Lifestyle

ชุบชีวิตใหม่ด้วยพระเมตตา"เทวดาที่อยู่บนดิน”

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ชุบชีวิตใหม่ "ส้ม"-นางสาวอรธีรา รสหอม" ด้วยพระเมตตา"เทวดาที่อยู่บนดิน”ในหลวง ร.9

 

           “เมื่อทราบว่าจากทางทีวี เป็นการเสียใจครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต เหมือนกำลังใจที่สำคัญขาดหายไป”น้ำเสียงของ นางสาวอรธีรา รสหอม หรือน้องส้ม นักศึกษาชั้นปีที่ 2 (หลักสูตรต่อเนื่อง) สาขาการตลาด คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี นักศึกษาพิการทางการเคลื่อนไหว 1 ใน นักศึกษาทุนการศึกษามูลนิธิสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

ชุบชีวิตใหม่ด้วยพระเมตตา"เทวดาที่อยู่บนดิน”

          “ส้ม”นางสาวอรธีรา รสหอม เล่าว่า ที่ตนเองสามารถดำเนินชีวิตในสังคมมาได้ทุกวันนี้ ได้รับการช่วยเหลือจากมูลนิธิสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ “พระองค์ท่านทรงมีพระเมตตากับตนเองและครอบครัวล้นพ้น”ด้วยช่วงนั้นเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 2 โรงเรียนศรีวิชัย ตนเองประสบอุบัติเหตุทำให้ตนเองสลบไปถึง 9 วัน นอนในห้องICU19 วัน และต้องใช้เวลาในการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลถึง 4 เดือน จากอุบัติเหตุทำให้เธอกลายเป็นคนพิการทางการเคลื่อนไหว (ต้องใส่ขาเทียมขาขวา และต้องใส่วิกตลอดชีวิต)

ชุบชีวิตใหม่ด้วยพระเมตตา"เทวดาที่อยู่บนดิน”

          “ตอนนั้นหนูได้แต่ร้องไห้ ครวญคางกับแม่ว่าอยากจะตาย ไม่อยากมีชีวิตอยู่ และต้องทรมานกับแผลไฟไหม้ ที่ต้องตัดชิ้นเนื้อในร่างกายมาปะติด เพราะในการเข้าห้องผ่าตัดแต่ละครั้ง ต้องใช้ค่าใช้จ่ายเงินค่อน ข้างสูง ตอนนั้นทางบ้านไม่ได้มีฐานะ คุณแม่และคุณพ่อหย่าร้างกัน หนูมีเพียงแม่ แม่จึงได้เขียนหนังสือถวายฎีกาถึงในหลวง หนูจึงได้รับเป็นผู้ป่วยในพระบรมราชานุเคราะห์ และได้เป็นนักศึกษาทุนการศึกษามูลนิธิสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จนสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี

ชุบชีวิตใหม่ด้วยพระเมตตา"เทวดาที่อยู่บนดิน”

          เคย“คิดฆ่าตัวตาย”ความยากลำบากในการใช้ชีวิต เพราะว่าไม่เหมือนคนปกติ จะได้เดินหรือเดินทางไปไหนจะไม่สะดวก แต่เมื่อนึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่9 เห็นพระองค์ท่านเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ พระองค์ทรงงานหนักและลำบาก บวกกับได้รับเป็นผู้ป่วยในพระบรมราชานุเคราะห์ และได้เป็นนักศึกษาทุนการศึกษา เหมือนได้เกิดขึ้นเมื่อชีวิตมาทุกวันนี้ พระองค์ท่านทรงเป็นขวัญและกำลังใจ

 

ชุบชีวิตใหม่ด้วยพระเมตตา"เทวดาที่อยู่บนดิน”

         “วันที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสู่สวรรคาลัยโทรไปหาแม่ แม่บอกกับตนเองว่าต้องอดทน และเข้มแข็ง ให้ตั้งใจทำความดี ไม่ให้ท้อ เป็นคนดีของประเทศ พระองค์ท่านทรงพระเมตตาให้ทุนการศึกษากับเรา”สัม กล่าวทั้งน้ำตา

ชุบชีวิตใหม่ด้วยพระเมตตา"เทวดาที่อยู่บนดิน”

          ซึ่งทุนการศึกษาที่ได้รับมา หนูจะใช้จ่ายอยากประหยัดและจำกัดมากที่สุด ด้วยความพอเพียง ตามคำสอนของพระองค์ท่าน หนูคิดเสมอว่า พระองค์ท่านต้องมองมาจากบนฟ้า มองลงมาดูนักเรียนและนักศึกษาของท่านดำเนินชีวิต ทำประโยชน์ให้กับสังคมและเป็นคนดี ช่วยกันพัฒนาประเทศ“ตนเองเดินทางไปท้องสนามหลวงเพื่อร่วมเพลงสรรเสริญพระบารมี

          ”ถึงแม้ว่าต้องเดินไกลพอสมควร และรู้สึกปวดขามาก เนื่องจากขาเทียมข้างขวา แต่หนูไม่ท้อและไม่หมดกำลังใจที่จะไปทำเพื่อพ่อหลวง และตั้งใจเข้าไปกราบพระบรมศพอีกครั้ง"น้องส้ม กล่าว 

 

               ชุบชีวิตใหม่ด้วยพระเมตตา"เทวดาที่อยู่บนดิน”

          ทางด้าน นางจำรูญ แพ่งสุภา แม่ของน้องส้ม เล่าว่า“ตอนที่ตัดสินใจเขียนหนังสือถวายฎีกาถึงในหลวง”ไม่มีใครสามารถช่วยเหลือน้องส้มได้มีเพียง นึกถึงในหลวง“เทวดาที่อยู่บนดิน”เพียงพระองค์เดียวที่สามารถช่วยลูกได้ โดยผ่านไปประมาณ 1 เดือน ได้รับการติดต่อกลับมา ขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียด และได้ทรงเจ้าหน้าที่ของทางจังหวัดเข้ามาสำรวจ ผ่านไปประมาณอีก 1 เดือน พระองค์ท่านได้รับน้องส้มเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ได้เป็นนักศึกษาทุนการศึกษามูลนิธิสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จนสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี

         ไม่เพียงเท่านั้น ทางมูลนิธิฯ ยังได้พระราชทานเงินทุนดำรงชีพครอบครัว 50,000 บาทให้กับครอบครัวของตนเอง (นำมาเปิดร้านขายของชำในหมู่บ้าน)

ชุบชีวิตใหม่ด้วยพระเมตตา"เทวดาที่อยู่บนดิน”

         "พระองค์ท่านทรงเป็นเทวดาที่อยู่บนดิน ไม่มีอะไรมาเทียบได้ ทรงพระเมตตาต่อครอบครัวของเรา ท่านทรงเป็นเทวดา โดยจะสอนน้องส้มเสมอ เงินที่ได้รับมาให้ยกขึ้นเหนือหัว ใช้จ่ายอยากประหยัดที่สุด ให้นำคำสอนของพระองค์ท่านมาใช้ในการใช้ชีวิตดิฉันและลูกสาวรู้สึกซาบซึ้งในพระเมตตาเป็นล้นพ้นจนหาที่สุดไม่ได้สำหรับการเกิดมาในชีวิตนี้ โดยดิฉันจะเดินทางไปกราบพระบรมศพพระองค์ท่านสักครั้งให้ได้" นางจำรูญ กล่าวเสียงสั่นเครือ

ชุบชีวิตใหม่ด้วยพระเมตตา"เทวดาที่อยู่บนดิน”

          ปัจจุบันน้องส้มทำงาน Part -Time อยู่ที่โลตัสคลอง 7 และกองประชาสัมพันธ์ มทร.ธัญบุรี เพื่อหาเงินมาแบ่งเบาภาระทางบ้าน และได้รับเงินทุนให้เปล่าที่ทางมหาวิทยาลัยให้เมื่อปีการศึกษาที่ผ่านมา แต่ปีการศึกษานี้เธอปฏิเสธเนื่องจากอยากให้คนอื่นได้รับโอกาสเหมือนเธอบ้าง

        นี่คือมุมสะท้อนจากนักศึกษาพิการคนหนึ่ง ถึงแม้ว่าตนเองจะเดือดร้อนเพียงใด แต่ยังนึกถึงคนอื่นอยู่เสมอ อีกหนึ่งตัวอย่างดีๆ ของสังคมไทยทุกวันนี้

      0ชลธิชา ศรีอุบล0เรื่อง/ภาพ

             มทร.ธัญบุรี

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ