Lifestyle

รมว.ศธ.ยังไม่อนุมัติ “พินิจศักดิ์”ลาออกพ้นเลขาฯสกสค.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รมว.ศึกษาธิการ ชี้ยังไม่อนุมัติ “พินิจศักดิ์” ลาออกเลขาธิการสกสค. เหตุรอหาผู้เหมาะสมก่อน แจงภาระงานค่อนข้างมา ยันไม่เกี่ยวทำงานล่าช้า พร้อมเร่งรัดแก้ปัญหาทุจริต

    เมื่อวันที่31ส.ค. พล.อ.ดาว์พงษ์รัตนสุวรรณรมว.ศึกษาธิการกล่าวถึงกรณี ที่นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.)ยื่นหนังสือลาออกจากจากตำแหน่ง ปฏิบัติหน้าที่ สกสค. ว่า นายพินิจศักดิ์ ได้ยื่นหนังสือลาออกมาให้ตนจริง แต่ตนยังไม่อนุมัติ เนื่องจากต้องรอหาผู้ที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งแทนก่อน โดยเรื่องการเปลี่ยนตัวผู้ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสกสค. ตนได้มีกาพูดคุยกับนายพินิจศักดิ์ มานานกว่า2เดือนแล้ว ซึ่งไม่ใช่แค่นายพินิจศักดิ์เท่านั้น รวมถึงนายสุเทพชิตยวงษ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการองค์การค้า ของสกสค. ด้วย เพราะเท่าที่ดูภาระงานของทั้ง2คนค่อนข้างมากจึงคิดว่า ต้องหาคนที่มาทำหน้าที่ดังกล่าวแทน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาล่าช้า

       อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา งานของนายพินิจศักดิ์ และนายสุเทพ ล้นมือจริง ๆ และประกอบกับ มีการตั้งคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด(กศจ.) มีศึกษาธิการภาค (ศธภ.) ทำให้รองเลขาธิการก.ค.ศ. เอง ต้องลงพื้นที่ไปในจังหวัดต่าง ๆ เหลือนายพินิจศักดิ์ทำงานอยู่คนเดียว ตรงนี้ก็เข้าใจ และเห็นด้วยกับนายพินิจศักดิ์ แต่ยังไม่อนุมัติใบลาออกในตอนนี้ต้องรอหาผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนให้ได้ก่อน ซึ่งในคำสั่งตามมาตรา44กำหนดไว้ชัดเจนว่า ผู้ที่จะมาปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสกสค. และผู้อำนวยการองค์การค้าฯ จะต้องเป็นข้าราชการระดับ10หรือเทียบเท่า ซึ่งผมก็มองๆ คนที่เหมาะสมไว้บ้างแล้ว

        รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า การประชุมคณะกรรมการสกสค. วาระพิเศษ เมื่อเร็ว ๆ นี้ตนได้ติดตามความคืบหน้าเพื่อเร่งรัดการแก้ปัญหาทุจริตและการบริหารจัดการ ของสกสค.8เรื่อง ดังนี้1กรณีอดีตผู้บริหารสกสค. อนุมัติซื้อตั๋วสัญญามูลค่า2,100 ล้านบาท กับบริษัทบิล เลี่ยน อินโนเวเท็ดกรุ๊ป จำกัดเป็นต้น ซึ่งนายพินิจศักดิ์ ได้รายงานว่า ผู้ที่เกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างการสอบสวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)19ราย กรณีปลอมเช็คและไม่สามารถเบิกจ่ายเงินได้ตามจริง หรือเช็คเด้ง พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน และได้ฝากขังผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องไปแล้ว2ราย 2.ก่อสร้างอาคารศูนย์พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ วงเงิน360ล้านบาทโดยมอบให้สกสค.ตั้งคณะทำงานศึกษา แนวทางการใช้ประโยชน์จากที่ดินดังกล่าว รวมถึงเร่งรัดให้กำหนดระยะเวลา สอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว3.กรณี นำเงินไปซื้อหุ้นในบริษัทหนองคายน่าอยู่ ในโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะชุมชน บ้านป่าตอง ต.โพนสว่าง อ.เมือง จ.หนองคาย สูงกว่าราคาพาร์ วงเงิน800ล้านบาท ซึ่งบริษัทหนองคายน่าอยู่ฯ ยินยอมจะซื้อหุ้นคืน ในระยะเวลา5ปี แต่กองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงฯ เสนอให้ซื้อทีเดียวทั้งหมด ขอให้เร่งสอบถามไปยังบริษัท หนองคายน่าอยู่ เนื่องจากเป็นประโยชน์ของหน่วยงาน4.การตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ เครื่องแบบนักเรียนขององค์การค้าฯ ค้างสต็อค5.แผนการเปิดให้บริหารหอพักสกสค.

      นอกจากนั้น6มาตรการในการจ่ายเงิน กองทุนสนับสนุนพิเศษกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา(ช.พ.ค.) ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ร้องเรียนว่า จ่ายเงินล่าช้า รวมถึงยังมีเงินบางส่วนค้างอยู่ที่สกสค. จังหวัด ที่ไม่ได้โอนเข้าส่วนกลาง7.แผนการคัดสรรผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสกสค.จังหวัด แทนผู้ที่ครบวาระ ในเดือนธันวาคม และ8.โครงการลดภาระหนี้ครูโดยใช้เงินจากโครงการการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ซึ่งทายาทจะได้รับในอนาคตเมื่อสมาชิกเสียชีวิต มาค้ำประกันในการอนุมัติวงเงินสินเชื่อใหม่ เพิ่มเติมให้ผู้กู้ที่เป็นข้าราชการครูฯ หรือรีไฟแนนซ์หนี้ในอัตราดอกเบี้ย4% .ในส่วนของมาตรการผู้ผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งได้ชะลอการเข้าร่วมโครงดารไว้ ก่อน จะมาตรการใดเพื่อให้สามารถเข้าร่วมโครงการได้ ขอให้สกสค.สรุปประเด็นการติดตามหนี้ ที่หักเงินจากกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษฯชำระหนี้แทนไปแล้ว รวมถึงให้มีหนังสือหารือ ผู้ตรงการแผ่นดิน หน่วยงานกลาง เกี่ยวกับแนวปฏิบัติ กรณีธนาคารออมสิน หักเงินกองทุนเงินสนับสนุนฯ ชำระหนี้แทนครู เพื่อหาข้อยุติ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ