Lifestyle

ร.ร.พระดาบส โอกาสครั้งที่สองของชีวิต

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ร.ร.พระดาบส สืบสานพระราชปณิธานฯ พ่อหลวงของแผ่นดิน "สร้างโอกาสที่สอง“ผู้ยากไร้-ไม่ยอมแพ้”

“..ขณะนี้ยังมีบุคคลอีกเป็นจำนวนมากที่มีความตั้งใจจริง มีศรัทธาขวนขวายหาความรู้เป็นวิชาชีพใส่ตน แต่ประสบปัญหา ไม่มีความรู้พื้นฐาน และไม่มีทุนทรัพย์เพียงพอที่จะเข้าศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาวิชาชีพระดับต่าง ๆ ได้ หากมีช่องทางช่วยเหลือบุคคลเหล่านี้ ให้มีความรู้ วิชาชีพที่เขาย่อมจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติได้..”พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานแก่พล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์ เลขาธิการคนแรกมูลนิธิพระดาบส พ.ศ.2518 

ร.ร.พระดาบส โอกาสครั้งที่สองของชีวิต

ดร.สมยศ เจตน์เจริญรักษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนพระดาบส หยิบยกเพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น พร้อมกล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระราชดำรัสให้สอน “อาชีพ” เราจึงต้องเจริญรอยตาม นำแนวพระราชดำริของพระองค์แกะรหัส แล้วก็ลงมือทำให้เกิดผลสำเร็จ.

ย้อนเวลากลับไป โรงเรียนพระดาบส โอกาสครั้งที่สองของชีวิต.. กำเนิดขึ้นด้วยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเข้าพระราชหฤทัยอย่างลึกซึ้ง ถึงเหตุที่ทำให้ราษฎรที่ตกอยู่ในวงจรทุกข์เข็ญ เพราะขาดโอกาสเรียน ไม่มีอาชีพ ไม่สามารถเลี้ยงตนเองได้ ทรงมุ่งมั่นแก้ปัญหาโดยพระราชทาน “โครงการพระดาบส” เป็นโครงการพระราชดำริ เมื่อพ.ศ.2519-ปัจจุบัน (พ.ศ.2559) 

ร.ร.พระดาบส โอกาสครั้งที่สองของชีวิต

เป็นเวลา 40 ปีช่วยเหลือผู้ยากไร้ ขาดโอกาสการศึกษา และสนใจใฝ่ศึกษาและมีความเพียรอย่างจริงจัง ให้ได้รับโอกาสฝึกวิชาชีพและฝึกอบรมคุณธรรมศีลธรรม เพื่อให้สามารถประกอบสัมมาอาชีวะ สร้างตนเอง ช่วยเหลือครอบครัว สังคมและประเทศชาติ โดยใช้กระบวนการศึกษานอกระบบตามแนวพระราชดำริ นำศิลปวิทยาแบบพระดาบสในสมัยโบราณคือ มีผู้ทรงศีลหรือพระฤๅษีเป็นผู้ให้ความรู้ ศิษย์ก็ต้องเต็มใจอยากจะปรนนิบัติท่าน มีความอยากเรียนและอ่อนน้อม มาใช้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน

ปัจจุบันโรงเรียนพระดาบสแห่งนี้ ยังคงทำหน้าที่สร้างชีวิตใหม่แก่ผู้ที่ไม่ยอมแพ้.. ดร.สมยศ บอกว่า ในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคมของทุกปีจะมีชาย-หญิงจากทั่วประเทศอายุระหว่าง 17-35 ปีหลายร้อยคนที่ยากไร้ ขาดโอกาสมาสมัครเพื่อเป็นศิษย์ดาบส เนื่องจากการเรียนที่นี่ไม่จำเป็นต้องใช้วุฒิการศึกษาขั้นต่ำ มีที่พัก และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เพราะมูลนิธิพระดาบสสนับสนุนค่าใช้จ่ายของศิษย์ตลอดหลักสูตร 1 ปี ราว 100,000 บาทต่อคน ซึ่งโรงเรียนพระดาบสจะรับนักศึกษาปีละไม่เกิน 150 คน เป็น ชาย 120 คนและหญิง 30 คน ปัจจุบันมีผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนพระดาบสแล้วมากกว่า 1,800 คน

ร.ร.พระดาบส โอกาสครั้งที่สองของชีวิต

  “การคัดเลือกศิษย์เข้าเรียนยังใช้เกณฑ์เดิม และจะไม่นำข้อผิดพลาดในอดีตเป็นอุปสรรค แต่ให้ทุกคนเริ่มต้นใหม่โดยให้ตั้งใจและฝึกหนัก หลีกเลี่ยงอบายมุข และพร้อมอยู่ในกติกาของโรงเรียน แต่ที่ผ่านมาจะพบว่าพ่อแม่ ผู้ปกครองต่างอยากนำลูกมาพึ่งบารมีของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยหวังให้ช่วยขัดเกลาเด็ก จนหลงลืมไปว่าโรงเรียนพระดาบสแห่งนี้เป็นโรงเรียนสอนอาชีพ สิ่งที่เราทำได้ก็คือ เดินทางสายกลาง ใช้แนวทางของพระองค์ท่าน คือสอนให้คนมีความรับผิดชอบ สอนให้คนมีฝีมือในการประกอบอาชีพ และสุดท้ายสอนให้คนเป็นคนดี มีวิถีชีวิตที่พอเพียงในการดูแลเด็ก”

ร.ร.พระดาบส โอกาสครั้งที่สองของชีวิต

ดร.สมยศ บอกด้วยว่า เรื่องที่คนภายนอกไม่ค่อยรู้เท่าใดนักและเป็นจุดเด่นของโรงเรียนพระดาบส นั่นคือกระบวนการจัดการเรียนการสอน โดยระยะเวลา 1 ปี ด้วยช่วงเวลาที่ไม่นาน จึงแบ่งช่วงเวลาการฝึกทักษะอาชีพเป็น 4 ช่วง ส่วนการฝึกทักษะชีวิตจะทำไปตลอดทั้งปี โดยใน 5 เดือนแรก คือช่วงสำคัญที่สุดศิษย์ดาบสทุกคนจะต้องเข้าสู่การฝึกทักษะพื้นฐานช่าง หรือ ฝึกเตรียมช่าง สัปดาห์ละ 5 วันๆละ 8 ชั่วโมง

 ทุกคนต้องรู้จักการใช้เครื่องมือช่างพื้นฐาน ถือเป็นช่วงเวลาหนึ่งที่ศิษย์ต้องปรับตัวและทดสอบความอดทนและมุ่งมั่น เมื่อจบการฝึกพื้นฐาน ผู้ชายจะสามารถเลือกเรียนได้ใน 7 หลักสูตรวิชาชีพ คือ ช่างยนต์ ช่างไฟฟ้า ช่างอิเล็กทรอนิกส์ ช่างซ่อมบำรุง การเกษตรพอเพียง ช่างไม้เครื่องเรือน และช่างเชื่อม ส่วนผู้หญิงทุกคน จะต้องเรียนในหลักสูตรเคหบริบาล การดูแลสุขภาพพื้นฐานเพื่อดูแลเด็กและผู้สูงอายุ

ร.ร.พระดาบส โอกาสครั้งที่สองของชีวิต

อีก 4 เดือนถัดมา ศิษย์ดาบส จะต้องฝึกทักษะเฉพาะทางเพื่อเข้าสู่อาชีพตามที่เลือกไว้ โดยได้นำกรอบมาตรฐานอาชีพสากลเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากในปัจจุบันเข้ามาเป็นตัวตั้งในการจัดการเรียนการสอน เพราะมาตรฐานอาชีพจะมีความลึกซึ้ง ไม่ใช่แค่มีอาชีพอะไร แต่ความหมายคือ ต้องเป็นมืออาชีพในวิชาชีพด้วย ต้องรู้ว่าตนเองมีหน้าที่อะไร มีความรู้เรื่องอะไร ต้องรับผิดชอบเรื่องอะไร และสำคัญต้องมีทักษะฝีมือตามขอบเขตของการประกอบอาชีพนั้นๆ ซึ่งบ้านเรายังขาดทักษะของการเป็นมืออาชีพในการทำงานและไม่มีใครสอน

 เพราะฉะนั้น 4 เดือนนี้เป็นช่วงสำคัญและสอดคล้องกับอีก 2 เดือนที่ศิษย์พระดาบสต้องออกไปฝึกงานกับสถานประกอบการ และช่วง 1 เดือนสุดท้ายจะต้องเข้ารับการประเมินสมรรถนะ และเข้ารับการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน โดยศิษย์ดาบสที่สำเร็จการศึกษาจะได้รับพระมหากรุณาธิคุณเข้ารับพระราชทานประกาศนียบัตรพระดาบส จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ร.ร.พระดาบส โอกาสครั้งที่สองของชีวิต

“เรารู้กันอยู่แล้วว่าเดิมศิษย์ดาบสที่สำเร็จการศึกษาจะไม่มีวุฒิการศึกษา แต่การันตีว่าทุกคนมีงานทำแน่นอน แต่เด็กบางส่วนก็มีปัญหาด้านการสมัครงาน เพราะสถานประกอบการส่วนใหญ่ยังต้องใช้วุฒิการศึกษา เราจึงหาทางเชื่อมโยงกับหน่วยงานการศึกษาในการเทียบโอนหน่วยกิต อาทิ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ล่าสุดร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) เป็นต้น โดยได้เริ่มดำเนินการมาแล้วราว 1 ปี ซึ่งสามารถการันตีในเรื่องคุณภาพ มาตรฐานฝีมือเพราะทุกคนจะต้องผ่านการฝึกฝนอย่างเข้มข้น ที่สำคัญเรามีการติดตามชีวิตของศิษย์ดาบสเมื่อจบออกไปแล้วด้วย”ดร.สมยศ ฉายภาพความก้าวหน้า

ส่วนผู้ที่เป็นกำลังสำคัญของโรงเรียนพระดาบส ที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้นั้นคือ “ครู” ดร.สมยศ เล่าว่า ที่นี่มีครู 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือ ครูประจำ ปัจจุบันมีอยู่ 30 คนส่วนใหญ่จะมาจากศิษย์เก่าโรงเรียนพระดาบส ซึ่งได้รับคัดเลือกและให้ทุนไปเรียนต่อให้สูงขึ้นและกลับมาช่วยสอน และกลุ่มครูดาบสอาสา มากกว่า 100 คน เป็นบุคลากรที่ทรงคุณค่ามีทั้งคนทำงานในภาคอุตสาหกรรม ผู้เกษียณอายุราชการแล้ว แต่ยังมีกำลังความสามารถ มีใจรักจัดเวลาสลับหมุนเวียนกันมาสอนศิษย์ดาบส และการสอนก็ไม่ใช่การสอนที่น่าเบื่อ ครูจะวางแผนการสอนแต่ละสาขาอย่างดี มีการวัดและประเมินผลในแต่ละกิจกรรมเรียนรู้ ในหลายหมวด อาทิ หมวดทักษะอาชีพ เรายังได้พัฒนารูปแบบการสอนที่อาศัยงานวิจัยเป็นฐานในการพัฒนาด้วย

ร.ร.พระดาบส โอกาสครั้งที่สองของชีวิต ร.ร.พระดาบส โอกาสครั้งที่สองของชีวิต

ในตอนท้าย ดร.สมยศ. ถ่ายทอดความรู้สึกที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการรับใช้เบื้องพระยุคลบาท ว่า ถือเป็นความวิเศษสุดที่เราได้มาทำงานที่มีประโยชน์ ภายใต้แนวพระราชดำริของพระองค์ท่าน ได้มีโอกาสใช้สติปัญญาทั้งหมดที่มีเพื่อถวายงานในเรื่องที่มีพระราชดำริมายาวนานถึง 40 ปีเป็นการให้โอกาสที่ 2 ของชีวิต เป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูด หรือเป็นตัวอักษรได้ รู้เพียงว่าคือสุดยอดของชีวิต ทำแล้วไม่เหนื่อย แม้จะเจออุปสรรคในการทำงานบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดาแต่ก็จะทำต่อไป

  “เพราะฉะนั้น โรงเรียนพระดาบส จากนี้สิ่งใดที่ดีอยู่แล้วก็ทำต่อ เพราะทุกคนที่มาทำงานต่างถวายงานด้วยหัวใจ อนาคตเช่นไรเราไม่รู้ แต่เรารู้ว่านี่คือสิ่งดี ๆ ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระราชทานให้กับพวกเรา เราถือว่าพระองค์จากไปแค่เพียงร่างกายตามธรรมชาติเท่านั้น แต่สำคัญคือ สิ่งที่พระองค์พระราชทานให้ไว้ยังอยู่ในสำนึกเราเสมอ เราไม่ถอย ไม่เลิก และจะเดินต่อไปเพื่อให้ลูกพระดาบสเข้มแข็ง”ดร.สมยศ ตอบด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่นการเพื่อสืบสานพระราชปณิธานในการดูแลศิษย์พระดาบส..

ร.ร.พระดาบส โอกาสครั้งที่สองของชีวิต ร.ร.พระดาบส โอกาสครั้งที่สองของชีวิต ร.ร.พระดาบส โอกาสครั้งที่สองของชีวิต ร.ร.พระดาบส โอกาสครั้งที่สองของชีวิต ร.ร.พระดาบส โอกาสครั้งที่สองของชีวิต

0 เกศกาญจน์ บุญเพ็ญ 0 

0 ภาพ-ข้อมูล หนังสือ “โรงเรียนพระดาบส โอกาสครั้งที่สองของชีวิต”0

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ