กรมศิลป์ตั้งศูนย์อำนวยการจัดสร้างพระเมรุมาศ

เมื่อวันที่ 26 ต.ค.59 พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังประชุมติดตามความคืบหน้าการเตรียมการและการดำเนินการเกี่ยวกับพระราชพิธีพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ว่า กรมศิลปากรได้รายงานความคืบหน้าในการจัดสร้างพระเมรุมาศและสิ่งก่อสร้างประกอบและการบูรณะปฏิสังขรณ์ราชรถ พระยานมาศ ซึ่งมีความก้าวหน้าไปมากในแต่ละขั้นตอน โดยจะยึด 3 แนวทาง ได้แก่ 1.สมพระเกียรติ 2.ยึดถือรูปแบบพระเมรุมาศสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ 3.ยึดขนบธรรมเนียมประเพณีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นสมมุติเทพ อย่างไรก็ตาม ในส่วนพระมหาพิชัยราชรถ พระเวชยานตราราชรถ ราชรถน้อย 3 พระองค์ และพระยานมาศสามลำคาน 2 พระองค์ รวมทั้งพระที่นั่งราเชนทรยาน และพระวอสีวิกากาญจน์ อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพื่อเตรียมการบูรณะปฏิสังขรต่อไป

"การออกแบบพระเมรุมาศได้มีการถวายแบบซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงมีพระราชวินิจฉัยเป็นลำดับขั้น เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมได้ สำหรับแบบพระเมรุมาศครั้งนี้จะมีความยิ่งใหญ่และสามารถรองรับจำนวนคนได้มากกว่าที่เคยมีการจัดสร้างที่ผ่านมา"  พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวและว่า ทั้งนี้ กรมศิลปากรจะจัดตั้งศูนย์อำนวยการจัดสร้างพระเมรุมาศขึ้นภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครด้วย  

รองนายกฯ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารประจำกระทรวงวัฒนธรรม (IO.Culture) ได้สรุปรายงานความคืบหน้าตามที่ วธ.ได้รับมอบหมายทั้งการจัดทำสมุดภาพประมวลเหตุการณ์งานพิธีพระบรมศพฯ เพื่อเสนอนายกรัฐมนตรี โดยใน 1 ชุด ประกอบด้วย 3 เล่ม ได้แก่ ประมวลเหตุการณ์ในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคทั้ง 76 จังหวัด และต่างประเทศ  พร้อมกันนี้ ได้มอบให้สั่งให้สำนักวรรณกรรมฯ รวบรวมคำราชาศัพท์ที่พูดบ่อยใช้บ่อยให้ถูกต้องเพื่อให้กระทรวงวัฒนธรรมใช้เป็นแนวทางเผยแพร่คำราชาศัพท์ที่ถูกต้อง ก่อนจะเผยแพร่ให้กับส่วนราชการอื่นๆ ต่อไป เช่น คำว่า "พระเมรุมาศ" คำว่า"ปรมินทร"  การตรวจสอบความถูกต้องจะประสานกับสำนักพระราชวัง ราชบัณฑิต ตลอดจนผู้รู้ด้านวรรณกรรม เพื่อเรียบเรียงและจัดทำให้เสร็จโดยเร็วที่สุด เป็นต้น เบื้องต้นจะใช้ภายในก่อน หากศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารประจำกระทรวงวัฒนธรรมตรวจสอบความถูกต้องแล้วก็พร้อมจะเผยแพร่ในวงกว้าง

ด้าน นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า สำหรับการจัดทำจดหมายเหตุนั้น แต่เดิมจะทำเพียงชุดเดียวเมื่อเสร็จสิ้นงาน แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีมีความก้าวหน้าประชาชนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมบันทึกประวัติศาสตร์ วธ.จึงจัดทำเป็นจดหมายเหตุฉบับประชาชน โดยได้คัดเลือกภาพที่ประชาชนส่งเข้ามาและศิลปินแห่งชาติด้านการถ่ายภาพ จากช่างภาพ โดยในวันที่ 28 ต.ค.นี้ จะนำภาพเหล่าไปจัดแสดงให้ได้รับชมที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อย่างไรก็ตาม จะมีการรวบรวมภาพเหตุการณ์ในทุก ๆ 15 วันด้วย แบ่งเป็น ภาพเหตุการณ์ในกรุงเทพมหานคร ในต่างจังหวัด และต่างประเทศด้วย นอกจากนี้ ทุก 7 วันจะรวบรวมภาพเหตุการณ์เพื่อจัดทำเป็นสารคดีความยาว 4 นาทีถือเป็นจดหมายเหตุในรูปแบบภาพเคลื่อนไหว โดยจะมีการเผยแพร่ทางช่องทางต่างๆ ในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันครบรอบพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล 50 วันปัญญาสมวาร