Lifestyle

สกสค.คิกออฟโครงการแก้หนี้ครูวิกฤตดอกเบี้ย 3.5

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“พิษณุ” เปิดโครงการนำร่องแก้ปัญหาครูมีหนี้สินวิกฤต ให้ครูรวมหนี้ไว้ที่ สกสค.คิดดอกเบี้ยไม่เกิน ร้อยละ 3.5 ต่อปี ตั้งเป้าเริ่มที่ 770 คน พร้อมเงื่อนไขไม่ก่อหนี้เพิ่ม มีชื่อติดเครดิตบูโร

เมื่อวันที่ 12 ม.ค. ที่หอประชุมคุรุสภา ดร.พิษณุ ตุลสุข รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) กล่าวตอนหนึ่งในการประชุมปฏิบัติการแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตครู ซึ่งมีครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีปัญหาหนี้สินต้องได้รับความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนจากทุกจังหวัด เข้าร่วม 260 คน ว่า วันนี้เป็นการเริ่มต้นนำร่องโครงการแก้ไขปัญหาครูและบุคลากรทางการศึกษากลุ่มที่มีหนี้สินวิกฤต ซึ่งจากการสำรวจข้อมูล พบว่า ทั่วประเทศครูและบุคลากรทางการศึกษา มีหนี้สินขั้นวิกฤต ประมาณ 30,000 คน มีหนี้เฉลี่ยรายละ  2-3 ล้านบาท

ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาหนี้สินครูนั้น  สกสค.ได้น้อมนำพระราโชบายของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปฏิบัติ คือ ค่อยๆทำ เรียนรู้ และค่อยๆขยายผล โดยเริ่มนำร่องแก้ไขปัญหาให้ครูฯทั้งที่ยังประจำการอยู่และออกจากราชการไปแล้ว โดยโครงการฯจะคัดเลือกผู้ที่เป็นหนี้วิกฤต มาจังหวัดละ 10 คน รวม 770 คนเข้าร่วม ซึ่งผู้เข้าร่วมจะต้องยอมรับกติการและเข้าร่วมด้วยความสมัครใจ

" วิธีการแก้ไขปัญหาเริ่มจากกลุ่มที่เป็นหนี้วิกฤตสูงถูกยื่นฟ้อง กำลังจะล้มละลายก่อน โดยให้รวมหนี้สินที่ครูมีทั้งหมดเป็นก้อนเดียว ซึ่งสกสค.จะส่งเงินชำระหนี้ผ่านสหกรณ์ออมทรัพย์ครู โดยครูต้องมาทำสัญญากู้เงินและผ่อนชำระที่สหกรณ์ฯ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำไม่เกิน ร้อยละ 3.5 ต่อปี เพื่อให้หักเงินต้นได้มากขึ้นระยะเวลาชำระหนี้สั้นลง ทั้งนี้ มีเงื่อนไขว่าผู้เข้าร่วมโครงการฯต้องไม่ก่อหนี้เพิ่ม ถูกขึ้นเครดิตบูโรกับ สกสค. ผู้บังคับบัญชาต้องเซ็นอนุมัติการกู้และต้องไม่ให้ครูฯที่ร่วมโครงการฯไปกู้ที่ไหนอีก ตลอดจนเข้ารับการอบรมเศรษฐกิจพอเพียง ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้โดยพัฒนาต่อยอดความรู้ ความสามารถที่มี  ซึ่งเมื่อครูผ่อนชำระหนี้เข้าโครงการฯ สกสค.ก็จะขยายผลเพิ่มจำนวนผู้กู้มากขึ้นเรื่อยๆ โดยขณะนี้ สกสค.มีทุนเริ่มต้นในการดำเนินโครงการฯ ประมาณ 1,000 ล้านบาทและจากการเจรจากับสถาบันการเงิน 3-4 แห่งก็ยินดีเข้าร่วมโครงการ แต่ผมอยากให้โครงการฯนี้ค่อยเป็นค่อยไป”ดร.พิษณุ กล่าวและว่า ภายในเดือนมกราคมนี้ ตนจะเชิญประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูทั่วประเทศมาประชุมทำความเข้าใจ

ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค. กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ได้มีการตั้งบุคลากรเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ประจำในสกสค.จังหวัดแล้ว 70 จังหวัด โดยจะมีโปรแกรมคำนวณหนี้สิน รายรับและรายจ่ายทั้งหมดของครูฯ ว่า แต่ละเดือนต้องผ่อนชำระหนี้เท่าไร และภายในกี่ปี ถึงจะปลดหนี้ได้ ซึ่งครูฯไปขอคำแนะนำเพื่อวางแผนทางการเงินและสมัครเข้าร่วมโครงการ  

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ