บอร์ดอค.สกสค.ไฟเขียวเอกชนร่วมพิมพ์ตำรา

      เมื่อวันที่ 26 ก.ย.59 พล.อ.ดาว์พงษ์  รัตนสุวรรณ  รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารองค์การค้า ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ว่า  ที่ประชุมเห็นชอบตามที่องค์การค้าฯ  แผนการจัดส่งหนังสือเรียนให้ทันก่อนปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 ซึ่งจะต้องจัดพิมพ์หนังสือเรียนทั้งหมด 49 ล้านเล่ม โดยองค์การค้าฯ จะดำเนินการจัดพิมพ์เอง  12.4 ล้านเล่ม ส่วนที่เหลือจะจ้างโรงพิมพ์ภายนอกดำเนินการ  ซึ่งวิธีนี้จะช่วยลดต้นทุนการผลิตลงถูกลง ประมาณ 15-20%จากเดิมที่องค์การค้าฯเช่าแท่นพิมพ์มาดำเนินการเอง 

      ทั้งนี้ ได้กำชับว่ากระบวนการจัดจ้างจะต้องเป็นไปตามระเบียบพัสดุ และเมื่อจัดพิมพ์เรียบร้อยแล้วจะจัดส่งผ่านทางศูนย์กระจายสินค้าระดับจังหวัด ขององค์การค้าฯ ที่มีทั้งหมด 31 แห่งทั่วประเทศ ส่วนการแต่งตั้งปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการองค์การค้าฯ แทน ดร.สุเทพ  ชิตยวงษ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.)ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการองค์การค้าฯ ที่จะต้องไปเป็นเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) นั้นขณะนี้ได้ปรับแก้ข้อบังคับสกสค.เพื่อให้รองผู้อำนวยการองค์การค้าฯ สามารถทำหน้าที่รักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การค้าฯเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้พิจารณาว่าจะแต่งตั้งใคร

         พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวต่อว่า องค์การค้าฯ ยังได้รายงานความคืบหน้าในการแก้ปัญหา การจำหน่ายเครื่องหมายลูกเสือ ซึ่งที่ผ่านมามีปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์โดยปีนี้องค์การค้าฯจะมีการจัดระเบียบใหม่ จากนี้ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย ทั้งนี้จะประสานกับตัวแทนจำหน่ายเดิม เพื่อหารือแนวทางต่อไป ส่วนสอบสวนกรณีการสอบสวนกรณีพบอุปกรณ์แต่งกายลูกเสือ นำมาฝากเก็บไว้ในคลังสินค้าขององค์การค้าฯ  มีมูลค่าประมาณ 24 ล้านบาทนั้น ยังไม่ได้รับรายงานซึ่งตนจะเร่งให้สรุปผลโดยเร็ว     

        นอกจากนั้น ตนยังได้มอบให้ ดร.พิษณุ  ตุลสุข ผู้ตรวจราชการศธ. ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสกสค. คนใหม่ เร่งสรุปผลการดำเนินการแก้ปัญหาทุจริตในสกสค.  กรณี อดีตผู้บริหารสกสค. อนุมติซื้อตั๋วสัญญามูลค่า  2,100 ล้านบาท กับบริษัทบิลเลี่ยน อินโนเวเท็ดกรุ๊ป จำกัด  ซึ่งมีผู้เกี่ยวข้อง 3 กลุ่มคือ  บริษัทบิลเลี่ยนฯ  ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินคดี  ธนาคารธนชาต กรณีอนุมัติเบิกจ่ายเงินไม่ถูกต้อง ซึ่งโดยนโยบายตนอยากได้เงินคืนเพราะเป็นเงินของครู แต่ก็ต้องเป็นไปตามกฎหมาย และเจ้าหน้าที่สกสค.ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน  และจัดแถลงข่าวรายงานความคืบหน้าให้สังคมได้รับทราบ

        "ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา ได้เสนอแนวคิดการดูแลสวัสดิการและสวัสดิภาพครู ให้ผมพิจารณาบ้างแต่ขอให้ไปจัดทำรายละเอียด เพื่อมาหารือกันอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง ได้ย้ำไป 2 เรื่องคือ  ล้างปัญหาทุจริต และดูแลสวัสดิการครู ส่วนการเดินหน้า โครงการการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.)7ซึ่งได้ชะลอการปล่อยกู้ไปนั้น ส่วนตัวคิดว่า คงไม่ระงับ เพราะครูบางคนก็มีความจำเป็นต้องใช้เงินจริง ๆ และหากครูไปกู้นอกระบบอาจจะทำให้เดือดร้อนมากขึ้น แต่จะต้องหาแนวทางการปล่อยกู้วิธีใหม่  ที่จะต้องมีเหตุมีผล และมีมีความรับผิดชอบ ไล่เป็นลำดับชั้น"พล.ดาว์พงษ์ กล่าว