Lifestyle

สพฉ.แจงปมอนุญาตจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมด้านการกู้ชีพ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สพฉ.แจงปมอนุญาตจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมด้านการกู้ชีพ ระบุ เป็นอำนาจหน้าที่พิจารณารับรองของ อศป. ชี้มีหลักเกณฑ์ในการขออนุญาตจัดตั้งที่ชัดเจนโปร่งใส ตรวจสอบได้

         ภายหลังจากที่สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติถูกร้องเรียนในเรื่องการอนุญาตจัดตั้งองค์กรฝึก อบรมด้านการกู้ชีพ โดยผู้ร้องเรียนระบุว่า สพฉ.ถ่วงเวลา เลือกปฏิบัติ และอนุญาตให้มีการจัดตั้งองค์กร ฝึกอบรมด้านการกู้ชีพแต่พรรคพวกของตนเองนั้น

          นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง ถึงประเด็นร้องเรียนต่างๆ เหล่านี้ว่า ข้อเท็จจริงและขั้นตอนในการที่จะรับรองให้หน่วยงานใดเปิดหลักสูตร ในการฝึกอบรมด้านการกู้ชีพได้นั้นจะเป็นอำนาจหน้าที่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการรับรององค์กรและหลักสูตรการศึกษาหรือฝึกอบรมผู้ปฏิบัติการและการให้ประกาศนียบัตรหรือเครื่องหมายวิทยฐานะแก่ผู้ผ่านการศึกษาหรือฝึกอบรม หรือชื่อย่อเรียกว่า อศป. ที่ถูกแต่งตั้งโดยคณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉิน ทั้งนี้ สพฉ. มีหน้าที่เป็นเลขานุการของคณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉินและ อศป. ซึ่ง สพฉ.ไม่ได้มีหน้าที่พิจารณาอนุมัติ หรือรับรองให้องค์กรหนึ่งองค์กรใดเปิดหลักสูตรในการฝึกอบรมด้านการกู้ชีพแก่ผู้ปฏิบัติการได้ ดังนั้น ข้อร้องเรียนที่ว่า สพฉ.ถ่วงเวลา เลือกปฏิบัติ และอนุญาตให้มีการจัดตั้งองค์กรฝึกอบรมด้านการกู้ชีพ แต่พรรค พวกของตนเองนั้น จึงไม่เป็นความจริง เพราะทุกอย่างมีระบบและขั้นตอนที่ต้องผ่านคณะอนุกรรมการฯ ไม่ใช่ สพฉ.เป็นผู้พิจารณา

           เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กล่าวว่า หน้าที่ของเราคือเป็นฝ่ายเลขานุการที่จะคอย รวบรวมเอกสารเกี่ยวกับข้อบังคับที่ผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉิน และ อศป. รวมถึงประกาศให้ทราบว่าหน่วยงานใดบ้างที่ผ่านเกณฑ์การรับรองให้เปิดหลักสูตรได้ตามความเห็นชอบของ อศป.  ซึ่งหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการรับรององค์กรฝึกอบรมที่ดำเนินการฝึกอบรมปฏิบัติการแพทย์ขั้นพื้นฐานและช่วยปฏิบัติการแพทย์ขั้นสูง ตามประกาศของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติตามมติของคณะกรรมการการแพทย์ ฉุกเฉิน พ.ศ.2557 ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า องค์กรที่จะขอตั้งเป็นองค์กรฝึกอบรมนั้นจะต้องเป็นสถาบันการศึกษา ระดับปริญญาตรีสาขาปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์หรือองค์กรที่เปิดหลักสูตรพยาบาลเวชปฏิบัติฉุกเฉินหรือศูนย์แพทยศาสตร์ศึกษาหรือคณะแพทยศาสตร์หรือแหล่งฝึกอบรมแพทย์เฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉินหรือองค์กรที่มีขีดความสามารถเทียบเท่าสถาบันหลักข้างต้นที่ อศป.รับรอง กรณีไม่มีคุณสมบัติดังกล่าวข้างต้นต้องขอสมทบกับสถาบันหลัก ทั้งนี้ต้องผ่านการตรวจรับรองจากสถาบันหลักก่อนเปิดการฝึกอบรมตามที่อศป.กำหนด ซึ่งองค์กรใดๆ ที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดก็สามารถขอรับรองจาก อศป.ได้ หากผ่านหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขก็สามารถเปิดการอบรมได้ ไม่จำกัดเฉพาะหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง และไม่สามารถเลือกปฏิบัติ หรือเลือกพวกพ้องได้

          นพ.อนุชา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของหลักเกณฑ์เงื่อนไข เกณฑ์ ขั้นตอนและวิธีการต่างๆ ในการขอรับรองเป็นองค์กรฝึกอบรมไม่ใช่ข้อมูลปิด เราได้ประกาศบนเว็บไซด์ของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน แห่งชาติอย่างเป็นทางการ ซึ่งประชาชนและหน่วยงานที่สนใจก็สามารถดาวน์โหลดอ่านได้

           “การกล่าวหาว่า สพฉ.ถ่วงเวลา เลือกปฏิบัติ และอนุญาตให้มีการจัดตั้งองค์กรฝึกอบรมด้านการ กู้ชีพแต่พรรคพวกของตนเองนั้น จึงเป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงและไม่เป็นความจริง เพราะขั้นตอน และระบบ ในการรับรองมีคณะอนุกรรมการที่ตั้งขึ้นมาพิจารณาอย่างชัดเจนและรอบคอบตรวจสอบ ได้ทุกขั้นตอน ไม่มีการเล่นพรรคเล่นพวก เพราะการอนุมัติให้หน่วยงานหนึ่งหน่วยงานใดได้รับการจัดตั้งเป็นองค์กรฝึกอบรมนั้น ประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นมากที่สุดคือประชาชนที่จะได้รับการให้บริการจากหน่วยงานและผู้ปฏิบัติการที่มีคุณภาพ มาตรฐาน เพราะหมายถึงความเป็นความตายของชีวิตผู้คน หน่วยงานที่จะได้รับการรับรอง จึงต้องผ่านการพิจารณาและตรวจสอบหลายขั้นตอน ซึ่งในเบื้องต้นหน่วยงานที่ได้รับการอนุมัติ ให้จัดตั้ง เป็นองค์กรฝึกอบรมได้นั้น เป็นโรงพยาบาลในแต่ละจังหวัดและสำนักงานสาธารณสุขในแต่ละจังหวัด” เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติระบุ

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ