Lifestyle

คร.ยันไทยโรคซิกาไม่ได้ระบาดวงกว้างพบผู้ป่วยประปรายยังคุมได้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คร.ยันไทยไม่พบ“โรคซิกา”ระบาดวงกว้าง พบผู้ป่่วยประปรายเหมือนเวียดนาม-สิงคโปร์-อินโดฯ ยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ขอคนไทยอย่าวิตกเดินทางไป 4 จังหวัดเฝ้าระวังพิเศษ

        เมื่อวันที่30ส.ค.เวลา11.30น. ที่กรมควบคุมโรค นพ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวเกี่ยวกัุบโรคติดเชื้อไวรัสซิกาว่า ตามที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหภาพยุโรป (European Center for Disease Prevention and Control : ECDC) ได้เผยแพร่ข้อมูลเมื่อวันที่ 19ส.ค.ที่ผ่านมา โดยจัดให้ประเทศไทยเป็นพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสซิการะดับสีแดง คือ มีการแพร่กระจายของโรคอย่างกว้างขวางในช่วง3เดือนนั้น ขอชี้แจงว่าการจำแนกของอีซีดีซีนั้นต่างจากการจำแนกขององค์การอนามัยโลกหรือฮู โดยข้อมูลที่อีซีดีซีใช้เป็นข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์และคร.ไม่เคยส่งข้อมูลอย่างเป็นทางการไปให้กับอีซีดีซี เข้าใจว่าข้อมูลที่ใช้เป็นข้อมูลที่ปรากฎผ่านสื่อต่างๆ จึงอยากให้ใช้อข้อมูลการจำแนกพื้นที่ระบาดของฮูเป็นหลัก เพราะหลักเกณฑ์การจำแนกเป็นมาตรฐาน ส่วนการจำแนกของอีซีดีซีเป็นการใช้เพียงจำนวนผู้ป่วยเป็นสำคัญเท่านั้น และเป็นข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนเนื่องจากมีประเทศที่พบผู้ป่วยมากกว่าที่รายงานโดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน 

        อธิบดีกรมคร. กล่าวอีกว่า ปัจจุบันฮูจำแนกพื้นที่การระบาดโรคซิกาทั่วโลกออกเป็น 3 ระดับ คือ 1.พื้นที่ที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสซิการะดับกว้างขวาง อาทิ บราซิล อาร์เจนตินา ประเทศในแถบภูมิภาคอเมริกากลาง อเมริกาใต้ และสหรัฐอเมริกา 2.พื้นที่ทีมีการระบาดประปราย คือ พบผู้ป่วยในในบางพื้นที่ของประเทศ ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 4 ประเทศ คือ ประเทศไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ และ3.พื้นที่ที่เคยมีการระบาดของผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสซิกา แต่ในปี2559ไม่มีรายงานพบผู้ป่วย ซึ่งในส่วนนี้อาจจะแปลได้ว่าเป็นเพราะระบบการเฝ้าระวัง ควบคุม ดูแลและตอบโต้สถานการณฺ์ไม่ไวพอที่จะรายงานต่อสาธารณะ

       นพ.อำนวย กล่าวอีกด้วยว่า สำหรับสถานการณ์ของโรคในประเทศไทยขณะนี้ ตั้งแต่ต้นปี 2559 พบผู้ป่วยใน 16 จังหวัดในจำนวนนี้เหลือเพียง 6 จังหวัดที่ยังต้องเฝ้าระวังต่อเพื่อให้พ้นระยะฟักตัวของโรคที่ 28 วัน โดยอีก 2 จังหวัด คือ สมุทรปราการและหนองคายครบกำหนดการเฝ้าระวังในวันที่ 30และ 31 สิงหาคม 2559ตามลำดับ จึงเหลือเพียง 4 จังหวัดที่ต้องเฝ้าระวัง อีก 2 สัปดาห์ คือ เชียงใหม่ จันทบุรี เพชรบูรณ์ และบึงกาฬ ตามที่ได้ส่งหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทยเพื่อขอความร่วมมือในการกำชับเจ้าหน้าที่ปกครองส่วนท้องถิ่น อุตสาหกรรม พาณิชย์ สถานศึกษา ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในการควบคุมป้องกันโรค 

        “ขอให้ประชาชนคลายความกังวล เพราะประเทศไทยไม่ใช่ประเทศเดียวในภูมิภาคอาเซียนที่พบผู้ป่วยโรคซิกา และการระบาดในไทยไม่ได้ระบาดกว้างขวาง เจอผู้ป่วยแบบประปราย แต่ละจุดที่พบผู้ป่วยไม่ได้มีจำนวนมาก รูปแบบการระบาดของไทยจะเป็นลักษณะจากคนหนึ่งเดินทางไปอีกพื้นที่หนึ่ง ยังไม่พบการระบาดเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ เคยพบในบางพื้นที่มีผู้ป่วย 4-5 คน สถานการณ์ยังอยู่ในระดับคุมได้ ทั้งนี้ ใน 4 จังหวัดที่ต้องมีการเฝ้าระวังต่อ ไม่ได้เกิดการระบาดทั้งจังหวัด ขอประชาชนอย่าวิตกที่จะเดินทางไปในจังหวัดดังกล่าว”นพ.อำนวยกล่าว  

     นพ.อำนวย กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมามีหญิงตั้งครรภ์ในพื้นที่มีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสซิกา20ราย คลอดแล้ว6ราย ทารกเป็นปกติทุกราย ส่วนคณะทำงานศึกษาเฝ้าระวังกลุ่มทารกพิการศีรษะเล็กย้อนหลังและปัจจุบันนั้นจะทำการสรุป จำแนกประเด็นและเสนอรายงานให้ทราบเป็นระยะ ขณะนี้ทราบว่าในสหรัฐอเมริกาและยุโรปอยู่ระหว่างการศึกษาวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสซิกาตอนนี้อยู่ในขั้นการทดลองในมนุษย์คาดว่าน่าจะสำเร็จใน2-3ปีข้างหน้าและจะใช้ในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ