Lifestyle

5สมัยกับสวนดุสิต5.0

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“ใครๆก็พูดว่าประเทศไทยจะก้าวไปยุค4.0 คำถามคือว่าจริงๆแล้วเราพร้อมสำหรับการก้าวเข้าไปหาตำคอบกับ 5สมัยกับสวนดุสิต5.0 “รศ.ดร.ศิโรจน์ ผลพันธิน” อธิการบดีมสด.

 

       “ใครๆก็พูดว่าประเทศไทยจะก้าวไปยุค4.0 คำถามคือว่าจริงๆแล้วเราพร้อมสำหรับการก้าวเข้าไปสู่ยุค4.0 จริงหรือไม่ บุคคลากรของเรามีความรู้ความสามารถที่มากพอหรือไม่ สวนดุสิตจึงต้องกลับมามองดูตัวเองว่าสมรรถนะที่แท้จริงเราอยู่ตรงไหน ตอนนี้เราพร้อมหรือไม่ที่จะก้าวเดินไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ประกาศไว้ ณ ขณะนี้จึงต้องกลับมาสำรวจและถามตัวเองว่า เรามีความพร้อมด้านไหนและจะตอบสนองนโยบายของรัฐบาลที่ประกาศว่าประเทศไทยจะก้าวไปสู่ยุค4.0 ได้อย่างไร”  รศ.ดร.ศิโรจน์ ผลพันธิน อธิการบดีมหาวิทยาลัยสวนดุสิต (มสด.)ให้สัมภาษณ์กับ“คมชัดลึก” 

      ยุคหนึ่งใครๆต่างเห็นว่า “มสด.” รุ่งเรือง ซึ่ง “ศิโรจน์” ก็ไม่ได้ปฏิเสธ แต่เขาอธิบายว่า ณ ปัจจุบัน คนยุคนั้นๆ บางคนก็เกษียณไปแล้ว บางคนก็ลาออกจากราชการไปไม่ได้อยู่ในวงการ  สถานการณ์ปัจจุบัน ต้องมาดูว่าองคาพยพที่ มสด.เหลืออยู่นั้น มีความเด่นในด้านใดบ้าง พร้อมทั้งอธิบายพัฒนาการต่างๆของสถาบันการศึกษาแห่งนี้ว่าเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏ 5 ยุคหรือ 5.0 นั้นเอง

5สมัยกับสวนดุสิต5.0

       เพราะยุคแรกๆ มสด.เกิดมากจากโรงเรียนการเรือน ปี.2484 อันนี้ขอเรียกว่า 1.0 การก่อตั้งสมัยนั้นเพิื่อฝึกอบรมการบ้านการเรือนสำหรับสตรีและเปิดสอนหลักสูตรอบรมครูการเรือน ต่อมาเป็นวิทยาลัยครู ปี 2504 ซึ่งก็คือ 2.0  เน้นการผลิตครูปฐมวัย ครูการศึกษาพิเศษ ครูคหกรรม และศาสตร์อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับคหกรรมศาสตร์ร่วมถึงหลักสูตรด้านการบริการ 

5สมัยกับสวนดุสิต5.0

5สมัยกับสวนดุสิต5.0

       ต่อมาเป็นยุคสถาบันราชภัฏ 3.0 ปี 2538 เน้นด้านคหกรรม อาหาร ปฐมวัย อุตสาหกรรมบริการ และเริ่มใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการเรียนการสอนและการบริหาร มหาวิทยาลัยราชภัฏ 4.0 ปี 2547  มีการกำหนดอัตลักษณ์ด้านอาหาร ปฐมวัน อุตสาหกรรมบริการและพยาบาลศาสตร์ โดยเน้นเชื่อมโยงกับเครือข่ายทั้งภายในและภายนอก และเป็นมหาวิทยาลัยสวนดุสิต (ม.ในกำกับ)ก็คือปัจจุบันเรียกให้ง่ายๆคือ 5.0 มุุ่งเน้นการขับเคลื่อนการเป็นมหาวิทยาลัยเฉพาะทางในสาขาอัตลักษณ์ที่มีความโดดเด่นของหลักสูตร สร้างสรรค์สิ่งใหม่ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรและเพิ่มมูลค่าทางวิชาการนั่นเอง

5สมัยกับสวนดุสิต5.0

       “การจะเป็น 4.0 ของรัฐบาลคือการคิดค้นพัฒนาวิจัยและต่อยอดไปสร้างรายได้ พูดภาษาชาวบ้านให้เข้าใจง่ายๆคือ อะไรที่ขายได้ นั่นคืิอ 4.0 ตอนนี้สวนดุสิตกลับมามองดูตัวเอง และสรุปให้ได้ว่า มหาวิทยาลัยสวนดุสิตวันนี้อยู่ตรงไหน เพื่อให้เดินต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงตอนนี้เราได้คำตอบแล้วว่า จุดเด่นของเราคือเรามาจากโรงเรียนการเรือนเราก็จะพัฒนาต่อให้เป็นจุดเด่นคือเน้นผลิตบัณฑิตด้านอาหาร ได้แก่หลักสูตรเทคโนโลยีการประกอบอาหารและการบริหาร หลักสูตรโภชนการและการประกอบอาหาร และหลักสูตรคหกรรมศาสตร์ ที่เราจะแข่งขันได้ด้านการโรงแรมและอาหาร พัฒนาต่อยอดมาเป๋็นร้านโฮมเบเกอรี่ และร้านกาแฟ มีผลิตภัณฑ์ของเราเอง ผลิตและขายได้ อันนี้ตอบได้ว่ามันคือ 4.0 ต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่องและขยายธุรกิจให้ใหญ่ขึ้นต่อไป” รศ.ดร.ศิโรจน์ กล่าว

5สมัยกับสวนดุสิต5.0

      นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรด้านการศึกษาปฐมวัย การผลิตครูที่เรามีความโดดเด่นทางด้านปฐมวัยที่เชื่อได้ว่ามีคุณภาพด้วยการเพิ่มการเรียนการสอนที่เข้มข้นให้ก้าวทันกับโลกยุคดิจิตอล ทำให้การเรียนการสอนที่มีคุณภาพเข้มข้น บัณฑิตทุกคนใช้สื่อดิจิตอลค้นคว้าและใช้ในการสอน และเพิ่มเติมด้านการสื่อสารภาษาอังกฤษอีกด้วย รวมทั้งหลักสูตรด้านการพยาบาลและสุขภาวะได้แก่ หลักสูตรพยาบาลศาสตร์ เป็นต้น

5สมัยกับสวนดุสิต5.0

5สมัยกับสวนดุสิต5.0

      อย่างไรก็ตาม อธิการบดีมสด.กล่าวว่าจะต้องพัฒนาหลักสูตรและสร้างความโดดเด่นให้สอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนไปเพื่อให้สามารถแข่งขันได้และสอดรับกับนโยบาย 4.0 ของรัฐบาลโดยเฉพาะหลักสูตรที่มีการแข่งขันสูงที่จะต้องเน้นความแตกต่างและสร้างอัตลักษณ์ให้กับสถาบัน เช่นหลักสูตรนิติศาสตร์ที่มีการปรับให้นักศึกษาได้เรียนรู้ด้านรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ไปพร้อมๆกัน หรือหลักสูตรนิเทศศาสต์ที่อยู่ระหว่างการปรับหลักสูตรให้มีความทันสมัยเข้ากับยุคดิจิตอล  ขณะเดียวกันก็สร้างหลักสูตรใหม่ที่มีความทันสมัย เช่นหลักสูตรเลขานุการทางการแพทย์ ที่ผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด เพราะแพทย์ปัจจุบันต้องการเลขานุการที่มีความชำนาญเฉพาะทางไป จะทำให้สามารถทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น 

0 หทัยรัตน์ ดีประเสริฐ 0 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ