มส.ห่วงสถานการณ์วัดพระธรรมกาย

          เมื่อวันที่ 20 ก.พ.60 ที่อาคารสมเด็จรัชมังคลาจารย์ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จเป็นองค์ประธานประชุมมหาเถรสมาคม โดย นายพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวภายหลังประชุม มส.ว่า ในการประชุม มส.ไม่ได้มีการหารือถึงกรณีวัดพระธรรมกาย แต่ มส.ก็มีความห่วงใยในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ พระพรหมมุนี (อคคฺชิโน) เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช มีบัญชาให้ เจ้าคณะปกครองที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกายทั้งหมดประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยมีสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เป็นประธานการประชุมเจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี  ร่วมกับผู้แทนกระทรวงยุติธรรม และผู้แทน มส. เข้าสังเกตการณ์ในวันนี้ แต่ขอไม่เปิดเผยสถานที่ประชุมแต่อย่างใด
          อย่างไรก็ตาม สมเด็จพระสังฆราช ไม่ได้มีรับสั่งอะไรโดยตรงในเรื่องวัดพระธรรมกายกับทาง พศ.แต่อย่างใด ส่วนทีมเจ้าหน้าที่ที่ พศ.ส่งเข้าไปประสานกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอนั้น ไม่ได้มีหน้าที่ในการจับกุม มีหน้าที่เพียงแค่การประสานงานเท่านั้น ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจะมีพระภิกษุเข้ามาเพิ่มเติมที่วัดพระธรรมกายนั้น ได้ประสานงานไปยังเจ้าคณะปกครองทุกจังหวัดให้กำชับคณะสงฆ์ หากเข้ามาจะมีความผิดตามมาตรา 44 เนื่องจากเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษของคสช. นอกจากนี้ คณะสงฆ์จะร่วมมือกับฝ่ายบ้านเมืองให้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติและไม่กระทบต่อภาพรวมของพระพุทธศาสนา
           ด้าน ว่าที่ร.ต. ดร.จุลสัน ทันอินทร์อาจ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างดีเอสไอกับวัดพระธรรมกาย ทาง พศ.ได้ทำหน้าที่ประสานงานอย่างเต็มกำลัง โดยเฉพาะในวันที่ 21-23 ก.พ.ทางคณะสงฆ์จังหวัดปทุมธานี ได้มีจัดสอบบาลีสนามหลวงประจำปี 2560 ซึ่งคณะสงฆ์วัดพระธรรมกายจะต้องเข้าสอบจำนวน 564 รูป ทางพระเทพรัตนสุธี เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี พร้อม พศ.ได้ทำหนังสือพร้อมรายชื่อพระสงฆ์ที่จะต้องสอบบาลีสนามหลวงต่อดีเอสไอแล้ว ทางดีเอสไอพร้อมที่จะให้ความร่วมมืออำนวยความสะดวก โดยพระที่จะสอบจำนวนดังกล่าว จะเดินทางไปสอบยังสนามสอบวัดเขียนเขต
        ทั้งนี้ พศ.ได้ทำหน้าที่ประสานงานกับดีเอสไอ และทางวัดพระธรรมกายมาโดยตลอด ซึ่งพยายามสร้างความเข้าใจต่อทุกฝ่าย ส่วนสถานการณ์การกระทบกระทั่งที่เกิดขึ้น สุดวิสัยในการดูแลควบคุมของพศ. สำหรับกรณีทางดีเอสไอ ได้มีหนังสือเรียกพระสงฆ์ของวัดพระธรรมกายจำนวน 14 รูปนั้น ดีเอสไอ ได้หารือกับเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องของทางเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีว่า จะมีการประสานงานกับพระทั้ง 14 รูปอย่างไร โดยพศ.ไม่มีอำนาจเข้าไปดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลล่าสุดพบว่า มีพระภิกษุ สามเณร ที่อยู่ในวัดพระธรรมกาย จำนวน 1,200 รูป มีพระต่างชาติ ที่มาจากสหภาพเมียนมา จำนวน 3 รูป ซึ่งมาแปลพระไตรปิฎกอยู่ในวัดพระธรรมกาย
         "ส่วนข้อกังวัลที่จะมีมือที่สามเข้ามาปะปนกับพระภิกษุในวัดพระธรรมกาย ทางวัดพระธรรมกาย ได้มีการคัดกรองพระภิกษุในวัดเป็นอย่างดี โดยเฉพาะพระภิกษุต่างชาติทางดีเอสไอก็ได้มีการตรวจสอบไปแล้ว ที่สำคัญการกระบวนการของพระภิกษุต่างชาติที่จะมาอยู่ในวัดพระธรรมกายนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย จะต้องผ่านกระบวนการคัดกรองตั้งแต่ ตรวจคนเข้าเมือง มีหนังสือรับรองจากประเทศต้นทางอย่างละเอียดด้วย"ว่าที่ ร.ต.ดร.จุลสัน กล่าว