ไลฟ์สไตล์

ม.44แก้ปัญหา'ธรรมาภิบาล'ปมขัดแย้งเฉพาะหน้าอุดมศึกษา

ม.44แก้ปัญหา'ธรรมาภิบาล'ปมขัดแย้งเฉพาะหน้าอุดมศึกษา

29 มิ.ย. 2559

ม.44แก้ปัญหา'ธรรมาภิบาล'ปมขัดแย้งเฉพาะหน้าอุดมศึกษา : ทีมการศึกษารายงาน

หลายเดือนที่ผ่านมา ข่าวคราว “อุดมศึกษาไทย” โดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างสภามหาวิทยาลัยและผู้บริหารมหาวิทยาลัย จนนำไปสู่การถอดถอน “อธิการบดี” ออกจากตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล(มทร.)ตะวันออก หรือ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) ส่วนมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เป็นความเห็นต่างระหว่างฝ่ายปฏิบัติ และอธิการบดี แต่ทั้งหมดต่างสะท้อนปัญหาธรรมาภิบาลในสถาบันการศึกษาทั้งสิ้น

ในความเหมือนยังมีความแตกต่าง เพราะกรณี มรภ.พระนคร มี 3 ดร.ราชภัฏพระนครยิงกันเสียชีวิต, ดร.ภาณุวัชร รุ่งมรกต อดีตผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรมพระนคร ยื่นหนังสือเรียกร้องความเป็นธรรม โดยอ้างว่าถูกให้ออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรมพระนครอย่างไม่เป็นธรรม

นอกจากนี้ยังมี “ขจิตพรรณ อมรปาน” ประธานสภาคณาจารย์และข้าราชการ มรภ.พระนคร ยื่นเรื่องร้องเรียนให้ “มีชัย ฤชุพันธุ์” นายกสภามหาวิทยาลัย สอบสวนหาข้อเท็จจริงถึง 5 เรื่องด้วยกัน 1.กรณีสัญญาเช่าที่ดินระหว่างมหาวิทยาลัยกับวัดพระศรีมหาธาตุ 2.กรณีการบริหารพุทธวิชชาชัย 3.การลดค่าเช่าห้องประชุม 4.การใช้เงินของศูนย์วัฒนธรรมพระนครทั้งระบบ 5.การจัดซื้อจัดจ้างทำความสะอาดอาคารฝึกประสบการณ์วิชาชีพและการจัดซื้อจัดจ้างทำความสะอาดอาคารเรียนรวมและศูนย์วัฒนธรรม (พุทธวิชชาลัย) ที่ใช้วิธีโดยวิธีพิเศษ

ล่าสุด นายกสภา มรภ.พระนครได้ลงนามในคำสั่งสภามหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ที่ 017/2559 ลงวันที่ 27 เมษายน 2558 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ตามที่สภามหาวิทยาลัยมีมติเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2559 ให้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง โดยมี “รศ.ทองหล่อ วงษ์อินทร์” เป็นประธาน เรื่องยังไม่ได้ข้อสรุปอยู่ระหว่างการดำเนินการ 

ว่ากันว่า พ.ร.บ.ราชภัฏทั้งในมาตรา 18 และมาตรา 30 ให้อำนาจสภามหาวิทยาลัยกำกับดูแลการบริหารงานของสถาบัน อธิการบดี และมีอำนาจในการแต่งตั้งและถอดถอนอธิการบดีได้ ตามมาตรา 30 (3) มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือบกพร่องต่อหน้าที่ หรือหย่อนความสามารถ โดยต้องมีคะแนนเสียงลงมติไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนกรรมการสภามหาวิทยาลัยทั้งหมดที่มีอยู่ ซึ่งเห็นได้จากการดำเนินการกรณีของสภามหาวิทยาลัยของ มทร.ตะวันออก และสภามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช 

อย่างไรก็ตาม การที่อธิการบดีจะพ้นจากตำแหน่งนั้น นอกจาก ตาย ลาออก ครบวาระ ฯลฯ ก็มีเรื่องการทำผิดวินัยร้ายแรง และความบกพร่องต่อหน้าที่ หย่อนความสามารถ(ซึ่งสภาต้องใช้เสียงถึง 2 ใน 2 เพื่อถอดถอน) แต่ถ้าสถาบันการศึกษาใดที่นายกสภามหาวิทยาลัยและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเป็นพวกเดียวกับอธิการบดี โอกาสที่จะมีกรณีถอดถอนอธิการบดี เช่น มทร.ตะวันออก และมสธ. ก็ยากที่จะเกิดขึ้น 

ล่าสุด ต้องจับตาดูคือ กรณีของ มรภ.เพชรบูรณ์ ที่มีคณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ออกมาร้องขอความเป็นธรรมจากกระทรวงศึกษาธิการ โดยอ้างว่าสภามหาวิทยาลัยเกาหลังกับอธิการบดี แก้ข้อบังคับของมหาวิทยาลัยไม่ถูกต้อง นัยว่าเป็นการกระทำที่อาจสร้างความเสียหายแก่สถาบัน ว่ากันว่าจะมีการประชุมสภามหาวิทยาลัยเพื่อพิจารณาดำเนินการในวันที่ 30 มิถุนายนนี้

ปัจจุบันอำนาจการบริหารงานมหาวิทยาลัยสภามหาวิทยาลัยมีอำนาจสูงสุด โดยอาศัยตามพระราชบัญญัติของมหาวิทยาลัยเอง เพราะมหาวิทยาลัยมีอิสระ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึก๋ษา (สกอ.) ทำหน้าที่เพียงรับทราบในแต่ละเรื่อง และเข้าไปตรวจสอบได้ตามอำนาจที่พึ่งมี อาทิ หลักสูตร เพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร แต่การบริหารงานล้วนเป็นความอิสระของมหาวิทยาลัยอย่างเต็มที่

ล่าสุดว่ากันว่า “พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ” ได้มีการระดมนิติกรทั้งของกระทรวงศึกษาธิการ และคณะทำงานด้านกฎหมายต่างๆ มาหารือร่วมกัน และพิจารณาว่ากฎหมายที่มีอยู่สามารถแก้ไขธรรมาภิบาล ได้หรือไม่ แต่ถ้าสุดท้ายแล้วเห็นว่าไม่สามารถจะแก้ไขได้จริงๆ ก็จะต้องขอใช้กฎหมายพิเศษ ตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2557 (ฉบับชั่วคราว) เพื่อแก้ไขปัญหาการบริหารงานการศึกษา เมื่อแน่ชัดแล้วว่า การแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการบริหารงานปกติ หรือกฎหมายปกติเกิดข้อติดขัดทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะปัญหาธรรมาภิบาล ของอุดมศึกษา ซึ่งอยู่ในขั้นวิกฤติ

แม้จะเป็นเส้นทางลัดที่สามารถผ่อนปรนความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเพียงระยะเวลาสั้นๆ ผศ.นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ประธานสภาคณาจารย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า มหาวิทยาลัยมีความอิสระในการบริหารจัดการตนเองค่อนข้างมาก ซึ่งบางแห่งก็มีศักยภาพทำให้ไม่มีปัญหา แต่บางแห่งที่ดูแล บริหารจัดการไม่เป็น ยิ่งระดับผู้บริหารขัดแย้งแก่งแย่ง เล่นพรรคเล่นพวก ไร้ซึ่งธรรมาภิบาลยิ่งแล้วใหญ่

“ธรรมาภิบาลเป็นหลักการบริหารงานที่ผู้บริหารทุกระดับต้องมี เนื่องจากการบริหารงานต้องอาศัยความสัมพันธ์ของคนที่อยู่ระดับสูงกว่าและต่ำกว่า ทุกคนที่อยู่ตำแหน่งต่างกันต้องมีธรรมาภิบาลซึ่งกันและกัน แต่ธรรมาภิบาลเป็นสิ่งที่เกิดจากจิตสำนึกของตัวบุคคลเอง แต่ถ้าทุกคนระลึกถึงบทบาทหน้าที่ของตนเอง และนึกถึงประโยชน์ส่วนร่วม ต่อให้ไม่มีกฎหมายอะไรมาควบคุม การบริหารงานทุกเรื่องจะมีความโปร่งใส เป็นธรรม แต่ถ้าไม่มีธรรมาภิบาลแล้วกฎหมายก็ยากที่จะแก้ไขได้อย่างยั่งยืน"

รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในฐานะเลขาธิการศูนย์ประสานงานบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ หรือ CHES กล่าวว่า จริงๆ เรื่องปัญหาธรรมาภิบาลไม่ได้เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยเฉพาะกลุ่ม อย่างมหาวิทยาลัยราชภัฏ หรือมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลเท่านั้น แต่มหาวิทยาลัยใหญ่ๆ ก็มีปัญหา แต่ชาวอุดมศึกษาส่วนใหญ่แบ่งพรรคแบ่งพวกคำนึงถึงหน้าตาชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย รวมทั้งสภามหาวิทยาลัยเกาหลังกับผู้บริหาร ยิ่งมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ มีความอิสระ ทุกคนเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยของรัฐ ทำให้ต้องอยู่ภายใต้การอำนาจของเหล่าผู้บริหาร เพราะถ้าใครออกมาพูด เรียกร้องความจริง แต่ขัดแย้งกับผู้บริหารก็จะอยู่ไม่ได้ ตอนนี้ถ้าเราสังเกตจะเห็นได้ว่า มีอาจารย์มหาวิทยาลัยจำนวนน้อยมากที่จะออกมามีบทบาทในการแสดงความคิดเห็น การตรวจสอบมันจึงเบาบางลง

รศ.ดร.วีรชัย กล่าวว่า กฎหมายดังกล่าวสามารถช่วยแก้ปัญหาได้จริง แต่ถ้าจะแก้ระยะยาวอยากให้ผลักดันพนักงานมหาวิทยาลัยทั่วประเทศอยู่ภายใต้การคุ้มครองแรงงาน การใช้กฎหมายแรงงาน ฟ้องศาลแรงงาน ซึ่งเป็นทั้งศาลแพ่งและอาญา จะทำให้การฟ้องศาลดำเนินการได้เร็วขึ้น และป้องกันไม่ให้ผู้บริหารใช้อำนาจมิชอบได้
 
ศ.ดร.สิน พันธุ์พินิจ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ตะวันออก สภา มทร.ตะวันออก มีมติเป็นเอกฉันท์ 20 ต่อ 1 ถอดถอนจากอธิการบดี เหตุผลฐานหย่อนสมรรถนภาพและบกพร่องต่อการปฏิบัติหน้าที่ ตามพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี พ.ศ.2548 มาตรา 25(6) สภามหาวิทยาลัยให้พ้นจากตำแหน่งเพราะบกพร่องต่อหน้าที่ มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือหย่อนความสามารถ มติของสภามหาวิทยาลัยให้พ้นจากตำแหน่งต้องประกอบด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนกรรมการสภามหาวิทยาลัยทั้งหมด

รศ.ดร.นพ.ชัยเลิศ พิชิตพรชัย ถูกสภามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) ปลด เนื่องจากมีปัญหาในการทำงาน ถูกร้องเรียนไม่สามารถปฏิบัติราชการได้เต็มเวลา ควบคู่กับที่สภาเห็นว่า รศ.ดร.นพ.ชัยเลิศ ไม่สามารถแก้ปัญหาต่างๆ ของมหาวิทยาลัยได้ตามที่เคยประกาศไว้ ล่าสุด รศ.ดร.นพ.ชัยเลิศ ได้ยื่นฟ้องร้องศาลปกครองเรียบร้อยแล้ว

มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร มีกรณี “3 ดร.มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครยิงกันตาย” โดยปมเหตุมาจากความขัดแย้งทางวิชาการโยงไปถึงการบริหารงานของอธิการบดีสภามหาวิทยาลัย (ผู้เสียชีวิตได้กล่าวอ้างถึงความไม่เป็นธรรมที่ได้รับ) แต่ขณะนี้เรื่องยังไม่กระจ่าง

“มรภ.เพชรบูรณ์” ที่คณบดีมนุษยศาสตร์ออกมาร้องขอความเป็นธรรมจากกระทรวงศึกษาธิการ โดยอ้างว่าสภามหาวิทยาลัยเกาหลังกับอธิการบดี แก้ข้อบังคับของมหาวิทยาลัยไม่ถูกต้องนัยว่าเป็นการกระทำที่อาจสร้างความเสียหายแก่สถาบัน