สพม.20 ข้อสอบครูผู้ช่วยรั่วมีมูล

เมื่อวันที่ 27 ก.ย.59  พล.อ.สุรเชษฐ์  ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาทุจริตของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เมื่อเร็ว ๆ นี้  ว่า ที่ประชุมได้รายงานความก้าวหน้าการแก้ไขปัญหาทุจริต ของคณะทำงานจัดทำและดำเนินการแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ศธ. ประจำปีงบประมาณ 2559  มีเรื่องทุจริตที่เกิดขึ้นในแต่ละหน่วยงานของ ศธ.รวม 620 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นปัญหาต่อเนื่องจากรัฐบาลที่ผ่านมา แต่มีเพียง 11 เรื่องที่เกิดขึ้นและมีการร้องเรียนในรัฐบาลชุดปัจจุบัน โดยขณะนี้ดำเนินการแก้ปัญหา และลงโทษทางวินัยเสร็จสิ้นแล้ว 230 เรื่อง หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของปัญหาทุจริตทั้งหมด

“ขณะนี้การแก้ปัญหาทุจริตถือว่า มีความก้าวหน้า ซึ่งคงไม่บอกว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่ เพราะบางเรื่องต้องใช้เวลา มีผู้เกี่ยวข้องมาก  โดยเรื่องที่สามารถแก้ปัญหาได้ลุล่วง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่มีผู้เกี่ยวข้องไม่มากจบง่าย อาทิ  การทุจริตการทำธุรกิจสลากกินแบ่งรัฐบาลในสหกรณ์ออมทรัพย์ครู  11 แห่ง สพฐ.ได้สอบวินัยอย่างร้ายแรง 7 แห่งที่เหลืออยู่ระหว่างทำเรื่องให้ต้นสังกัดสั่งลงโทษทางวินัย  เป็นต้น ส่วนเรื่องที่เป็นที่สนใจและอยู่ระหว่างการตรวจสอบ อาทิ อาทิ  การทุจริตการทำธุรกิจสลากกินแบ่งรัฐบาลในสหกรณ์ออมทรัพย์ครู  11 แห่ง สพฐ.ได้สอบวินัยอย่างร้ายแรง 7 แห่งที่เหลืออยู่ระหว่างทำเรื่องให้ต้นสังกัดสั่งลงโทษทางวินัย  การดำเนินการปรับปรุงห้องเรียน (e-Classroom)และห้องสมุดคุณภาพสู่มาตรฐานสากล(e-Library) งบแปรญัตติ ปีงบประมาณ 2555 ของสพฐ. ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนข้อเท็จจริง”รมช.ศึกษาธิการ กล่าว

พล.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับเรื่องที่ได้รับการร้องเรียนใหม่ ในรัฐบาลนี้ ที่สำคัญและสอบแล้ว มีมูลตามที่ถูกร้องเรียน คือ กรณีการสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ ครั้งที่ 2 ปี 2558 ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) 20 อุดรธานี มีการร้องเรียนว่า ข้อสอบจากสถาบันติวแห่งหนึ่งตรงกับข้อสอบคัดเลือก จำนวน 40 ข้อ ซึ่งจากนี้ต้องรอสรุปข้อมูลเพื่อเสนอให้ต้นสังกัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยผู้เกี่ยวข้องต่อไป นอกจากนั้นยังมีกรณีปัญหาทุจริต การจัดซื้อจัดจ้างระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดให้โรงเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตามโครงการเซฟ โซน สคูล (ซีซีทีวี) ซึ่งตนเพิ่งได้รับเรื่องร้องเรียน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คาดว่าเร็วๆ นี้จะนำเรื่องเข้าสู่ระบบการตรวจสอบ

อย่างไรก็ตาม จากนี้คณะกรรมการอำนวยการฯ จะสรุปผลการดำเนินงานทั้งหมด เพื่อเสนอให้ รัฐมนตรีว่าการศธ. และพล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทราบความคืบหน้า ซึ่งนายกฯ ได้ย้ำมาตลอดให้ทุกกระทรวง เร่งแก้ไขปัญหาทุจริต โดยในส่วนของศธ. บางเรื่องยอมรับว่า มีผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย ทำให้กระบวนการสอบสวนล่าช้า ดังนั้นคณะกรรมการอำนวยการฯ จึงจัดทำโปรแกรมควบคุมการตรวจสอบทุจริต  ซึ่งเมื่อมีเรื่องร้องเรียนเข้ามา และเข้าสู่ระบบจะต้องเป็นไปตามขั้นตอน มีระยะเวลากำหนด โดยโปรแกรมนี้จะสามารถตรวจสอบได้ว่าเรื่องใดดำเนินการล้าช้า ซึ่งผู้ที่ดูแลจะต้องให้เหตุผลว่า ทำไมถึงช้า คาดว่าจะสามารถใช้งานได้ทันทีในปีงบประมาณ 2560 นี้ 

อนึ่ง เรื่องทุจริต 620 เรื่องจำแนกหน่วยงาน ดังนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) 301 เรื่อง สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) 54 เรื่อง สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) 7 เรื่อง สำนักงานปลัดศธ. 14 เรื่อง  สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) 115 เรื่อง สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.)  95 เรื่อง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) 1 เรื่อง สำนักงานเลขาธิการครุสภา 4 เรื่อง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) 10 เรื่อง และองค์การค้าฯ ของสกสค. 20 เรื่อง