Lifestyle

ของขวัญวันเด็กคัดกรองสายตาป.1ทั่วประเทศมอบแว่นตาให้ฟรี!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สธ.มอบของขวัญวันเด็ก คัดกรองสายตาเด็กป.1ทั่วประเทศกว่า1ล้านคน มอบแว่นตาฟรี! ยันเด็กตกค้างจากปี59ได้แว่นก่อนเปิดเทอมปี60แน่นอน สปสช.จัดงบฯปี 60ให้17.5 ล้านบาท

                เมื่อวันที่ 11 มกราคม  ที่กระทรวงสาธารณสุข ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.)  แถลงข่าว “ของขวัญวันเด็กปี 2560 กระทรวงสาธารณสุข ร่วมสร้างสรรค์อนาคตสดใส เด็กไทยสายตาดี” ว่า  สธ.จัดโครงการเด็กไทยสายตาดีมอบเป็นของขวัญวันเด็กแห่งชาติในปี 2560 ตั้งเป้าหมายตรวจคัดกรองสายตาเด็กป.1ในโรงเรียนทุกสังกัดทั่วประเทศ รวม 1,.04 ล้านคน  พร้อมมอบแว่นสายตาแก่เด็กที่มีสายตาผิดปกติฟรี 43,006 คน แบ่งเป็นปีการศึกษา 2559 คัดกรอง 4 แสนคน มอบแว่นสายตา 18,006 คน และปีการศึกษา 2560 คัดกรอง 6.4 แสนคน มอบแว่นตา 25,000 คน เป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากปี 2559  ด้วยการจัดหาแว่นตาสำหรับเด็กเพิ่มเติม และจัดอบรมการวัดแว่นในเด็กแก่บุคลากรที่เกี่ยวข้องให้เกิดความต่อเนื่อง ยั่งยืน และครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เด็กไทยมีสายตาดี เพิ่มโอกาสในการเรียนรู้

        “ผลการวิจัยการพัฒนาระบบการคัดกรองภาวะสายตาผิดปกติและประกอบแว่นสายตาสำหรับเด็กวัยก่อนประถมศึกษาและประถมศึกษาในประเทศไทย โดยโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ (HITAPP) ปี 2554-2555 พบเด็กไทยมีภาวะสายตาผิดปกติร้อยละ 6.6 และจำเป็นต้องใส่แว่นสายตาร้อยละ 4.1 โดยเด็กป.1 ที่มีประมาณ 800,000 คน มีปัญหาสายตาสมควรใส่แว่นประมาณ 32,000 คน เนื่องจากสายตาและการมองเห็นเป็นจุดเริ่มต้นของพัฒนาการทางสมองและการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เด็กที่มีภาวะสายตาผิดปกติหากได้รับการตรวจวินิจฉัย รักษาอย่างเหมาะสม แก้ไขทันเวลาด้วยการสวมแว่นตา ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกและมีค่าใช้จ่ายต่ำที่สุด เฉลี่ยรายละ 700 บาท มีประสิทธิผลในการป้องกันภาวะตาบอดและตาเลือนรางได้” ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกลกล่าว

ของขวัญวันเด็กคัดกรองสายตาป.1ทั่วประเทศมอบแว่นตาให้ฟรี!

         นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า สธ. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สปสช. กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย ดำเนินการโครงการเด็กไทยสายตาดี ตามแผนพัฒนาระบบสุขภาพ (Service Plan) สาขาโรคตา โดยมีครูอนามัย/ครูประจำชั้นคัดกรองเด็กที่มีความผิดปกติเบื้องต้น และส่งต่อไปคัดกรองซ้ำที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือพบจักษุแพทย์และพยาบาลเวชปฏิบัติทางตาตามระบบ เพื่อวัดค่าสายตาและประกอบแว่นตามอบให้เด็กต่อไป พร้อมติดตามผลซ้ำอย่างน้อยปีละครั้ง ผลการดำเนินงานในปี 2559 คัดกรองสายตาเด็กป.1 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 113,115 คน มอบแว่น 1,539 คน และปีการศึกษา 2559 คัดกรอง 240,000 คน พบผิดปกติ 7,414 คนได้รับแว่นแล้ว 1,954 คน  โดยในงานวันเด็กแห่งชาติ 14 มกราคมปีนี้ กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานในสังกัด จะจัดกิจกรรมการคัดกรองสายตาเด็ก ป.1 ร่วมกับกิจกรรมอื่นๆ พร้อมกันทั่วประเทศ โดยส่วนกลางจัดที่บู๊ทกระทรวงสาธารณสุข (D6) สนามเสือป่า กทม.

        ด้านนพ.ปานเนตร ปางพุฒิพงศ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า เด็กที่คัดกรองเมื่อปีการศึกษา 2559 แต่ยังไม่ได้รับแว่นตานั้น  เนื่องจากเป็นช่วงแรกของการดำเนินงานยังพัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่ ครูและบุคลากรได้ไม่เต็มที่ รวมถึง การจัดหาและกระจายแว่นตายังไม่ดีนักทำให้มีความล่าช้า แต่เด็กที่ตกค้างอยู่ทั้งหมดจะได้รับแว่นตาก่อนเปิดการศึกษา 2560 แน่นอน จากนั้นหลังเดือนพฤษภาคมจะเป็นการจัดหาแว่นตาให้แก่เด็กที่คัดกรองในปีการศึกษา 2560 และในปีต่อๆ ไปก็จะไม่มีการตกค้างอีก เพราะจะเข้าสู่ระบบปกติเป็นสิทธิประโยชน์ตามสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือบัตรทอง ทั้งนี้ อยากให้ครูหรือผู้ปกครองใช้แบบทดสอบสายตาคัดกรองเด็กเบื้องต้น หากพบว่าไม่สามารถอ่านตัวเลขในแถวที่ 5 ได้ในระยะ 6 เมตร ให้พาเด็กไปพบจักษุแพทย์

ของขวัญวันเด็กคัดกรองสายตาป.1ทั่วประเทศมอบแว่นตาให้ฟรี!

       “การพัฒนาของสายตาจะเริ่มตั้งแต่แรกคลอด จนสมบูรณ์เต็มที่เมื่ออายุประมาณ 10 ปี แล้วสายตาจะคงที่จนกระทั่งโตเป็นผู้ใหญ่ ความผิดปกติของตาตั้งแต่เด็กจึงมีผลอย่างมากต่อการมองเห็นไปตลอดชีวิต จึงขอให้พ่อแม่ ผู้ปกครองสังเกตอาการผิดปกติของสายตาและการมองเห็น เช่น ตาเข ตาเหล่ ตาลอยซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะตาขี้เกียจและสายตามัวตามมา เอียงหน้าหรือเอียงคอมอง ดูหนังสือหรือดูโทรทัศน์ในระยะใกล้ บ่นปวดศีรษะในตอนเย็นหรือหลังเลิกเรียน บ่นว่ามองกระดานไม่ชัด ขอให้พาไปพบจักษุแพทย์ หรือปรึกษาครูประจำชั้น เพื่อคัดกรอง ส่งต่อเข้าระบบการดูแลต่อไป ทั้งนี้ กรมการแพทย์ ได้อบรมการวัดแว่นในเด็กแก่จักษุแพทย์และพยาบาลเวชปฏิบัติทางตาจากโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไป 131 แห่ง จำนวน 100 คน และสนับสนุนแว่นตาสำหรับเด็กแล้ว106 แห่ง” นพ.ปานเนตรกล่าว

            นพ.กฤช สี่ทองอิน ที่ปรึกษาสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) กล่าวว่า ในปี 2559 สปสช.ได้จัดสรรงบประมาณในส่วนของงบฯ บริหารสำนักงานจำนวน 15 ล้านบาทให้กับกรมการแพทย์จัดดำเนินการในเรื่องอบรมพัฒนาครูและจัดหาแว่นตาให้แก่เด็ก และในปี 2560 ได้จัดสรรงบประมาณ 17.5 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการจัดหาแว่นสายตาให้แก่เด็ก 25,000 แว่นตา ส่วนในระยะยาวจะใช้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)ในการนำงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพตำบลมาใช้ในการจัดหาแว่นตาให้แก่เด็ก    

           นพ.ณัฐพร  วงษ์ศุทธิภากร รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัย ได้ร่วมกับสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี อบรมความรู้เกี่ยวกับการคัดกรองสายตา และความรู้เรื่องความผิดปกติของสายตา แก่พยาบาลเวชปฏิบัติด้านตา ในรพศ./รพท. จากโรงพยาบาลที่มีคลินิกตา จำนวน 115 แห่ง เพื่อไปอบรมพยาบาลเวชปฏิบัติด้านตา/เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในโรงพยาบาลชุมชน/รพ.สต.ทุกแห่ง จำนวน 10,600 คน และครูประชั้น ป.1 จำนวน 41,000 คน จากโรงเรียนทุกสังกัด 24,000 แห่ง พร้อมทั้งจัดทำชุดอุปกรณ์การตรวจวัดสายตา ได้แก่ คู่มือการตรวจคัดกรองสายตา แผ่นทดสอบสายตาแบบ E chart แผ่นทดสอบสายตา Snellen Chart และไม้บังตา จำนวน 35,000 ชุด สำหรับใช้ในการตรวจคัดกรองแก่ครูและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแล้ว 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ