Lifestyle

คนไทยไม่คุยเรื่องเพศกับลูกทำวัยรุ่นคลอดลูกถึงวันละ 334 คน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

วัยรุ่นไทยคลอดลูกวันละ 334 คน คนไทยไม่คุยเรื่องเพศกับลูกทำเกิดปัญหา วอนเลิกอคติลบ เรื่องเพศสกปรก-หน้าอาย จ้อง 3 โอกาสทองเริ่มคุย แนะเตรียมพร้อม 8 ข้อคุยให้ได้ผล

        เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2559 ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ  ทพ.ศิริเกียรติ เหลียงกอบกิจ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) แถลงข่าวเปิดโครงการ “โอกาสทองคุยเรื่องเพศกับลูก”ว่า สถานการณ์แม่วัยรุ่นของประเทศไทยในปี 2557 พบว่า ประชากรวัยรุ่นหญิงอายุ 15-19 ปี มีอัตราการคลอดเป็น 47.9 ต่อ 1,000 หรือเท่ากับมีทารกเกิดจากแม่วัยรุ่นวันละ 334 คน  ซึ่งเป็นอัตราที่สูงกว่าประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ มาก นอกจากนี้ยังพบว่า มีการคลอดซ้ำในแม่วัยรุ่น เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 11.3 ในปี 2553 เป็นร้อยละ 12.8 ในปี 2557 แสดงให้เห็นว่ายังไม่ประสบความสำเร็จในการป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น   ทั้งนี้ จากการทำงานที่ผ่านมา ของแผนงานสร้างเสริมสุขภาวะทางเพศ สสส. พบว่า การสนับสนุนให้พ่อแม่ผู้ปกครองพูดคุยเรื่องเพศกับลูกหลานอย่างมีความรู้ความเข้าใจที่ดีพอ  โดยใช้โอกาสทองในการพูดคุยกับลูก  เป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในการช่วยสร้างภูมิคุ้มกันในเรื่องเพศและการตั้งครรภ์ไม่พร้อมให้แก่เด็กเยาวชน

       “หลักการง่ายๆที่พ่อแม่ ผู้ปกครองจะเปิดโอกาสคุยเรื่องเพศเพื่อปิดโอกาสพลาดกับบุตรหลาน เพียงมีความรู้และเข้าใจที่ถูกต้องใน 3 เรื่อง คือ 1. ทัศนคติเรื่องเพศในทางบวก ไม่มองว่าเป็นเรื่องปิด หน้าอาย ลามก สกปรก หรือคิดว่าโตไปลูกจะรู้เอง  2.ความรู้เรื่องเพศ และ3.ทักษะพูดคุยสื่อสาร  ก็จะช่วยให้เด็กสามารถตัดสินใจเรื่องเพศด้วยตัวเองได้อย่างปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ เมื่อเจอปัญหาจะได้แก้ไขได้ในทางที่ถูก”ทพ.ศิริเกียรติกล่าว

      พญ. จิราภรณ์  อรุณากูร กุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า พ่อแม่ ผู้ปกครองในสังคมไทยมักมีทัศนคติเรื่องเพศที่ไม่ดี มองว่าหากคุยเรื่องเพศกับลูกจะเป็นการชี้โพรงให้กระรอกหรือกระตุ้นให้อยากมีเซ็กส์มากขึ้น ตรงกันข้าม มีงานวิจัยระบุว่า ครอบครัวที่พูดคุยเรื่องเพศกับลูก จะทำให้ลูกมีพฤติกรรมเสี่ยงเรื่องเพศน้อยกว่าครอบครัวที่ไม่ได้คุยเรื่องนี้กับลูก เนื่องจากจะทำให้ลูกมีความรู้ ความเข้าใจจึงสามารถตัดสินใจเรื่องเพศได้ดี  อีกทั้ง งานวิจัยยังพบด้วยว่า เด็กต้องการพูดคุยเรื่องเพศกับพ่อแม่มากที่สุดถึง ร้อยละ 60 แต่มีเด็กที่ได้พูดคุยกับพ่อแม่เกี่ยวกับเรื่องนี้เพียงแค่ ร้อยละ 18 เท่านั้น สอดคล้องกับข้อมูลงานวิจัยจำนวนมากในต่างประเทศ พบว่า พ่อ–แม่ ผู้ปกครองมีส่วนสำคัญที่สามารถป้องกันบุตรหลานวัยรุ่นตั้งครรภ์ได้

     “การที่พ่อแม่ไม่คุยเรื่องเพศกับลูก ส่งผลให้เด็กหันไปพูดคุยกับเพื่อนแทน หรือหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตที่จะได้เพียงแค่การอ่านแล้วจำ ซึ่งจะแตกต่างจากการพูดคุยกับพ่อแม่ที่จะทำให้เด็กได้ฝึกและรู้จักการคิดวิเคราะห์  โดยสิ่งสำคัญในการคุยเรื่องเพศกับลูก ต้องไม่ให้ลูกกลายเป็นจำเลย  พ่อแม่ต้องฟังลูกอย่างมีสติ อย่าเล่นบทบาทผู้สั่งสอน จะทำให้ลูกห่างออกไปเรื่อยๆ เพราะวัยรุ่นไม่ต้องการให้ใครมาสอน เขาจะรู้สึกว่าตัวเองยังไม่เก่งพอ แต่ต้องการแค่คนรับฟัง”พญ.จิราภรณ์กล่าว

      พญ.จิราภรณ์ กล่าวอีกว่า  พ่อแม่ควรคว้าโอกาสทองในการคุยกับเรื่องเพศกับลูก คือ 1. เมื่อเด็กอยากคุย  เริ่มสนใจอยากรู้   เริ่มตั้งคำถามก่อนด้วยความสนใจ 2. เมื่อมีโอกาส ไม่ว่าจะเป็นในช่วงเวลาที่ดูละคร ข่าว หรือมีเหตุการณ์เชื่อมโยง นำมาใช้ในการฝึหให้ลูกเรียนรู้ หรือฝึกวิธีคิดของลูก และ 3. เมื่อจำเป็นต้องคุย หรือกรณีเห็นลูกมีพฤติกรรมบางอย่าง เช่น ลูกฝันเปียก  ลูกเริ่มมีแฟน หรือสังเกตเห็นการแสดงออกที่เปลี่ยนไป ทั้งนี้  ก่อนการคุยเรื่องนี้ควรมีการเตรียมพร้อมของพ่อแม่ ผู้ปกครองอย่างน้อย 8 เรื่อง ได้แก่ 1.เตรียมความคิด  สร้างความเชื่อมั่นให้ตนเองว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ต่างจากการกิน การนอน การขับถ่าย 2.เตรียมใจ  อย่ากังวลเกินไป พ่อแม่ไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่อง สำหรับเรื่องที่ไม่รู้ก็ร่วมกันคิดหาคำตอบกับลูก 3.พร้อมรับฟัง รับรู้ถึงอารมณ์ความรู้สึกของลูก ห้ามด้วนตัดสินว่าผิดหรือถูกก่อนฟังจบ พูดคุยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ไม่คาดคั้น

     4.เรียนรู้โลกของลูก เด็กแต่ละคนจะมีการรับรู้และความสามารถเฉพาะตัวต่างกัน คำตอบเดียวกันไม่สามารถใช้ได้กับเด็กทุกคน จึงจำเป็นตองสังเกตว่าลูกมีความสนใจเรื่องใด คบเพื่อนแบบไหน เมื่อรู้จักโลกของลูกทำให้รู้แนวทางที่จะพูดคุยเรื่องเพศได้อย่างเหมาะสม 5.ใช้เหตุการณ์รอบตัวมาเปิดประเด็น เช่น เมื่อดูละครด้วยกันแล้วมีฉากลิฟซีนที่เข้มข้น  อาจถามลูกว่า “คิดอย่างไรกับฉากนี้” เป็นต้น 6.ไม่ยัดเยียดข้อมูล เพราะจะทำให้เรื่องเพศกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อ หากใส่ข้อมูลมากเกินไป หรือนั่งอบรม ควรเลือกเวลาคุยในช่วงที่สบายๆ ผ่อนคลาย 7.ถามแบบเปิดกว้างและไม่จู่โจม  จะทำให้ลูกสบายใจ ไม่รู้สึกว่าถูกจ้องจับผิด จะแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระมากขึ้น และ 8.กฎเหล็ก 2 ไม่  จะต้องไม่ล้อเลียน  เรื่องเพศต้องพูดอย่างตรงไปตรงมา ไม่พูดในเชิงล้อเลียน  และไม่ขู่  จะทำให้เด็กขาดความมั่นใจ บางครั้งจะปิดกั้นตนเองจากการหาข้อมูลหรือทักษะที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตทางเพศที่ปลอดภัย

      อนึ่ง สสส.มีการจัดอบรมหลักสูตร “พลิกมุมมองเรื่องเพศ คุยกับลูกเชิงบวก”ให้ผู้ปกครอง เพื่อพัฒนาการสื่อสารเรื่องเพศเชิงบวกกับลูกหลาน สื่อสารในครอบครัวได้อย่างเป็นมิตร ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ ทำให้พ่อ แม่ ผู้ปกครองได้เปิดใจมีมุมมองใหม่เรื่องเพศ เพิ่มทักษะการรับฟังอย่างเข้าอกเข้าใจ เสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีโดยจะมีการจัดอบรมในช่วง 4 เดือนตั้งแต่ มิ.ย.- ก.ย. 2559 ใน 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ กำแพงเพชร ขอนแก่น อุบลราชธานี ชลบุรี ราชบุรี สงขลา และกรุงเทพฯ ที่ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. ท่านที่สนใจสามารถสอบถามและสมัครได้ที่ โทร. 061-919-0111 หรือ หาความรู้การคุนเรื่องเพศกับลูกได้ที่เวบไซต์ www.คุยเรื่องเพศ.com 

/////////////////////////////////

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ