“ดาว์พงษ์” เชิญ “ชาติชาย” ผอ.ธ.ออมสิน พร้อม สกสค.เคลียร์เอ็มโอยู แก้หนี้ครู หลังยืดเยื้อมานานไม่ได้ ชี้ต้องอยู่ในกรอบที่ครม.อนุมัติ
เมื่อวันที่ 26 ก.ค.พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ในวันที่ 28 กรกฎาคมนี้ ตนได้เชิญนาย นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน พร้อมด้วยรศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดศธ. และนายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและ บุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) มาหารือกรณีที่ธนาคารออมสิน ระบุว่า ที่ยังไม่สามารถลงนามใน บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ หรือ เอ็มโอยู ระหว่างธนาคารออมสินกับ สำนักงานสกสค. ในโครงการลดภาระหนี้ครู เนื่องจาก สกสค.ได้ทำข้อเสนอผู้ที่ลูกหนี้ปกติที่มีวินัยทางการเงินดี เข้าโครงการ ใช้เงินการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ซึ่งทายาทจะได้รับในอนาคตเมื่อสมาชิกเสียชีวิต มาค้ำประกันในการอนุมัติวงเงินสินเชื่อใหม่ เพิ่มเติมให้ผู้กู้ที่เป็นข้าราชการครูฯ หรือ รีไฟแนนซ์หนี้ ก่อน
หลังจากนั้นจึงจะทยอยส่งลูกหนี้ครูที่มีภาระหนี้สินค้างชำระกับธนาคารเข้า ร่วมนั้น เพื่อสอบถามเหตุผลจากทั้ง 2 ฝ่าย และดูว่ายังมีเรื่องใดที่เห็นแตกต่างกัน โดยชั่งน้ำหนักข้อดี และข้อเสีย รวมถึงพิจารณาด้วยว่า เป็นไปได้หรือไม่ถ้าเปิดโอกาสให้ทั้งลูกหนี้ชั้นดี และลูกหนี้ที่ค้างชำระ ที่สมัครใจได้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด ทั้งนี้ ในการพิจารณา ข้อตกลงจะดูตามกรอบแนวทาง ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.)มีมติอนุมัติไว้ ถ้ามีอะไรที่ออกนอกกรอบก็ต้องเสนอข้อแก้มติครม.ใหม่
ด้าน รศ.นพ.กำจร กล่าวว่า นโยบายของรมว.ศึกษาธิการ มีหลักการว่า ต้องช่วยคนดี มีวินัยทางการเงินดี ทำตามกติกาก่อน ส่วนคนที่ไม่ทำตามกติกาให้ช่วยทีหลัง แต่ถ้าสามารถช่วยพร้อมกันได้ก็ให้ช่วยพร้อมกันเลย ซึ่งการหารือครั้งนี้จะมีการตกลงกติกาให้ชัดเจนว่า ลูกหนี้ชั้นดี หมายถึงอะไร ส่วนคนที่ไม่เข้าเกณฑ์ก็ต้องปฏิบัติตามกติกาให้ได้ในระดับหนึ่งจึงจะสามารถ เข้าร่วมโครงการได้ ซึ่งส่วนตัวมองว่า หากช่วยผู้กู้ที่มีปัญหาค้างชำระเงินก่อน ก็อาจจะทำให้ลูกหนี้ชั้นดีที่อยากเข้าร่วมโครงการต้องทำให้ผิดกติกา เพื่อสามารถเข้าร่วมโครงการได้ ดังนั้น ลูกหนี้ชั้นดีควรต้องได้รับความช่วยเหลือไม่ด้อยไปกว่าลูกหนี้ค้างชำระ ซึ่งแต่แรกที่ดำเนินโครงการนี้ รัฐบาลสั่งมาว่าให้ช่วยครูที่เป็นหนี้ ไม่บอกว่าให้ช่วยเฉพาะคนที่ค้างชำระกับธนาคารออมสินเท่านั้น
“เมื่อรัฐบาลมีนโยบายแล้วว่า ให้ธ.ออมสิน ช่วยโดยใช้เงินอนาคตของผู้กู้มาเป็นหลักประกัน ดังนั้น ถ้าจะช่วยก็ต้องช่วยทั้งหมดและคนที่ควรจะได้รับความช่วยเหลือก่อน ก็ควรเป็นผู้ที่ชำระหนี้ตามปกติ จะไปบอกว่าเขา ไม่เดือดร้อน ไม่ได้ ซึ่งผมเองเห็นว่าถ้าให้คนที่ค้างชำระก่อนต่อไปถ้าคนไหนอยากให้ช่วย ก็ไม่ใช้หนี้ ค้างชำระ เพื่อให้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการได้ ทำแบบนี้ธนาคารออมสิน คิดตื้นเกินไปหรือไม่ คิดจะเอาหนี้ เสียออก แต่ทางกลับกัน วิธีนี้จะก่อให้เกิดหนี้เสียมากขึ้น ถ้าให้คนหนี้เสียได้ประโยชน์มากกว่าคนชำระหนี้ดี” รศ.นพ.กำจรกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง