Lifestyle

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเผยไข้หวัดใหญ่ไม่ได้ระบาดหนักเหมือนปี 52

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเผยไข้หวัดใหญ่ไม่ได้ระบาดหนักเหมือนปี 52  ไม่มีกลายพันธุ์ ข้อมูลออนไลน์ไม่จริง สธ.รายงานปี 59 พบผู้ป่แล้วกว่า1แสนราย ตาย22ราย

         ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  กล่าวถึงกรณีที่มีการส่งต่อข้อความผ่านโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับโรคไข้หวัดใหญ่ว่าจะมีการระบาดใหญ่เหมือนปี 2009 หรือพ.ศ.2552ว่า ไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ไข้หวัดใหญ่ จะระบาดตามฤดูกาลในฤดูฝน ในปีนี้การระบาดช้ากว่าทุกปีมีช่วงสูงสุดเดือนกันยายนถึงตุลาคม 2559และสายพันธุ์ที่พบในประเทศไทย จะเป็น สายพันธุ์ เอ มากกว่า สายพันธุ์บีอย่างมาก โดยสายพันธุ์ เอ ที่พบจะเป็นชนิด เอช3เอ็น2 (H3N2) สายพันธุ์ฮ่องกง และ สายพันธุ์ บี จะเป็นวิคทอเรีย( Victoria) อีกทั้ง สายพันธุ์ที่ระบาดก็มีอยู่ในวัคซีนไข้หวัดใหญ่ไม่ว่าวัคซีนจะเป็นแบบ 3 หรือ 4 สายพันธุ์

           “จากการตรวจรหัสพันธุกรรม ที่ศูนย์ไวรัสฯ จำนวนมาก และต่อเนื่อง ไม่ได้มีการกลายพันธุ์ ไปจากปกติ หรือมีสายพันธุ์ใหม่ ข่าวลือที่อยู่ในสื่อสังคม จึงไม่จริง แต่มีผู้ป่วยจำนวนมาก ที่ฉีดวัคซีนแล้วยังเป็น ทั้งที่ไวรัสไม่ได้กลายพันธุ์ หลบหลีกวัคซีน โดยเฉพาะเอช3เอ็น2ต้องเข้าใจว่าวัคซีนที่ฉีดมีประสิทธิภาพประมาณ 60-70% แต่จากการศึกษาที่ควบคุมตัวแปลต่าง ๆ การเก็บวัคซีนอย่างดี ประสิทธิภาพในฉลากยาจะเขียนไว้มากกว่าในทางปฏิบัติ  สำหรับผู้มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ คือ มีไข้ ร่วมกับอาการทางเดินหายใจ เช่น เจ็บคอ ไอ มีน้ำมูก และถ้าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่เป็นไข้หวัดใหญ่แล้วโรคจะรุนแรง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ คนท้อง คนอ้วน ผู้มีโรคประจำตัวเช่น โรคปอด ตับโต หัวใจ ควรได้รับยาโอเซลทามิเวียร์รักษาเลย ผู้ที่แข็งแรงดีไม่ต้องให้ก็ได้ เพราะโรคหายได้เอง พักผ่อนให้เพียงพอ ป้องกันการแพร่กระจายโรค กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ”ศ.นพ.ยงกล่าว

            อนึ่ง ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ระบุว่า  การเฝ้าระวังโรคตั้งแตวันที่ 1 มกราคม 2559 - 17 ตุลาคม 2559 พบผูปวยไข้หวัดใหญ่ 123,564 ราย จาก 77 จังหวัด คิดเปนอัตราปวย 188.86 ตอแสนประชากร เสียชีวิต 22 ราย คิดเปนอัตราตาย 0.03 ตอแสนประชากร กลุมอายุที่พบมากที่สุด เรียงตามลําดับ คือ 25-34 ป คิดเป็น11.57 %  อายุ 7-9 ป คิดเป็น 11.12 %  อายุ 15-24 ป คิดเป็น 10.12 %

        จังหวัดที่มีอัตราปวยตอแสนประชากรสูงสุด 5 อันดับแรก คือ กรุงเทพมหานคร 646.36 ต่อแสนประชากร จ.อุตรดิตถ  494.91 ตอแสนประชากร จ.เชียงใหม 485.19 ตอแสนประชากร จ.พะเยา 462.00 ตอแสนประชากร และจ.ระยอง 458.42 ตอแสนประชากร ภาคที่มีอัตราปวยสูงสุด คือ ภาคกลาง 274.65 ตอแสนประชากร ภาคเหนือ 241.39 ตอแสนประชากร  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 112.87 ตอแสนประชากร  ภาคใต 93.51 ตอแสนประชากร

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ