Lifestyle

จ่อชงบอร์ดไฟเขียวปรับโครงสร้าง สกสค.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สกสค.เร่งแก้หนี้องค์การค้าฯ หวั่นถูกอายัติบัญชีเพิ่ม หลังที่ถูกอายัติไปแล้ว 98 ล้านบาท จ่อชง บอร์ด สกสค.ปรับโครงสร้างใหญ่ จัดระเบียบภายในผุดสำนักตรวจติดตามฯ

เมื่อวันที่ 11 ม.ค.60 ดร.พิษณุ  ตุลสุข  รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคคลากรทางการศึกษา(สกสค.) เปิดเผยว่า  เมื่อเร็ว ๆ นี้ จากการประชุมร่วมกับผู้บริหาร สกสค.เกี่ยวกับการปรับโครงสร้าง สกสค.ครั้งใหญ่ ซึ่งมีทั้งการยุบรวมหน่วยงานภายใน และจัดตั้งหน่วยงานใหม่ เพื่อให้การบริหารงาน และการดูแลคุณภาพชีวิตครูเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ  ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติยุบสำนักแผนยุทธศาสตร์มารวมกับกลุ่มอำนวยการ เนื่องจากเป็นงานที่มีความเชื่อมโยงกัน และเพิ่มสำนักตรวจติดตามและประเมินการทำงานขึ้น จากเดิมที่มีเพียงสำนักประเมินภายใน และพบปัญหาเรื่องการตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ ของสมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเหลือเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) และสมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์เพื่อช่วยเหลือเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาในกรณีคู่สมรสถึงแก่กรรม (ช.พ.ส.) ทำให้ยากต่อการติดตาม โดยเฉพาะกลุ่มที่เกษียณอายุราชการ ที่อาจจะหลงลืมชำระค่าสงเคราะห์รายศพ เป็นรายเดือน และหากขาดส่ง 3 งวดติดต่อกัน ก็จะถูกถอดชื่อออกจากการเป็นสมาชิก ทำให้เสียสิทธิ์

ทั้งนี้ สำนักตรวจติตามฯจะทำงานประสานกับ สกสค.จังหวัด เชื่อว่าจะทำให้การติดตามหนี้ครูเป็นไปอย่างมีระบบมากขึ้น  อย่างไรก็ตาม จะเสนอโครงสร้างใหม่ ให้คณะกรรมการ สกสค. ที่มีนพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานพิจารณาและให้ความเห็นชอบอีกครั้ง จากนั้นจะต้องมีการปรับอัตราบุคลากรให้เหมาะสมกับการทำงานของแต่ละหน่วยงาน ซึ่งคาดว่าสกสค.จะเริ่มทำงานตามโครงสร้างใหม่ได้ภายใน 1 เมษายนนี้

ด้าน นายวิวัฒน์ อ้นน่วม รองเลขาธิการ สกสค. กล่าวว่า  การปรับโครงสร้างครั้งนี้ ตนได้รับมอบหมายให้เป็นผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาชีวิตครู เดิมมีวัตถุประสงค์ให้ทำหน้าที่ในการดูแลคุณภาพชีวิตครู สร้างอาชีพและแก้ไขปัญหาหนี้สินครูในเบื้องต้นไม่ให้มีการก่อหนี้สินมากขึ้น แต่ภายหลังการทำงานไม่เป็นไปตามเป้าหมาย จึงทำให้ศูนย์ดังกล่าวถูกลดบทบาทลง  จนทำให้การทำงานไม่เป็นไปตามภารกิจที่วางไว้ ดังนั้น จะทำการฟื้นฟูการบริหารงานของศูนย์พัฒนาชีวิตครู โดยปรับองค์ประกอบการทำงาน รวมถึงจะนำเรื่องการแก้ปัญหาหนี้สินครูมาเป็นหนึ่งในภารกิจหลักของศูนย์นี้ด้วย ส่วนการบริหารงานองค์การค้าของสกสค.นั้น ยังไม่ทราบทิศทางที่ชัดเจน แต่เบื้องต้นจะเร่งแก้ปัญหาหนี้สิน ในส่วนที่องค์การค้าฯ ต้องจ่ายให้แก่พนักงาน จำนวน 1,210 ล้านบาทตามคำสั่งศาลฎีกาก่อนเพื่อไม่ให้กระทบกับการบริหารธุรกิจ

“หลังศาลฎีกามีคำสั่ง ให้องค์การค้าฯ จ่ายเงินให้แก่พนักงาน แต่ผู้ได้รับผลกระทบหลายคนยังไม่มั่นใจ จึงขอให้ศาลมีคำสั่งอายัติบัญชีเงินฝากของสกสค. ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการอายัติไปแล้ว 1 บัญชี เป็นเงิน  98 ล้านบาท และทางธนาคารได้แจ้งขออายัติบัญชีเงินฝากเพิ่มอีก โดยสกสค.มีบัญชีเงินฝากทั้งหมด 30-40 บัญชี เป็นเงินรวมกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งสกสค. จะเร่งหาแนวทางแก้ไข โดยการประชุมคณะกรรมการสกสค. เมื่อเร็ว ๆ เห็นชอบให้สกสค.นำที่ดินขององค์การค้าฯ มาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้กับสถาบันการเงิน โดยองค์การค้าฯ มีที่ดินทั้งหมด 9 แปลง ราคาประเมินรวม 3,700 ล้านบาท  โดยที่ดินที่คาดว่าจะใช้ในการค้ำประกันวงเงินกู้คือ ที่ดินย่านลาดพร้าว ซึ่งมีจำนวน 47 ไร่ เนื่องจากมีราคาประเมินสูงสุด”นายวิวัฒน์ กล่าว

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ