
มกท.ชูC+Eคิดต่างไม่ตามสูตร เจ้าของธุรกิจก่อนจบป.ตรี
03 พ.ค. 2559
มกท.ชูC+Eคิดต่างไม่ตามสูตร เจ้าของธุรกิจก่อนจบป.ตรี : ชุลีพร อร่ามเนตร ... รายงาน
“ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของธุรกิจ และสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้แก่ตนเอง เพียงขอให้มีความคิดสร้างสรรค์ คิดแตกต่าง และไม่จำเป็นต้องตามสูตรของใคร เพราะทุกคนล้วนมีสูตรในการใช้ชีวิต การทำธุรกิจของตนเอง แต่ต้องกล้า มีความตั้งใจ และมุ่งมั่นที่จะคิดก่อน ทำก่อนผู้อื่น” มุมมองความคิดของ "น้องบ๊วย" วลีพร เดี่ยววานิช นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะมนุษยศาสตร์และการจัดการท่องเที่ยว วิชาเอกการโรงแรม เจ้าของธุรกิจอีโครีสอร์ท บี52 บีชรีสอร์ท เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ นำองค์ความรู้จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (มกท.) คิดต่าง ไม่ตามสูตร ต่อยอดธุรกิจของครอบครัว
เทรนด์คนรุ่นใหม่ ต่างมุ่งหวัง ต้องการ เส้นทางสู่ความสำเร็จ อยากมีชีวิตที่สะดวกสบาย เมื่อจบการศึกษา บัณฑิตอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ทำให้มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งต่างงัดกลยุทธ์ เปิดหลักสูตรรองรับความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่อยากมีธุรกิจของตนเอง ม.กรุงเทพ หรือ มกท. เป็นอีกหนึ่งมหาวิทยาลัยที่มีอัตลักษณ์โดดเด่น “คิดแบบสร้างสรรค์ คิดแบบเจ้าของ” แถมล่าสุด ผุดสโลแกนใหม่ “คิดต่าง ไม่ตามสูตร” ภายใต้แนวคิด C+E (Creativity + Entrepreneurial Spirit) ปิ๊งไอเดีย สร้างเส้นทางความสำเร็จของนักศึกษาคิดและสร้างธุรกิจของตนเองได้ก่อนจบปริญญาตรี ในแบบฉบับของตนเอง
น้องบ๊วย เล่าว่า เลือกเรียน ม.กรุงเทพ เพราะรู้ว่าที่นี่ทุกคณะทุกสาขาต่างสอนให้เด็กคิดสร้างสรรค์ และรู้จักต่อยอดพัฒนาสร้างธุรกิจของครอบครัว มีหัวคิดทางธุรกิจ การเป็นผู้ประกอบการ ซึ่งตั้งแต่ปี 1 จนถึงปี 4 ทุกวิชาล้วนมีการสอดแทรกการเรียนการสอนการคิดแบบสร้างสรรค์ คิดแบบเจ้าของ แม้ไม่ได้เรียนคณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและการบริหารกิจการ(BUSEM) แต่ได้เรียนรู้การเป็นเจ้าของกิจการ การทำธุรกิจอย่างถูกต้องภายใต้การมองที่แตกต่างออกไป
โดย “บ๊วย” ได้พัฒนารีสอร์ทของครอบครัว จากเดิมที่มุ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วไปที่มาเที่ยวเกาะพะงัน มางานฟูลมูนปาร์ตี้ เธอมองแตกต่างออกไป มองกลุ่มเป้าหมายใหม่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ วัยกลางคน หรือกลุ่มคนผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มคนมีเงินและต้องการมาใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ จึงปรับเปลี่ยนต่อยอดรีสอร์ทเป็น อีโครีสอร์ท ตอบสนองความต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยวผู้สูงอายุที่ต้องการมาใช้ชีวิตชิลๆ สัมผัสธรรมชาติเกาะพะงัน จนขณะนี้ได้สร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวมากขึ้น
ต้องมองหาความแตกต่างในธุรกิจที่เราสนใจ และมีความกล้าคิด กล้าทำ เพราะยิ่งเราทำเร็วกว่าคนอื่นก็ยิ่งประสบความสำเร็จ และการทำธุรกิจอย่ากลัวความผิดหวัง ทุกคนสามารถสร้างสูตรในการทำธุรกิจของตนเองได้ เช่นเดียวกับ "น้องเฟรช" เกียรติศักดิ์ คำวงษา นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและการบริหารกิจการ(BUSEM) เจ้าของธุรกิจกาแฟชะมด Blue Gold Coffee เริ่มทำธุรกิจตั้งแต่เรียนปี 1 ใช้เวลาสองปี เปิดตัวสินค้ากาแฟชะมดจากฟาร์มเลี้ยงแบบเปิดแห่งแรกและแห่งเดียวในไทย ผลตอบรับทางการตลาดส่งผลให้เขาเป็นเจ้าของธุรกิจมูลค่าหลายสิบล้านบาท
น้องเฟรช เล่าว่า หลังจากครอบครัวของเขาประสบปัญหาภาวะทางการเงิน ทำให้เขาอยากทำธุรกิจเพื่อช่วยหาเงินให้แก่ที่บ้าน ซึ่งที่บ้านมีไร่กาแฟ และตอนเด็กๆ ก็เคยเลี้ยงชะมด เมื่อเห็นกาแฟชะมดในอินโดนีเซีย ทำให้เกิดไอเดียว่าทำธุรกิจกาแฟชะมดในไทย เพราะตลาดยังมีจำกัด ลองทำอะไรที่แตกต่างจากคนอื่น พอได้ไอเดียไปปรึกษากับแม่ และมาปรึกษาอาจารย์ผู้สอน อย่าง ดร.อาทร พร้อมพัฒนภัค ประธานโครงการผู้ประกอบการวัยรุ่น ว่าอยากทำกาแฟชะมด อาจารย์ช่วยให้แนะนำ สร้างเครือข่าย ทำให้ได้รู้จักการวางแผนธุรกิจ จนกระทั่งก่อเกิดเป็นธุรกิจกาแฟชะมดของตนเอง
“เราอยากเป็นผู้ประกอบการ เมื่อ 4 ปีก่อนก็ได้พยายามหาหลักสูตรที่จะทำให้เราเข้าใจ มีองค์ความรู้ เทคนิค เครือข่ายในการเป็นผู้ประกอบการที่ดี มีคุณธรรม และทำธุรกิจเป็น ซึ่งตอนนั้น ม.กรุงเทพ เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เปิดสอนคณะBUSEM เน้นการเรียนการสอนแบบลงมือปฎิบัติ ทำเองทุกขั้นตอน ไม่ใช่เรียนจากตำราอย่างเดียว แต่เรียนจากนักธุรกิจมากประสบการณ์ มีเครือข่ายนักธุรกิจช่วยเสริมความคิดสร้างสรรค์ ต่อยอดธุรกิจ ดังนั้น ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของธุรกิจได้ โดยเริ่มมองค้นหาตัวเอง จากสิ่งที่ชอบหรือธุรกิจที่บ้าน พร้อมเผชิญทั้งความสำเร็จ และปัญหา ลองผิดลองถูก คุณสมบัติผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ผมล้วนได้จากการเรียนรู้ตลอด 4 ปี ที่ ม.กรุงเทพ”
แนวคิด C+E ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้สร้างความแตกต่างให้แก่มหาวิทยาลัยในการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนในทุกคณะทุกสาขาวิชาเพื่อสร้างอัตลักษณ์เด่นของนักศึกษาให้มีครบทั้งการคิดแบบสร้างสรรค์ (Creativity) และคิดแบบเจ้าของ (Entrepreneurial Spirit) ซึ่งเป็นแนวทางสร้างบุคลากรยุคใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจในปัจจุบัน
อาจารย์เพชร โอสถานุเคราะห์ อธิการบดีมกท. กล่าวว่า แนวคิด C+E ได้ถูกนำไปปรับใช้เพื่อบ่มเพาะความคิดผู้ประกอบการสร้างสรรค์ให้แก่นักศึกษาทุกคน ไม่ว่านักศึกษาจะมีเป้าหมายในการสร้างและบริหารกิจการของตนเอง หรือต้องการทำงานกับองค์กรใด พวกเขาจะเป็นบุคลากรที่มีบุคลิกเด่นในสองเรื่องคือ มีความคิดสร้างสรรค์ และมีความคิดแบบเจ้าของ ทำให้เป็นคนที่มีวิสัยทัศน์มีความมุ่งมั่นตั้งใจกับภารกิจและพร้อมพัฒนาตนเองและพัฒนางานเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
แนวทางการสร้างบัณฑิตเข้าสู่ตลาดแรงงานในภาคธุรกิจด้วยแนวคิด C+E แสดงให้สังคมได้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนอย่างแท้จริง ปีการศึกษา 2559 นี้ เป็นปีแรกที่ ม.กรุงเทพ ได้ดำเนินแผนงานต่อยอดสร้างกระบวนการ “คิดแบบสร้างสรรค์ คิดแบบเจ้าของ” เข้าสู่กลุ่มนักเรียนระดับชั้นมัธยมทั่วประเทศ เพื่อกระตุ้นให้โรงเรียนได้ส่งเสริมกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อการสร้างผู้ประกอบการตั้งแต่วัยคอซอง
โดยจัดกิจกรรมมอบทุนผู้ประกอบการวัยรุ่นจำนวน 5 ทุน มูลค่าประมาณ 4 แสนบาทต่อทุน เป็นทุนเรียนฟรีในระดับปริญญาตรี 4 ปี ในคณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและการบริหารกิจการ (School of Entrepreneurship and Management: BUSEM) ซึ่งมหาวิทยาลัยกรุงเทพได้ดำเนินการมอบทุนให้นักเรียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกันนี้โรงเรียนที่นักเรียนได้รับทุนดังกล่าวยังได้รับทุนส่งเสริมกิจกรรมอีกจำนวน 1 แสนบาทต่อโรงเรียน เพื่อใช้ในการสนับสนุนกิจกรรมพัฒนาศักยภาพของนักเรียน สำหรับผู้สนใจเรียน ม.กรุงเทพ สอบถามโทร.0 2350 3500-99 หรือ http://www.bu.ac.th
------------------
(มกท.ชูC+Eคิดต่างไม่ตามสูตร เจ้าของธุรกิจก่อนจบป.ตรี : ชุลีพร อร่ามเนตร ... รายงาน)



