แนะวิธีปฐมพยาบาลกรณีเหตุฉุกเฉิน
สพฉ.แนะใช้โอกาสวันพระ “ทำบุญงดเหล้า” เชื่อทำให้สุขภาพดี ลดอาการเจ็บป่วยฉุกเฉิน โดยเฉพาะ “โรคหัวใจ-ความดัน” ห่วงหยุดยาว 5 วัน เกิดอุบัติเหตุ
นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า ในช่วงวันเข้าพรรษาและวันอาสาฬหบูชานี้ สิ่งสำคัญที่ชาวพุทธ จะปฏิบัติคือทำบุญ รักษาศีล ซึ่งสิ่งที่ทำได้ง่ายที่สุด และยังดีต่อสุขภาพก็คือ การงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากการดื่มแอลกอฮอล์มีผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของผู้ดื่มทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยผลกระทบนั้นสามารถเกิดได้กับอวัยวะต่างๆ เช่น ทำให้การทำงานของหัวใจเสื่อมลง หัวใจเต้นผิดปกติ เกิดอาการเจ็บหน้าอกจากโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน
นอกจากนี้ ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน มีผลเสียต่อกล้ามเนื้อหัวใจ เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ โรคความดันโลหิตสูง ซึ่งโรคเหล่านี้ถือเป็นหนึ่งในอาการเจ็บป่วยฉุกเฉินและทำให้เกิดการเสียชีวิตเฉียบพลันได้ ดังนั้นวิธีการที่ดีที่สุดคือแก้จากต้นตอ โดยประชาชนอาจถือโอกาสในช่วง 3 เดือนนี้ ทำให้ร่างกายแข็งแรง
ทั้งนี้หากมีอาการเจ็บป่วยฉุกเฉิน โดยเฉพาะโรคหลอดเลือดหัวใจ คือ มีอาการจุกเสียดแน่นตรงกลางหน้าอก อึดอัด หายใจไม่สะดวก ปวดร้าวไปที่คอ แขนซ้าย หรือเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน หัวใจอาจหยุดเต้นอย่างกะทันหัน ซึ่งหากเราพบเห็นผู้ป่วยฉุกเฉินด้วยอาการดังกล่าวให้ผู้พบเหตุรีบโทรแจ้งขอความช่วยเหลือมาที่สายด่วน 1669 และปฐมพยาบาลผู้ป่วยเบื้องต้นด้วยการช่วยฟื้นคืนชีพหรือ CPR ซึ่งการ CPR ที่มีประสิทธิภาพนั้นช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตให้กับผู้ป่วยได้มาก 2-3 เท่า
นพ.อนุชา กล่าวต่อว่า สำหรับขั้นตอนของการ CPR นั้นให้นำผู้ป่วยนอนราบบนพื้นแข็งและกดนวดหัวใจ โดยกดที่กลางหน้าอก เหยียดแขนตึงตั้งฉากกับผู้ป่วย จากนั้นออกแรงกดให้ลึกประมาณ 2 นิ้ว โดยให้กดต่อเนื่องและสม่ำเสมอด้วยอัตรา 100 ครั้งต่อนาที หรือตามจังหวะเพลงสุขกันเถอะเรา และหากบริเวณที่เราทำการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินมีเครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ AED ให้เรานำเครื่อง AED มาใช้กับผู้ป่วยให้รวดเร็วที่สุด ภายใน 3-5นาที โดยวิธีการใช้ให้นำเครื่อง AED มาติดที่ตัวผู้ป่วยตามคำแนะนำที่บอกไว้ที่เครื่อง หยุดรอให้เครื่องวิเคราะห์ผู้ป่วย จากนั้นหากเครื่องแนะนำให้ทำการช็อกไฟฟ้า ห้ามทุกคนสัมผัสตัวผู้ป่วย และกดช็อกที่ตัวเครื่อง AED เมื่อเสร็จแล้วให้ทำการCPR อย่างต่อเนื่องจนกว่าเจ้าหน้าที่1669 จะเข้ามาให้การช่วยเหลือ ซึ่งหากเราทำกระบวนการต่างๆ เหล่านี้อย่างรวดเร็วผู้ป่วยฉุกเฉินก็จะมีโอกาสรอดมากยิ่งขึ้น
“สิ่งที่น่าเป็นห่วงในช่วงวันเข้าพรรษาและวันอาสาฬหบูชานี้ คือมีวันหยุดยาวถึง 5 วัน ทำให้ประชาชนอาจจะเดินทางกลับบ้าน หรือเดินทางไปไหว้พระทำบุญกันมากขึ้น ดังนั้นย่อมเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ ประกอบกับช่วงนี้เป็นฤดูฝนด้วย ดังนั้นผู้ใช้รถจะต้องระมัดระวัง เมาไม่ขับ และที่สำคัญต้องมีสติอยู่เสมอ ก็จะทำให้ลดการเกิดอุบัติเหตุได้”นพ.อนุชา กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม สพฉ. ได้ประสานไปยังศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการทั่วประเทศ ให้ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ สายด่วน 1669 รวมทั้งยังมีแอพลิเคชั่น "EMS1669" ที่พร้อมให้บริการกับประชาชนฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง



