ที่คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม อาจารย์สันติ สิงห์สุ อาจารย์ประจำภาควิชาทัศนศิลป์ พร้อมด้วยนิสิตภาควิชาทัศนศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม กำลังตั้งใจวาดรูปเหมือน ลายเส้นพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในอิริยาบถที่ในหลวงทรงกล้อง โดยใช้สีอะคลีลิค บนผืนผ้าสีขาว ขนาดกว้าง 2 เมตร ยาว 9 เมตร
โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับภาพพระราชกรณียกิจ พระองค์ทรงกล้อง ใต้รูปพระองค์ เป็นภาพต้นยางนา ในรูปแบบฮูปแต้มอีสาน และปลานิล ทั้งสองสิ่งนั้นพระองค์ทรงปลูก และขยายพันธุ์ จนพสกนิกรได้รับคุณูปการจากพระองค์ตลอดมา เพื่อแสดงความอาลัยและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ แห่งองค์รัชกาลที่ 9 และภายหลังการวาดเสร็จสิ้น ได้นำมาติดตั้งไว้ด้านบนอาคาร ระหว่างชั้นที่ 2 ถึงชั้นที่ 4ด้านหน้าของคณะศิลปกรรมศาสตร์ เพื่อให้คณาจารย์ นิสิตในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม และประชาชนทั่วไปร่วมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ด้วย
อาจารย์สันติ สิงห์สุ เล่าว่า เมื่อทราบข่าวการเสด็จสวรรคตของในหลวง ก็รู้สึกเสียใจมาก ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เพราะตนรู้สึกรักเทิดทูนพระองค์มาโดยตลอด วันนี้ตนและลูกศิษย์ในภาควิชาทัศนศิลป์ จึงอยากจะสร้างสรรค์ผลงานสักชิ้น และได้เลือกภาพในหลวงทรงกล้อง เพราะเราจะเห็นพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ไม่ว่าจะเป็นจากสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ หรือความคิดติดตรึงของชาวไทย คือ ภาพที่จะทรงพกกล้องถ่ายภาพ และมีอิริยาบทของนักถ่ายภาพ ไม่ว่าจะย่ำไปยังดินแดนใด เห็นได้ชัดว่าพระองค์ทรงพอพระหฤทัยศิลปะในการถ่ายภาพมากเป็นพิเศษ พระองค์มีพระอัจฉริยภาพด้านการถ่ายภาพ ซึ่งโดยส่วนตัวของอาจารย์เองก็มีความชอบในการถ่ายภาพด้วย ผลงานในชิ้นนี้ จึงเกิดขึ้นเพื่อแสดงความรักและอาลัยต่อพระองค์ท่าน และสัญญาว่าจะมุ่งมั่นทำความดีเดินตามแนวพระราชดำริฯ และถ่ายทอดความรู้ โดยเฉพาะศิลปะให้แก่ลูกศิษย์ต่อไป
อาจารย์สันติ สิงห์สุ กล่าวเพิ่มเติม เกี่ยวกับการได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อในหลวงรัชกาลที่ 9 ว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทุกครั้งที่มีกิจกรรมประกวดภาพวาดเฉลิมพระเกียรติ ก็จะร่วมส่งประกวดแทบทุกครั้ง เคยได้รับรางวัลดีเด่น จากการประกวดจิตรกรรม 74 พรรษา ธรรมะราชากับประชาธิปไตย ,รางวัลชมเชย การประกวดสีน้ำมันและสีอะครีลิค ในหัวข้อ รู้รักสามัคคี ทำดีเพื่อพ่อ,รางวัลดีเด่นในหัวข้อ 74 พรรษาใต้ร่มเศวตฉัตร
อย่างภาพที่ปรากฏนี้ คือภาพผลงานที่ได้ร่วมแสดงคู่กับผลงานที่ได้รับรางวัลโล่ประกาศเกียรติคูณของมูลนิธิชัยพัฒนาในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดขึ้นเมื่อปี 2555 ซึ่งแรงบันดาลใจของภาพนี้ มาจากพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยโดยเฉพาะราษฎรภาคอีสาน ที่ส่วนใหญ่พื้นที่ทางการเกษตรเป็นพื้นที่แห้งแล้งการทำหน้าต้องพึ่งพาฟ้าฝนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ด้วยพระอัจฉริภาพของพระองค์ท่าน
จึงประทานความช่วยเหลือแก่ราษฎร ด้วยการทำฝนเทียม พระองค์จึงได้พระนามว่าเป็นพระบิดาแห่งฝนหลวง จากภาพเป็นภาพท้องฟ้าที่เมฆมีการรวมตัวกันภายหลังจากการทำฝนหลวง จากนั้นฝนก็ได้ตกลงมาบนพื้นที่ที่แห้งแล้งทำให้สามารถทำการเกษตรได้ ผืนนามีความอุดมสมบูรณ์ราษฎรสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้
“ผมเกิดในพื้นที่ชายขอบ บรรพบุรุษผมข้ามเขต ข้ามโขงถิ่นน้ำขุ่น มาพึ่งใบบุญชาวสยาม และได้ปักหลักที่จังหวัดมุกดาหาร เพลงแรกที่ผมได้ยินคือเพลง "ล้นเกล้าเผ่าไทย" (ร้องโดยสายัญ สัญญา) ซึ่งพ่อผมได้นำมาร้องประกวดจนได้รางวัลชนะเลิศ ในเนื้อหาเพลงได้พูดถึงองค์ภูมิพล ที่ทรงงานหนักเพื่อประชาชนและเป็นที่รักและเป็นมิ่งขวัญของไทยทั้งผอง ในตอนนั้นผมรู้สึกรักท่านทันที ถึงแม้ไม่เคยเห็นรูปพระองค์เลย กว่าจะรู้ว่านี้คือรูปพระองค์ก็ตอนเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ผมก็ได้เห็นภาพพระองค์ที่หน้าชั้นเรียนที่รูป ธงชาติ ศาสนา และ มหากษัตริย์ ครูบอกว่า ท่านคือพระเจ้าแผ่นดิน ในความคิดของผมตอนนั้นคือ ท่านคือทุกๆสิ่งทุกอย่างของประเทศไทย” อาจารย์สันติ กล่าว