เปิดตัว CU Innovation แหล่งเรียนรู้-สร้างนวัตกรรม

เมื่อวันที่ 27 ก.ย.59 ที่อาคารเฉลิมราชกุมารี 60 พรรษา(อาคารจามจุรี 10) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดงาน CU Innovation Hub:Open Houseโดยมี ศ.ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาฯ กล่าวว่านวัตกรรมเกิดจากความคิด และการสร้างสรรค์  ซึ่งจริงๆแล้วถ้าดูในเรื่องของสื่อต่างๆ จะเห็นได้ว่าคนไทยมีความคิดสร้างสรรค์ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นในรูปแบบของความบันเทิงมากกว่าเป็นนวัตกรรมทางความคิด CU Innovation Hub จะเป็นพื้นที่ให้นิสิต ประชาชน ผู้มีความคิดมาระดมความรู้ร่วมกันในการสร้างนวัตกรรม จะเป็นศูนย์กลางของคนที่มีแนวคิดที่มีนวัตกรรม ที่ดี มีประโยชน์ต่อประเทศชาติ เป็นการทำงานของทุกภาคส่วนทั้งการศึกษาและเอกชน

นายเทวินทร์ วงศ์วานิช นายกสมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ กล่าวว่าสังคมไทยต้องก้าวสู่สังคมนวัตกรรม เพราะประเทศทั่วโลกขณะนี้แข่งขันกันด้วยนวัตกรรม และถือเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของประเทศ ดังนั้น มหาวิทยาลัยต้องมีการส่งเสริมเรื่องเทคโนโลยี วิจัย เพื่อให้เกิดผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์และต่อยอดความคิดเหล่านั้น ให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศต่อไป โดยทุกฝ่ายต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ต้องไม่ถูกจำกัดด้วยกรอบการดำเนินชีวิต ต้องมีการปรับสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการเรียนรู้ คิดนอกกรอบ และช่วยสนับสนุนกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ  

นายกานต์ ตระกูลฮุน หัวหน้าทีมภาคเอกชน คณะทำงานร่วมประชารัฐ ด้านการยกระดับนวัตกรรมและผลิตภาพ กล่าวว่ามหาวิทยาลัยไทยมีนวัตกรรมมากมาย แต่ส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถนำนวัตกรรมมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้นั้น เพราะขาดความต่อยอดและความร่วมมือกันในทุกคณะ ทุกภาคส่วนของมหาวิทยาลัยเอง ตอนนี้ถ้าดูมหาวิทยาลัยจะเห็นว่าทุกคณะมีองค์ความรู้มากมายแต่ไม่เคยหารือหรือบูรณาการร่วมกัน ต่างคนต่างทำ แถมบางคณะยังแข่งกันเอง อีกทั้งความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยไทยด้วยกันเองก็มีน้อยมาก มีแต่มหาวิทยาลัยไทยไปร่วมมือกับต่างประเทศ อยากให้ทุกคณะทำงานร่วมกันเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรม เนื่องจากนวัตกรรมจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เพียงคณะเดียวหรือหน่วยงานเดียว รวมถึงครูอาจารย์ ต้องเปิดกว้าง ให้นิสิต ลูกศิษย์ถกเถียง แลกเปลี่ยนกัน  เพื่อให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ๆ และร่วมกันผลิตเป็นนวัตกรรมที่ดีต่อประเทศ

นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร ทรู คอปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า สังคมนวัตกรรมจะเกิดขึ้นได้ต้องมีการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมให้เปิดกว้าง ยอมรับความล้มเหลวได้ โดยเฉพาะระบบการศึกษา ที่ตอนนี้ไม่สามารถยอมรับความล้มเหลวที่เกิดขึ้น เราไม่ต่อยอดในสิ่งที่มีอยู่ ลทั้งที่เมล็ดพันธุ์ หรือเด็กไทยมีความรู้ความสามารถไม่แพ้ใครในโลก ดังนั้น การจะเป็นสังคมนวัตกรรม ต้องมีองค์กรสร้างนวัตกรรม มีเวทีให้ทุกภาคส่วนได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ ความฝันสร้างเป็นนวัตกรรม และต้องมีการลงทุนที่พร้อมยอมรับความล้มเหลวที่จะเกิดขึ้นให้ได้ เพราะขณะนี้เมื่อมีการพูดถึงนวัตกรรมจะเป็นต่างหน่วยงานต่างทำ ไม่มีการระดมทุนร่วมกัน

 นายลลิต ถนอมสิงห์ ผช.เลขาธิการสำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงคิดเรื่องการทำเขื่อนปิดปากถ้ำหินปูนเพื่อเก็บน้ำใต้ดิน ซึ่งพระองค์คิดมาแล้ว 30 ปี และไม่เคยมีที่ใดสร้างมาก่อน และชาวบ้านบอกว่าเขื่อนที่พ่อหลวงสร้างให้ ทำให้ชาวบ้านไม่เคยเจอปัญหาน้ำแล้งเลย สิ่งที่พระองค์คิดก็คือนวัตกรรม  เป็นสิ่งที่เรามีอยู่แล้วในสังคมไทย  ซึ่งเป็นนวัตกรรมของสังคมทย ดังนั้นการจะสร้างสังคมไทยเป็นสังคมนวัตกรรมนั้น โดยส่วนตัวเห็นว่า ควรจะมองหานวัตกรรมที่เรามีและพัฒนานวัตกรรมนั้น

นายสุทธิชัย หยุ่น  ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารและกองบรรณาธิการเครือเน ชั่น.กล่าวว่าการจะเกิดนวัตกรรมได้นั้น ต้องเริ่มจากตัวของทุกคนเองก่อน เพราะถ้าตัวเองไม่เปลี่ยนแปลง ใช้ชีวิตการทำงานในรูปแบบเดิม สังคมนวัตกรรมก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ซึ่งอุปสรรคใหญ่ที่ทำให้นวัตกรรมในไทยไม่เกิดนั้น ต้องยอมรับวัฒนธรรมไทยก็มีส่วน โดยเฉพาะในองค์กรการทำงาน ทุกคนเห็นด้วยที่ต้องมีการสร้างนวัตกรรมใหม่ แต่เมื่อทำงานกลับทำรูปแบบเดิม ยังมีความรู้สึกแบบพี่ๆน้อง ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องที่ดีที่มีความเกื้อกูลกันแตเมื่อมีการประเมินประสิทธิภาพการทำงานก็ทำให้ไม่สามารถเห็นผลลัพธ์ของการทำงานที่แท้จริงได้ เพราะทุกคนจะเกรงใจกัน ดังนั้น จะทำให้เกิดสังคมนวัตกรรม ทุกหน่วยงานต้องส่งเสริมให้คนทำงานปรับความคิด ยอมรับการเปลี่ยนแปลง สร้างสรรค์เรื่องราวใหม่ๆที่จะเกิดประโยชน์และเป็นที่ต้องการ