ไลฟ์สไตล์

คนเศร้า-โกรธนาน เพิ่มโอกาสสมองเสื่อม เช็ค10สัญญาณบ่งบอก

คนเศร้า-โกรธนาน เพิ่มโอกาสสมองเสื่อม เช็ค10สัญญาณบ่งบอก

28 มิ.ย. 2559

แพทย์เผยคนเศร้า-โกรธนาน เพิ่มโอกาสสมองเสื่อม ทำเซลล์สมองฝ่อลง ความจำใหม่ๆจะไม่เกิดขึ้น แนะออกกำลังกาย ร่างกายหลั่งสารบีดีเอ็นเอฟ ปุ๋ยช่วยรดเซลล์สมอง

      พญ.สิรินทร ฉันศิริกาญจน อายุรแพทย์ หน่วยเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ ภาควิชาอายุรศาสตร์คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี และนายกสมาคมผู้ดูแลผู้ป่วยสมองเสื่อม กล่าวภายในงาน“eat right eat organicเติมสุขภาพดี”เมื่อเร็วๆนี้ว่า ผู้สูงอายุ 80 ปีขึ้นไป มีโอกาสเกิดภาวะสมองเสื่อมถึง 1 ใน 3 ส่วนประเทศไทยพบผู้สูงอายุสมองบกพร่องราว 8-10%ของประชากรผู้สูงอายุ ถือเป็นโรคอย่างหนึ่ง ไม่ได้เกิดจากกระบวนการสูงอายุ ไม่ใช่ผู้สูงอายุทุกคนต้องสมองเสื่อม เฉพาะคนที่ป่วยเท่านั้น ภาวะสมองเสื่อมเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่พบว่าโรคอัลไซเมอร์และหลอดเลือดไม่ดี ทำให้เกิดภาวะสมองเสื่อมถึง 90%เพราะฉะนั้น คนที่ชอบกินอาหารที่มัน ควบคุมความดันโลหิตไม่ดี และไขมันในเลือดสูงก็จะมีโอกาสป่วยสูง

       พญ.สิรินทร กล่าวด้วยว่า 10 สัญญาณที่บ่งบอกอาการสมองเสื่อม ได้แก่ 1.การสูญเสียความทรงจำในระยะสั้นที่กระทบต่อการทำงาน 2.สิ่งที่เคยทำเป็นประจำเริ่มทำไม่เป็น 3.ปัญหาด้านภาษา เลือกคำพูดไม่ค่อยถูก 4.ไม่รู้เวลาและสถานที่ 5.สูญเสียการตัดสินใจ 6.ไม่ค่อยเข้าใจความคิดที่เป็นนามธรรม 7.วางของผิดที่แบบแปลกๆ 8.อารมณ์หรือพฤติกรรมเปลี่ยนแปลง 9.บุคลิกภาพเปลี่ยนแปลง และ10.สูญเสียความคิดริเริ่ม

      “คนที่ตกอยู่ในความเศร้า ทุกข์ สูญเสีย น้อยใจหรือความโกรธ โมโห ซึ่งถือเป็นกลุ่มอารมณ์เดียวกันเป็นเวลานาน มีโอกาสที่จะเป็นสมองเสื่อมมากขึ้น เนื่องจากการที่จิตไม่เบิกบานทำให้เซลล์สมองที่บันทึกความจำ หรือสมองส่วนฮิปโปแคมปัสฝ่อลง ความจำใหม่ๆจะไม่เกิดขึ้น ถ้าปรับอารมณ์เหล่านี้ได้เร็วเซลล์ที่ฝ่อก็จะกลับมาดี แต่หากปล่อยให้เศร้า หดหู่ ทุกข์นานๆเซลล์นี้ก็จะตายไป ไม่กลับมาอีก สมองฝ่อไปเลยเกิดเป็นสมองเสื่อมจึงไม่ควรเศร้าหรือโกรธเป็นเวลานาน ให้เกิดขึ้นเพียงระยะเวลาสั้นๆ จากนั้นให้หยุดและหาอย่างอื่นทำแทน” พญ.สิรินทรกล่าว

    พญ.สิรินทร กล่าวด้วยว่า ส่วนที่มีการโฆษณามากมายในปัจจุบันว่ามีสารเคมีหลายตัวช่วยในการบำรุงสมองได้ดีนั้น ยังไม่มีการทดลองทางวิทยาศาสตร์ยืนยัน แต่มีข้อมูลทางวิชาการชัดเจนว่า การออกกำลังกายทำให้สมองยั่งยืน จากการที่มีการหลั่งสารเอ็นโดรฟินหรือสารความสุข แต่หากเป็นแพทย์สมองจะเรียกว่า สารบีดีเอ็นเอฟ (BDNF: Brain-derived Neurotrophic Factor) ที่เปรียบเสมือนปุ๋ยที่มาช่วยรดเซลล์สมอง ทำให้เซลล์สมองที่อ่อนล้ากลับมากระฉับกระเฉง ควรออกกำลังกายให้เหมาะสมกับสภาพร่างกาย และอาหารก็เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันภาวะสมองเสื่อมไม่ควรอดอาหารเช้า รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ อาหารที่มีโอเมก้า 3 ก็จะช่วยบำรุงสมอง ซึ่งในปลาทู ปลาสวายมีสูงกว่าในปลาแซลมอน