Lifestyle

รพ.เด็กน้อมนำ"4 พระราชดำรัส"แนะวิธีเลี้ยงลูกตามรอยพ่อหลวง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รพ.เด็กน้อมนำ"4 พระราชดำรัส" แนะวิธีเลี้ยงลูกให้ดีงามเดินตามรอยพ่อหลวง

        ผศ.พญ.ปราณี เมืองน้อย จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (รพ.เด็ก) กล่าวว่า รพ.เด็กขอนำพระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมานำเสนอพร้อมสอดแทรกข้อคิดที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงดูลูกน้อย เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ได้ปฏิบัติตาม สืบสานเจตนารมณ์ของพระองค์ ประกอบด้วย 1.การสร้างความเข้มแข็งทางใจให้ลูกน้อย "...เด็กๆ ต้องฝึกหัดอบรมทั้งกายทั้งใจให้เข้มแข็งเป็นระเบียบ และสุจริตเพื่อประโยชน์ของตนในภายหน้า เพราะคนที่ไม่เข้มแข็งไม่สามารถควบคุมกายใจให้อยู่ระเบียบและความดี ยากนัก ที่จะได้ประสบความสำเร็จและความเจริญอย่างแท้จริงในชีวิต..." ความตอนหนึ่ง ในพระบรมราโชวาทพระราชทานเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ปี 2526

รพ.เด็กน้อมนำ"4 พระราชดำรัส"แนะวิธีเลี้ยงลูกตามรอยพ่อหลวง

           ผศ.พญ.ปราณี ขยายความว่า ความเข็มแข็งทางใจให้ลูกน้อย คือ ความสามารถในการจัดการกับปัญหาและวิกฤตของชีวิตให้สามารถฟื้นตัวกลับสู่สภาพปกติได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่ละคนมีวิธีการจัดการปัญหา หรือการมองปัญหาไม่เหมือนกัน การจะรับมือกับปัญหาอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูและประสบการณ์ในวัยเด็กเป็นสำคัญ พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถส่งเสริมให้ลูกพัฒนาไปสู่การมีความเข้มแข็งทางใจได้ด้วยวิธีต่างๆ ได้แก่ 1.เด็กๆ ควรมีความรู้สึกผูกพันมั่นคงกับผู้เลี้ยงดูอย่างน้อยหนึ่งคน ที่จะเป็นตัวอย่างในการใช้ชีวิต  2.เปิดโอกาสให้ลูกได้ตัดสินใจเรื่องต่างๆ เองบ้าง ให้ลูกได้แสดงความรู้สึกต่อผลของการตัดสินใจได้ไม่ว่าจะดีหรือร้ายด้วยตัวเอง

           3.ให้ลูกรู้ว่าคุณมีความห่วงใยในทุกสิ่งที่ลูกทำ และคุณคาดหวังว่าลูกจะทำทุกสิ่งอย่างดีที่สุด ไม่ว่าดีที่สุดของลูกจะแค่ไหนก็ตาม พ่อแม่จะยอมรับและคอยให้กำลังใจเสมอ 4.สอนลูกให้เข้าใจวิธีการรับมือกับคำชม และคำวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ  5.ควรหาเวลาในแต่ละวันที่จะพูดคุยถามไถ่ความเป็นไปในชีวิตลูก แบ่งปันเรื่องราวในชีวิตประจำวันของคุณ ซึ่งถือเป็นการสร้างรากฐานความเชื่อใจที่สำคัญระหว่างคุณและลูก 6.เปิดโอกาสให้ลูกได้ทำงานเพื่อคนอื่นๆ

รพ.เด็กน้อมนำ"4 พระราชดำรัส"แนะวิธีเลี้ยงลูกตามรอยพ่อหลวง

       7.ทำให้ลูกรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว มอบหมายให้ลูกดูแลสัตว์เลี้ยง ดูแลน้อง และงานบ้านอื่นๆ ที่เหมาะสมกับความสามารถของลูก 8.สอนลูกให้ยอมรับสิ่งที่เขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ อธิบายให้ลูกเขาใจว่าแต่ละคนไม่จำเป็นต้องเหมือนกันและความแตกต่างนี่เองที่ทำให้ทุกคนมีความพิเศษเฉพาะตัว และ9.สอนลูกให้รู้จักต่อสู้เพื่อสิทธิของตนเองด้วยวิธีที่เหมาะสม พ่อแม่ควรเป็นตัวอย่างที่ดีในการพูดคุยด้วยเหตุผลและให้เกียรติซึ่งกันและกัน แม้จะมีความคิดไม่เหมือนกันก็ตาม 

        2.เลี้ยงลูกให้มีเสรีภาพ อย่างพอดี  “การมีเสรีภาพนั้น เป็นของที่ดีอย่างยิ่ง แต่เมื่อจะใช้ จำเป็นต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง ตามความรับผิดชอบมิให้ล่วงละเมิดเสรีภาพของผู้อื่นที่เขามีอยู่เท่าเทียมกัน ทั้งมิให้กระทบกระเทือนถึงสวัสดิภาพและความเป็นปกติสุขของส่วนร่วมด้วย” พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ 9 กรกฎาคม 2514

รพ.เด็กน้อมนำ"4 พระราชดำรัส"แนะวิธีเลี้ยงลูกตามรอยพ่อหลวง

       ผศ.พญ.ปราณี บอกว่า คุณพ่อคุณแม่จึงควรสอนให้ลูกตระหนักว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ล้วนมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง การสอนลูกให้รู้จักใช้เสรีภาพอย่างมีขอบเขต จึงจำเป็นต้องทำควบคู่ไปกับการฝึกระเบียบวินัย เช่น ภายในห้องส่วนตัวของลูก ลูกจะตกแต่งอย่างไรก็ได้ แต่ลูกก็มีหน้าที่ที่จะต้องดูแลรักษาให้สะอาดเรียบร้อยด้วย หากลูกเลือกที่จะไม่ทำความสะอาดห้อง ลูกก็ต้องยอมรับผลที่จะตามมา ไม่ว่าจะเป็นการลงโทษของพ่อแม่ หรือการที่ห้องส่งกลิ่นเหม็นและเป็นที่อยู่ของสัตว์ที่ไม่พึงประสงค์ เป็นต้น อธิบายให้ลูกเข้าใจว่าเสรีภาพ ต้องเกิดขึ้นภายใต้กฎระเบียบ และการเคารพซึ่งกันและกัน พ่อแม่ควรเปิดโอกาสให้ลูกได้ใช้เสรีภาพอย่างเหมาะสม คอยให้คำแนะนำ และอธิบายให้ลูกฟังถึงการที่ลูกจะต้องรับผิดชอบต่อผลของการตัดสินใจทำสิ่งต่างๆ รวมทั้งควรเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกได้เห็นได้เรียนรู้ในชีวิตประจำวันด้วย 

        3.สอนลูกรักรู้จักใช้เงิน “การใช้จ่ายอย่างประหยัดนั้น จะเป็นหลักประกันความสมบูรณ์พูนสุขของผู้ประหยัดเอง และครอบครัวช่วยป้องกันความขาดแคลนในวันข้างหน้า การประหยัดดังกล่าวนี้จะมีผลดีไม่เฉพาะแก่ผู้ที่ประหยัดเท่านั้น ยังเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติด้วย” พระราชดำรัส เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 31 ธันวาคม 2502

         สอนลูกวัย 2-3 ปี คุณพ่อคุณแม่สามารถเริ่มสอนให้ลูกรู้จักชื่อเรียกและมูลค่าของเหรียญและธนบัตรชนิดต่างๆ ได้แล้ว โดยใช้วิธีเล่นสนุกๆ อย่างการนำเหรียญวางไว้ใต้แผ่นกระดาษแล้วใช้ดินสอระบายบนรอยนูนของเหรียญเพื่อให้ลวดลายของเหรียญชนิดนั้นๆ ปรากฏขึ้นบนกระดาษ แล้วให้ลูกสังเกตว่าแต่ละเหรียญต่างกันอย่างไร พร้อมบอกมูลค่าของเหรียญชนิดนั้นๆ ก่อนจะให้ลูกหยิบเหรียญมาจับคู่กับรูปที่ปรากฏบนกระดาษ สำหรับธนบัตร อาจใช้กระดาษสีมาตัดและเขียนมูลค่าที่เท่ากับธนบัตรจริงๆ แล้วให้ลูกได้จับคู่ของจริงกับกระดาษสีที่ตัดไว้ เช่น ใช้กระดาษสีเขียวแทนแบงค์ยี่สิบ สีแดงแทนแบงค์ร้อย เป็นต้น

        สอนลูกวัย 4-5 ปี หนูน้อยวัยนี้ชื่นชอบการเล่นบทบาทสมมติและโตพอที่จะเข้าใจเรื่องมูลค่าของเงินบ้างแล้ว ชวนลูกเล่นซื้อของขายของ โดยสลับให้ลูกเป็นทั้งคนขายและคนซื้อ ใช้เงินของเล่นในการจับจ่าย เปิดโอกาสให้ลูกได้ตั้งราคาสินค้าและเลือกซื้อของในงบที่กำหนด นอกจากนี้ เวลาที่ออกไปซุปเปอร์มาร์เก็ตซื้อของเข้าบ้าน ลองเปิดโอกาสให้ลูกได้ช่วยจดรายการของที่จะซื้อ และให้ลูกได้ลองดูป้ายราคา เพื่อเปรียบเทียบซื้อสินค้าที่คุ้มค่ามากที่สุดคุณพ่อคุณแม่อาจต้องเหนื่อยในการพูดอธิบาย แต่ลูกจะได้ซึมซับเรื่องการรู้จักใช้เงินและนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตได้เมื่อเขาโตขึ้น

รพ.เด็กน้อมนำ"4 พระราชดำรัส"แนะวิธีเลี้ยงลูกตามรอยพ่อหลวง

         สอนลูกวัย 6 ปีขึ้นไป นอกจากจะชวนลูกไปซื้อของด้วยกันเหมือนกับการสอนลูกวัย 4-5 ปีแล้ว คุณควรเริ่มปลูกฝังนิสัยรักการออม และฝึกให้ลูกรู้จักวางแผนการใช้เงินด้วยตัวเอง โดยให้เงินค่าขนมลูกในจำนวนที่แน่นอน ไม่ว่าจะให้เป็นรายวัน หรือรายสัปดาห์ สอนให้ลูกลองวางแผนเพื่อใช้จ่ายเพื่อให้มีเงินเหลือเก็บ เมื่อครบเดือนแรก ลองนั่งคุยกับลูกว่าลูกวางแผนอย่างไร และมีเงินเก็บเท่าไร คอยให้คำแนะนำ และกำลังใจ ระวังที่จะไม่วิพากษ์วิจารณ์หรือตัดสินการกระทำของลูกด้วยคำพูดในแง่ลบ เมื่อลูกออมเงินได้จำนวนหนึ่ง ชวนลูกนำเงินไปฝากธนาคารอธิบายถึงความสำคัญของการออม เปิดบัญชีในชื่อลูก ให้เขาเก็บรักษาสมุดบัญชีของตัวเอง ลูกจะเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง

         4.สอนลูกยอมรับความแตกต่าง อยู่อย่างเข้าใจ “การทำงานร่วมกับผู้อื่นนั้น ที่จะให้เป็นไปโดยราบรื่น ปราศจากปัญหาข้อขัดแย้ง ย่อมเป็นไปได้ยาก เพราะคนจำนวนมากย่อมมีความคิดความต้องการที่แตกต่างกันไป มากบ้างน้อยบ้าง ท่านจะต้องรู้จักอดทนและอดกลั้น ใช้ปัญญา ไม่ใช้อารมณ์ ปรึกษากัน และโอนอ่อนผ่อนตามกันด้วยเหตุผล โดยถือว่าความคิดที่แตกต่างกันนั้น มิใช่เหตุที่จะทำให้เป็นข้อขัดแย้ง โต้เถียง เพื่อเอาแพ้เอาชนะกัน แต่เป็นเหตุสำคัญที่จะช่วยให้เกิดความกระจ่างแจ้ง ทั้งในวิถีทางและวิธีการปฏิบัติงาน”  พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยขอนแก่น วันที่ 17 ธันวาคม 2541

         ผศ.พญ.ปราณี กล่าวว่า การสอนลูกให้เข้าใจและรับมือกับความแตกต่างนั้น หัวใจสำคัญต้องเริ่มจากคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องประพฤติตนเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกค่ะ เริ่มต้นง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การไม่วิพากษ์วิจารณ์ ล้อเลียน รูปลักษณ์ของคนอื่นที่ไม่เหมือนเรา ไม่ให้คุณค่ากับภาพลักษณ์ภายนอกมากกว่าความสำคัญของจิตใจ จริงๆ การสอนเจ้าตัวน้อยในเรื่องนี้ เป็นเหมือนการปลูกฝังทัศนคติที่ทำได้ตั้งแต่ลูกยังแบเบาะ เพราะในทุกๆ วันลูกเฝ้ามองดูคุณเป็นแบบอย่างอยู่เสมอ เด็กเรียนรู้จากการเลียนแบบ ดังนั้น หากต้องการให้ลูกมีแนวคิดในการดำรงชีวิตอย่างไร พ่อแม่เริ่มได้จากการเป็นตัวอย่างให้ลูกเห็น

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ