิด โจทก์นำมติดังกล่าวไปแจ้งคณะกรรมการชุดใหญ่ แต่กลับเพิกเฉยไม่นำเรื่องเสนอโจทก์กลับเข้ารับราชการทำให้โจทก์เสียหาย

         ขณะที่ พวกจำเลย ให้การปฏิเสธว่า พวกจำเลยได้รับร้องเรียนเรื่องดังกล่าว จึงตั้งคณะทำงานสอบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอน และรับฟังข้อเท็จจริงจากทุกฝ่ายไปตามอำนาจหน้าที่และหลักวิชาการ ไม่มีเจตนากลั่นแกล้งโจทก์

          ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานที่สองฝ่ายนำสืบแล้วเห็นว่า แม้โจทก์จะถูกกล่าวหาว่าลอกเลียนผลงานทางวิชาการ แต่ก็ได้อ้างอิงแหล่งที่มาไว้ท้ายเล่ม ถือว่าไม่มีเจตนาปกปิด การกระทำของศาสตราจารย์รังสรรค์ อดีตอธิการบดี, รศ.ระวิวรรณ อดีตคณบดีคณะศึกษาศาสตร์ และ รศ.ประสาท รองอธิการบดี จำเลยที่1,3 และ 5 เป็นการเลือกปฏิบัติ ใช้ดุลพินิจโดยมิชอบ โดยเฉพาะจำเลยที่ 1 เป็นอธิการบดีมานาน ย่อมรู้ว่าเหตุการณ์และข้อเท็จจริงต่างๆ จึงฟังได้ว่าเฉพาะจำเลยที่ 1, 3 และ 5 กระทำผิดตามฟ้อง พิพากษาให้จำคุกจำเลยที่ 1 และ 3 คนละ 2 ปี และปรับคนละ 20,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 5 จำคุก 1 ปี ปรับ 10,000 บาท แต่เนื่องจากจำเลยทั้งสามเป็นคณาจารย์ เคยประกอบคุณงามความดีมาก่อน โทษจำคุกจึงสมควรให้รอลงอาญาไว้กำหนด 2 ปี

          ส่วน รศ.เฉลิมพล อดีตรองอธิการบดี, รศ.วิรัตน์รองอธิการบดี, นายประชา ผอ.กองการกีฬา , นางทิพาพัน หัวหน้างานบุคคล , รศ.วิริยะ รองอธิการบดี , รศ.วัฒน์ รองอธิการบดี , รศ.บุเรง รองอธิการบดี และ รศ.กัลยา อาจารย์คณะนิติศาสตร์ จำเลยที่ 2, 4, 6 - 11 โจทก์ไม่นำสืบให้เห็นว่ามีความผิดอย่างไร และไม่มีการกระทำอันเป็นองค์ประกอบความผิด จึงพิพากษายกฟ้อง

          เมื่อวันที่  3 กันยายน 2556 ศาลอุทธรณ์พิจารณายกฟ้องทั้งหมด

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้ใช้ยาวนานมาก ไล่เรียงมาตั้งแต่ศาลชั้นต้น  ศาลอุทธรณ์  และศาลฏีกา (10 ปี) รวมเวลานานร่วม 14 ปี ปัจจุบันโจทก์เกษียณแล้ว ขณะที่ ศ.รังสรรค์  แสงสุข จำเลยคนที่ 1 ได้ออกบวชที่วัดแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร จากนั้นได้ไปย้ายไปจำพรรษาที่วัดแห่งหนึ่งที่จังหวัดชลบุรี จากการติดต่อสอบถามทางวัดดังกล่าวปฏิเสธที่ตอบคำถามหรือให้ข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น กล่าวเพียงสั้นๆว่า “ผู้ใหญ่สั่งห้าม”

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ