"มาร์ค พิตบลู”โผล่ มอบเงิน"ครูจอมทรัพย์"9.3แสนบาท

         เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 ที่อาคารวายุภักษ์ ห้อง 204 ชั้น 2 โรงแรมเซ็นทรา แจ้งวัฒนะ จัดการเสวนา หัวข้อ“ช่วยเหลือแพะ เพื่ออะไร” จัดโดยศูนย์รับเรื่องร้องเรียนผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรม(ศยธ) ภายใต้ มูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น(มตช.)โดยมีวิทยากรผูัทรงคุณวุฒิ อาทิ 1.นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการมูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น 2.นายณัชพล สุพัฒนะ(มาร์ค พิทบูล) ที่ปรึกษา ศยธ.3.นายทวีชัย เจริญบัณฑิต อดีตรองประธานศาลฎีกา และ อดีตอัยการ 4.พลเอก ดร.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ ประธาน ศยธ.มตช. กล่าวเปิดงานโดย นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ประธานมูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น และ อดีตสมาชิกวุฒิสภา จ.ราชบุรี ผู้ดำเนินการเสวนา โดยนายวิวัฒน์ เจริญพาณิชย์ศิริ เลขาธิการ ศยธ.มตช.

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณัชพล สุพัฒนะ หรือ "มาร์ค พิตบูล" ได้เดินทางมามอบเงินที่เหลือ จากการระดมเงินช่วยเหลือ แด่คุณครูจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร ซึ่งระบุว่า“ขออนุญาตไม่รอคำตัดสินของศาลศาล เพราะที่ผ่านมามีความเชื่อมาโดยตลอดว่านางจอมทรัพย์คือผู้บริสุทธิ์และผมมั่นใจว่านางจอมทรัพย์ไม่ใช่บุคคลที่ขับรถชนคนเสียชีวิต”

    ทั้งนี้ หากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้นายณัชพล สุพัฒนะ หรือมาร์ค พิตบูล ได้ออกมาประกาศขอรับเงินบริจาคผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อระดมเงินทุน 1 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือนางจอมทรัพย์ ทั้งนี้มีประชาชนโอนเงินเข้ามาทั้งหมด 1,030,000 บาท และต้องการจะมอบให้ครูจอมทรัพย์เอาไว้ใช้ต่อสู้คดี 100,000 บาท ต่อหน้า พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ก่อนหน้านี้ ส่วนที่เหลือจะนำมามอบให้หลังศาลตัดสินว่าบริสุทธิ์ แต่หากศาลตัดสินว่าผิด จะนำเงินที่เหลือไปบริจาคช่วยชาวบ้านน้ำท่วมภาคใต้แทนนั้น

      ภายหลังการเสวนาเสร็จสิ้นนายณัชพล สุพัฒนะ หรือมาร์ค พิตบูล ได้นำเงินส่วนที่เหลือทั้งสิ้น 930,000 บาท มอบให้กับนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร รวมยอดก่อนหน้านี้และยอดปัจจุบัน เป็นเงินทั้งสิ้น 1,030,000 บาท

      ด้านนางจอมทรัพย์ เผยว่า รู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของคนไทยและนายณัชพลที่ได้แสดงตัวออกมาช่วยเหลือคนที่ไม่ได้รับความยุติธรรม อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณ พ.ต.อ.ดุษฎี และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ได้ให้การช่วยเหลือตนมาตลอด ตอนนี้ตนและครอบครัวอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่จากกระทรวงยุติธรรม ส่วนกรณีที่ขึ้นศาลจังหวัดนครพนมในการกระบวนการสืบพยานในระหว่างวันที่ 8-10 กุมภาพันธ์ 2560 ก็มีความหวังว่าจะได้รับความยุติธรรม เหมือนที่เชื่อมาตลอดว่ายังมีความยุติธรรมอยู่