Lifestyle

ทปอ.หวังแยก "อุดมศึกษา"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

มหาวิทยาลัยปรับวิธีการสอนรับไทยแลนด์ 4.0 ชี้ชาติพัฒนาได้ด้วยงานวิจัยและนวัตกรรม

ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิลด ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เปิดเผยว่า จากการที่ตนได้เข้าร่วมประชุมเรื่องทิศทางของอุดมศึกษาในเอเชียแปซิฟิก ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย  ที่ประชุมได้นำประสบการณ์การจัดการอุดมศึกษาของแต่ละประเทศมาแลกเปลี่ยน ซึ่งสิ่งที่ตนเห็นได้ชัดเจนคือ ประเทศที่มีความก้าวหน้าในการพัฒนาประเทศ ได้แก่ เกาหลีใต้ สิงคโปร์ มาเลเซีย จะมีกระทรวงอุดมศึกษาและได้รับการสนับสนุนงบประมาณ โดยเฉพาะงบการวิจัยจากรัฐบาล อาทิ ประเทศสิงคโปร์ รัฐบาลจะสนับสนุนงบประมาณ 75% ของงบฯทั้งหมดของมหาวิทยาลัย ประเทศเกาหลีใต้สนับสนุนงบฯ 80% และแม้จะให้งบฯมากขนาดนั้น มหาวิทยาลัยของประเทศเหล่านี้ ก็ยังได้งบฯเพื่อพัฒนาไม่เพียงพอ เพราะต้องทุ่มเทพัฒนาการวิจัยและพัฒนการเรียนการสอน แต่มหาวิทยาลัยไม่ต้องดิ้นรนหาเงินเอง เพราะรัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนให้ภาคเอกชนบริจาคเงินให้มหาวิทยาลัย โดยเมื่อเอกชนบริจาคเงินจำนวนหนึ่ง รัฐบาลจะร่วมสมทบเพิ่มอีก 1.5 เท่าของเงินบริจาคของภาคเอกชน และภาคเอกชนสามารถนำยอดเงินของตนเองรวมกับยอดเงินที่รัฐบาลสมทบมาไปลดหย่อนภาษีได้อีก 2.5 เท่า ซึ่งหลักการดังกล่าวทำให้คนรวยและบริษัทห้างร้านขนาดใหญ่นิยมบริจาคเงินให้มหาวิทยาลัย เพราะได้ทำประโยชน์ให้กับประเทศและยังได้ผลตอบแทนคือการลดหย่อนภาษี  

ประธาน ทปอ.กล่าวต่อว่า สำหรับมหาวิทยาลัยไทยได้รับงบฯสนับสนุนจากรัฐบาลเพียง 25% ของงบฯทั้งหมดของมหาวิทยาลัย ทำให้มหาวิทยาลัยไทยต้องดิ้นรนหาเงินรายได้ด้วยตนเอง ซึ่งแม้ว่ารัฐบาลนี้จะสนับสนุนงบฯมากขึ้นก็ตาม อย่างไรก็ตามนโยบายประเทศไทย 4.0 จะประสบความสำเร็จได้ ต้องมีการสร้างนวัตกรรมและอาศัยงานวิจัยเป็นหลัก และงานวิจัยส่วนใหญ่ก็อยู่ในมหาวิทยาลัย ซึ่งกระทรวงอุดมศึกษาของประเทศเพื่อนบ้านส่วนใหญ่จะรวมด้านงานวิจัยเข้าไว้ด้วยกัน ในส่วนของทปอ.นั้น ยังคงยืนยันหลักการที่จะผลักดันให้เกิดกระทรวงอุดมศึกษาขึ้น เพราะมหาวิทยาลัยไทยยังไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างจริงจัง ที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการต้องทุ่มเทเวลาแก้ปัญหาให้กับการศึกษาขั้นพื้นฐานและการอาชีวศึกษา ก็ไม่มีเวลาที่จะมาพัฒนาระดับอุดมศึกษา ซึ่งแม้ว่าอุดมศึกษาจะอยู่ได้ไม่ตาย แต่ก็ไม่โต

“ยืนยันว่าการอุดมศึกษาควรแยกออกจากกระทรวงศึกษาธิการ โดยแยกสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ออกมา และปรับการบริหารงาน เพราะเดิม สกอ.ก็มาจากทบวงมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว โดยส่วนตัวจึงคิดว่า ไม่ได้เป็นการตั้งกระทรวงใหม่ ซึ่งเช่นเดียวกับกระทรวงดิจิทัลที่แปลงมาจากกระทรวงไอซีที ในส่วนของมหาวิทยาลัยก็ต้องปรับปรุงวิธีการเรียนการสอน เน้นการสอนจากสถานที่จริงหรือสถานปฏิบัติการ ในลักษณะของสหกิจศึกษา แต่ต้องเป็นสหกิจศึกษาที่มีความเข้มข้นมากขึ้น โดยดึงภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจมาร่วมมือตั้งแต่การสร้างหลักสูตร รวมทั้งเป็นอาจารย์พิเศษ จะทำให้ภาคอุตสาหกรรมเห็นแววของนิสิตนักศึกษาตั้งแต่ยังเรียน และเมื่อจบการศึกษาก็จะสามารถดึงเข้าสู่การทำงานได้ทันที ซึ่งจะทำให้ช่วยตอบโจทย์ประเทศไทย 4.0 ได้”ศ.คลินิก นพ.อุดม กล่าว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ