
เปิดจดหมาย!หมอดลฤดีส่งตรงถึงเนชั่นทีวี
เปิดจดหมาย!หมอดลฤดีส่งตรงถึงเนชั่นทีวี ยัน!พร้อมหนี้ให้ครบแน่นอน ขณะที่หมอเผด็จโพสต์สวนไม่เชื่อ
ความคืบหน้ากรณี ทพญ.ดลฤดี จำลองราษฎร์ อดีตอาจารย์คณะทันตแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล หนีทุนเรียนจนทำให้กลุ่มเพื่อนทันตแพทย์และอาจารย์ผู้ค้ำประกันต้องชดใช้หนี้แทนจำนวน 8 ล้านบาท และกลุ่มผู้ค้ำประกันได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรม โดยต้นสังกัดมหาวิทยาลัยมหิดลได้หาทางเยียวยาด้วยการยื่นฟ้องล้มละลาย ทพญ.ดลฤดีต่อศาลไทย และเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ทพ.เผด็จ พูลวิทยกิจ ทันตแพทย์ผู้ค้ำประกันทพญ.ดลฤดี โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว กรณี ทพญ.ดลฤดีส่งอีเมลมาถึงกลุ่มผู้ค้ำประกันทุกคน โดยข้อความดังกล่าวระบุกำลังหาทางเอาเงินมาจ่ายคืนแต่ก็มีผู้ค้ำประกันได้ออกมาปฎิเสธไม่เป็นความจริง
และเมื่อ23.00น.คืนของวันที่ 3 กุมภาพันธ์ทพญ.ดลฤดีได้ตอบอีเมลกลับมาที่
"เนชั่นทีวี" หลังจากที่ได้ส่งเมลถามไปเมื่อวันที่ 31 มกราคม และ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมารวมสองครั้ง ถึงข้อสงสัย สาเหตุที่ไม่กลับมาใช้ทุนและปล่อยให้คนค้ำประกันชดใช้แทน โดยข้อความตอบในเมลระบุว่า
"ระหว่างสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการพูดคุยและข้อกล่าวหาต่างๆ ทางออนไลน์ เกี่ยวกับสัญญาเรื่องทุนการศึกษา ที่ผู้ร่วมลงชื่อกับดิฉัน และตัวดิฉันที่ได้เซ็นไว้กับมหาวิทยาลัยมหิดลในปี ค.ศ. 1993 โดยมีบางคนที่อาจจะไม่ได้รับรู้ถึงข้อเท็จจริงทุกประการในเรื่องที่ซับซ้อนอย่างมาก และไม่เป็นปกติ (เช่นเรื่องนี้) หรือบางคนที่อาจจะเร่งรีบสรุปเกี่ยวกับตัวดิฉัน
(ซึ่ง)เรื่องนี้นับว่าเป็นประเด็นส่วนตัว ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และ วิทยาลัยทันตแพทย์ศาสตร์แห่งฮาร์วาร์ดจุดที่สำคัญที่สุดที่ดิฉันอยากจะเน้นก่อนอื่นในแถลงการณ์นี้ คือว่าดิฉันมีเจตจำนงมาตลอดที่จะชำระคืนทุนการศึกษาที่ดิฉันได้รับมาจากมหาวิทยาลัยมหิดล - ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของการ(ทำงาน) รับใช้ หรือว่าในรูปตัวเงิน ดิฉันได้ร้องขอให้มีความยืดหยุ่นมาโดยตลอด
ในเรื่องของช่องทางการชำระคืน ตัวอย่างเช่น (ได้เสนอยื่น)แผนการชำระคืนในระยะที่ยาวกว่าเดิม แทนที่จะเป็นการจ่ายเงินก้อนโตภายใน 30 วัน แต่ก็ถูกปฏิเสธ และเนื่องจากความยากลำบากในด้านการเงินและเรื่องส่วนตัว ที่เกี่ยวกับสถานะทางวีซ่า และการปฏิเสธต่ออายุหนังสือเดินทาง โดยมหาวิทยาลัยมหิดล ดิฉันไม่สามารถทำงานได้เป็นเวลาหลายปี และด้วยการสนับสนุนจากครอบครัว เพื่อนฝูง คนไข้ และเพื่อนร่วมงานของดิฉัน ดิฉันจึงสามารถได้รับสถานะทางวีซ่าคืน และเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ในที่สุดนับแต่นั้นมา
ดิฉันได้แสดงถึงความต้องการที่จะแสดงความรับผิดชอบในเรื่องการชำระเงิน(กู้ยืมทุนการศึกษา)คืน ทั้งโดยวาจา โดยผ่านอีเมล และโดยทางโทรศํพท์กับ ผู้ร่วมลงชื่อกับดิฉันมาโดยตลอด และดิฉันได้ดำเนินการชำระคืนบ้างแล้วบางส่วนในช่วงที่เป็นไปได้ ดังนั้นข้อกล่าวหาที่ว่าดิฉันได้พยายามหลบหนีและหลีกเลี่ยงภาระการชำระคืน จึงไม่เป็นความจริงเมื่อเร็วๆ นี้ มหาวิทยาลัยมหิดลได้บังคับใช้เส้นตาย(การชำระหนี้)กับผู้ร่วมลงชื่อกับดิฉัน ซึ่งเป็นเส้นตายที่ไม่ได้มีการสื่อสารต่อให้ดิฉันได้รับรู้ จนกระทั่งมหาวิทยาลัยมหิดลได้ลงมือบังคับใช้โดยกระทันหัน โดยดิฉันได้รับเงินจากสินเชื่อส่วนตัวเป็นจำนวน ห้าหมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ และได้ส่งมอบเงินให้แก่ผู้ร่วมลงชื่อกับดิฉันไปแล้วเมื่อเดือนเมษายน (พ.ศ. 2558)
และดิฉันยังได้ร้องขอว่า ให้ทางมหาวิทยาลัยมหิดล ได้ขยายเส้นตาย(การชำระเงินส่วนที่เหลือ)ออกไปอีกเพื่อที่ดิฉันจะได้มีเวลาพอที่จะหาเงินมาเพิ่มเติมเพื่อชำระเงินทุนการศึกษาในส่วนที่เหลือผ่านทางผู้ร่วมลงชื่อกับดิฉันและโดยที่ปราศจากการผ่อนผันจากมหาวิทยาลัยมหิดล ผู้ร่วมลงชื่อกับดิฉันได้ทำเรื่องขอสินเชื่อส่วนตัวเพื่อชำระหนี้แทนดิฉัน และดิฉันได้ให้สัญญากับพวกเขาว่า เงินทั้งหมดที่เขาได้ชำระให้กับมหาวิทยาลัย(ตามสัญญาค้ำประกัน)ไปแล้ว จะได้รับชำระคืนทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ย หลังจากที่ดิฉันได้รับเงินสินเชื่อที่จำเป็นเพิ่มเติมมาอีกในอนาคต ซึ่งขณะนี้ดิฉันก็กำลังดำเนินการที่จะเสาะหาเงินเพิ่มเติมมาอีก และดิฉันได้ขอร้องอีกว่า ขอให้ดิฉันได้มีเวลาเพิ่มที่จะชำระเงินคืนแก่ผู้ร่วมลงชื่อกับดิฉันและโดยที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ดิฉันหวังว่ากรณีนี้จะมีผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญใน(หลักเกณฑ์)การอนุมัติให้ทุนการศึกษา และระบบใข้ทุนคืนในประเทศไทย - ซึ่งเป็นระบบที่จะอนุญาตให้มีทางออกเสริมที่มีเหตุผลและเป็นประโยชน์ต่อสำหรับผู้ได้รับทุน ที่จะสามารถชำระเงินคืนได้
พวกคุณอยู่ ซึ่งบางทีอาจเป็นการดีกว่าถ้าผู้ค้ำประกันทุกคนรับฟังเรื่องราวโดยตรงจากดิฉัน เพื่อจะได้มั่นใจว่า จะทำตามสัญญา ตอนนี้ได้พูดคุยกับพี่ปุ้ย ซึ่งพี่ปุ้ยได้รับรู้ถึงเจตนาและความจริงใจของดิฉัน ดังนั้นช่วยบอกหมายเลขโทรศัพท์และเวลาที่สะดวกของผู้ค้ำประกันเพื่อจะได้ติดต่อไปหา”
ขณะที่ ทพ.เผด็จ พูลวิทยกิจ ทันตแพทย์ผู้ค้ำประกันให้แก่ ทพญ.ดลฤดี โพสต์ข้อความสวนกลับทางเว็บไซต์เนชั่นทีวีว่า "ผมได้อ่านแล้วครับ แต่ผมไม่ชอบกิน...ครับ" ซึ่งหมอเเผเด็จไม่เชื่อ เพราะก่อนหน้านี้เธอเคยพูดแบบนี้มาแล้ว เคยบอกจะจ่ายหนี้มาแล้วหลายครั้งแต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทำตามคำพูดแม้แต่ครั้งเดียว มาครั้งนี้เธอเขียนจดหมายมาอีกครั้งซึ่งตอบแบบกว้าง ๆ เนื่อหาเหมือนเดิม ซึ่งตอนนี้เรื่องนี้เริ่มกระทบถึงตัวเธอมากขึ้น เพราะแรงกดดันจึงเธอต้องตอบจดหมายอีกครั้งหนึ่งที่สำคัญทันตแพทย์เผด็จ พูลวิทยกิจ ได้เคยบอกไว้ว่า"ดลฤดี"ไม่เคยพูดขอโทษสักคำ ไม่เคยรู้สึกถึงการทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน แม้ผู้อื่นใช้หนี้แทนเธอแล้ว"



