ผอ.ชี้กราบนร.สอนให้ขอโทษ

 

                      23 ม.ค. 59  ภาพเหตุการณ์ นายอนันต์ ทรัพย์วารี ผู้อำนวยการโรงเรียนเทพศิรินทร์ ยกมือไหว้และทำท่าก้มลงกราบนักเรียนชั้น ม.6 หน้าแถวเคารพธงชาติบนสนามบาสเกตบอล ที่ปรากฏเมื่อเช้าวันที่ 22 มกราคม กลายเป็นประเด็นร้อนที่สังคมกำลังติดตามว่า อะไรเป็นสาเหตุแท้จริงที่ทำให้ผู้อำนวยการโรงเรียนต้องยอมก้มกราบลูกศิษย์ บางกระแสมองว่า การศึกษาในยุคสิทธิเสรีภาพเฟื่องฟูทำให้สัมมาคารวะที่นักเรียนควรมีต่อครูลดน้อยลงไป แต่บางกระแสก็มองว่าเป็นดราม่า ที่ครูแสดงออกเกินกว่าเหตุ ขณะที่ผู้บริหารในกระทรวงศึกษาธิการกลับมองทั้งสองด้าน แต่ก็ได้ตัดเตือนผู้อำนวยการโรงเรียนถึงการแสดงออกที่อาจดูไม่เหมาะสม แม้มีเจตนาดีที่ต้องการบ่มเพาะนิสัยที่ดีให้แก่ลูกศิษย์ก็ตาม 

 

                      ล่าสุด นายอนันต์เปิดใจให้สัมภาษณ์รายการข่าวเนชั่นทีวี ชี้แจงว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 22 มกราคม หลังจากเคารพธงชาติแล้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนจะพูดคุยกับนักเรียนชั้น ม.5-ม.6 ต่อเป็นการเฉพาะที่สนามบาสเกตบอล ซึ่งปกติจะใช้เวลาไม่เกิน 20 นาที แต่วันดังกล่าวมีเรื่องที่ต้องชี้แจงเกี่ยวกับความเข้าใจผิดเรื่องการตัดต้นไม้ในโรงเรียน ทำให้ใช้เวลานานเกินไป 5 นาที นักเรียนบางคนจึงไม่พอใจ

 

                      “เรื่องการประชุมที่เกินเวลาจากที่กล่าวไว้แค่ 20 นาที เป็นการประชุมที่เกินเวลาไป 5 นาทีจริง เพราะปกติโรงเรียนเทพศิรินทร์จะติดกับวัดเทพศิรินทร์ ซึ่งพระจะทำวัตรเช้าเวลา 08.15 น.ทุกวัน บริเวณหน้าวัด ถ้าไม่มีการประชุมก็จะพาเด็กนักเรียนไปเข้าวัดที่พระอุโบสถตลอด เวลาพูดประชุมเลยจะพูดไม่เกินเวลา 08.15 น. เป็นมาตรฐานของผมอยู่แล้ว แต่ด้วยวันดังกล่าวมีเรื่องชี้แจงเยอะ เลยใช้เวลาเกินไป 5 นาที และด้วยหลังกล่าวประชุมจบได้ถามนักเรียนว่ามีอะไรอยากถามไหม? ซึ่งมีเด็กนักเรียนคนหนึ่งถามขึ้นมาอีก ทำให้ใช้เวลานานขึ้นไปอีก จนกระทั่งมีนักเรียนคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาว่า เกินเวลาไปแล้ว 5 นาที และแสดงท่าทางไม่พอใจ ผมจึงเรียกเด็กนักเรียนคนนั้นออกมาหน้าแถว เพื่ออธิบายให้เข้าใจ” นายอนันต์ กล่าว

 

                      ผอ.โรงเรียนเทพศิรินทร์ กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ตอนนั้นนักเรียนไม่ได้บอกให้ผู้อำนวยการก้มลงกราบ แต่ตนเป็นคนขอโทษเอง แต่ด้วยอารมณ์ร้อนของเด็กวัยรุ่นเลยไม่ยอม ตจึงบอกเด็กว่า ถ้าเช่นนั้นครูคุกเข่าขอโทษก็ได้ และเด็กก็คุกเข่าตามลงมารับ แต่เด็กยังมีอารมณ์ไม่พอใจอยู่ เพราะครูพูดเกินเวลาไปจริงๆ เลยบอกว่าหรือจะให้กราบเลย เด็กนักเรียนบอกว่าไม่ต้อง เพราะฉะนั้นในภาพที่เห็นคือกำลังก้มประมาณครึ่งกราบ ไม่ได้จะลงไปกราบ ซึ่งเด็กก็ห้ามไว้

 

 

 

                      “ผมคิดว่าเด็กนักเรียนคงรู้สำนึกแล้วในขณะที่ผมกำลังจะก้มลงกราบ เด็กจึงบอกไม่ต้อง ผมเลยบอกให้เด็กไปได้ พอตอนบ่ายเด็กก็นำดอกไม้เข้ามาขอโทษผมที่ห้อง ผมเลยบอกไม่เป็นไร ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ครูทำให้คนดีขึ้นมาหนึ่งคนจะให้ครูทำอะไรก็ได้ไม่เป็นไร แต่ถ้าแข็งกับแข็งก็ทะเลาะกันตาย คนเป็นครูมีหน้าที่สอนให้เด็กมีความรู้คู่คุณธรรม ไม่ใช่แค่ให้มีความรู้อย่างเดียว เพราะโรงเรียนเราสอนไม่ให้เป็นคนรกโลก” ผอ.โรงเรียนเทพศิรินทร์ กล่าว

 

                      นายอนันต์ กล่าวต่อว่า เหตุผลที่เป็นฝ่ายขอโทษเด็กด้วยการยกมือไหว้ เพราะเห็นว่าถ้าเด็กแข็งเราต้องอ่อน ถ้าครูแข็งไปเด็กยิ่งแข็งกลับ ไม่เกิดประโยชน์อะไร ครูจะเอาชนะเด็กเพื่อเพียงศักดิ์ศรีไม่ได้ เพราะเราเป็นครู คนเป็นครูจะทำอะไรก็ได้เพื่อให้เด็กเป็นคนดี อาจใช้วิธีการพูด หรือแสดงออกด้วยการกระทำได้ทั้งหมด

 

                      “เด็กได้นำดอกไม้มาขอโทษผมตอนบ่าย แต่ผมบอกให้เด็กนำไปไหว้แม่รำเพย ผมไม่ได้ถือโทษอะไร ส่วนเรื่องรายละเอียดไว้ไปพูดในตอนประชุมอีกที เพราะคนอื่นจะได้รู้ว่าไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนเรื่องกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความไม่เหมาะสมของตัวเด็ก ผมก็ได้ชี้แจงเหล่าศิษย์เก่าไปบ้างแล้วว่า เราต้องเข้าใจในสิ่งที่ควรกระทำ เราทำผิดก็ต้องยอมรับและขอโทษ นักเรียนผิดเขาก็มาขอโทษแล้ว ทุกคนก็เคยทำผิดมาทั้งสิ้น แต่เมื่อเป็นการสั่งสอนอบรม ถ้ารู้ว่าผิดแล้วก็อย่าไปทำเพิ่มและควรคิดว่าจะทำไรต่อไป ผอ.เกินเวลาไป 5 นาที ก็ขอโทษเด็ก ซึ่งทำเป็นตัวอย่างให้นักเรียนดูแล้ว ส่วนเด็กทำผิดก็ขอโทษแล้วก็ถูกต้อง” ผอ.อนันต์ กล่าว

 

                      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักเรียนโรงเรียนเทพศิรินทร์คนดังกล่าวได้เข้าพบ ผอ.โรงเรียนเพื่อขอขมาแล้ว และวันจันทร์นี้ (25 ม.ค.) จะขอขมาหน้าแถวอีกครั้ง หลังยอมรับว่ากระทำการดังกล่าวไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ และไม่รู้จักกาลเทศะ

 

                      ด้าน ดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการ กพฐ.ให้ดำเนินการสืบหาข้อเท็จจริงกรณี ผอ.โรงเรียนเทพศิรินทร์กราบนักเรียนหน้าเสาธง ซึ่งสอบถามเบื้องต้นพบว่าเป็นความจริง โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 มกราคม ช่วงเวลาประมาณ 07.45 น. บริเวณหน้าเสาธง ซึ่งนายอนันต์ขอเวลาพูดคุยชี้แจงกับนักเรียน 20 นาที แต่พูดเกินไป 5 นาที จนมีนักเรียนยกมือขึ้นท้วงติงและก็เกิดเหตุการณ์ ผอ.โรงเรียนเทพศิรินทร์กราบนักเรียนเพื่อเป็นการขอโทษ และเจตนาที่จะทำให้นักเรียนเห็นแบบอย่างที่ดีและตระหนักว่า หากกระทำผิดต้องรู้จักขอโทษ ขณะที่นายการุณได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทราบแล้ว

 

                      “จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่สามารถพูดได้ว่าเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม เพราะเวลานี้ก็เกิดเหตุขึ้นแล้ว แต่ สพฐ.สั่งการให้โรงเรียนเทพศิรินทร์สร้างความเข้าใจและชี้แจงเรื่องดังกล่าวต่อนักเรียน ผู้ปกครอง และสื่อมวลชน เพราะเป็นเรื่องที่ทุกคนให้ความสนใจอยากรู้ข้อเท็จจริง ในส่วนของนายอนันต์ก็มีการตักเตือนถึงความเหมาะสมของการขอโทษด้วย โดยมอบหมายให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เขต 1 กรุงเทพฯ พิจารณาในเรื่องนี้และติดตามสถานการณ์ รายงานให้ทราบต่อไป” ดร.สุเทพ กล่าว

 

                      ขณะที่ รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า การกระทำของผู้อำนวยการโรงเรียนถือว่าไม่เหมาะสม และมีความจำเป็นแค่ไหนถึงต้องลงไปกราบเด็ก เพราะแค่กล่าวคำขอโทษก็น่าจะเพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำขนาดนั้น 

 

                      “ไม่แน่ใจว่าการกระทำของผู้อำนวยการโรงเรียนมีจุดประสงค์อะไร เพราะหากเด็กกระทำความผิดและต้องการสั่งสอนในลักษณะประชดประชันเพื่อให้เด็กสำนึกนั้น มองว่าไม่เกิดประโยชน์แต่อย่างใด” ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าว

 

                      ส่วนศิษย์เก่าโรงเรียนเทพศิรินทร์ รุ่น 101 คนหนึ่ง แสดงความเห็นว่า ไม่ได้มองว่า การที่นายอนันต์กราบเด็กเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม หรือเกินกว่าเหตุ เชื่อว่าสิ่งที่นายอนันต์ทำลงไปเจตนาเพื่อแสดงให้ลูกศิษย์ได้เห็นถึงการยอมรับผิด การขอโทษ เพราะทุกวันนี้เด็กสอนยาก พฤติกรรมเปลี่ยนไปมาก 

 

                      ศิษย์เก่าคนเดิม กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นเพราะความไม่พอใจ หรือเข้าใจผิดในเรื่องการบริหารงานหรือไม่นั้น เท่าที่ได้มีโอกาสติดตามและร่วมงานกิจกรรมของโรงเรียนในฐานะศิษย์เก่าก็ไม่พบว่ามีปัญหา และในฐานะลูกศิษย์คนหนึ่งที่นายอนันต์เคยสอน ยืนยันได้ว่า นายอนันต์เป็นที่เคารพรักของลูกศิษย์มาก เพราะเป็นครูที่ใจดี มีเหตุผล รักลูกศิษย์ และแม้ทุกวันนี้จะมาดำรงตำแหน่ง ผอ.โรงเรียน เมื่อได้พบกันเวลาร่วมงานโรงเรียน นายอนันต์ก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

 

                      “เรื่องนี้ต้องบอกว่าเป็นผลจากนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ห้ามไม่ให้มีการลงโทษเด็ก ห้ามตีเด็ก ครูจะทำโทษก็ทำไม่ได้ เพราะเมื่อเด็กถูกทำโทษพ่อแม่มักจะปกป้องจนไม่ดูความถูกต้อง เด็กจึงไม่มีความอดทน ไม่รู้จักกาลเทศะ เมื่อเราเป็นลูกศิษย์ก็ต้องเชื่อฟังคำสั่งสอนครู เมื่อครูยังพูดไม่จบก็ต้องอดทนและฟังให้จบ ไม่ใช่มาต่อว่า แล้วถามว่าวันหนึ่งถ้าโตไปทำงานซีอีโอประชุมจนเกินเวลาเด็กจะลุกมาไล่ซีอีโอหรือไม่ ความเป็นจริงทำได้เหรอ เพราะฉะนั้น การที่ครูคนหนึ่งจะสอนหรือบอกอะไรก็ขอให้ตั้งใจ แม้จะต้องยืนฟังแดดร้อนบ้าง ต้องหัดอดทน เพราะครูก็ไม่ได้ลงโทษ หรือทำอะไรที่เกินกว่าเหตุ” ศิษย์เก่า กล่าว

 

                      นายอนันต์ เกิดวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ.2500 ที่บ้านบ่อมะกรูด ต.บ้านฆ้อง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เป็นอาจารย์โรงเรียนเทพศิรินทร์ตั้งแต่ปี 2522 และขึ้นเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการปี 2539-2543 จากนั้นย้ายไปเป็นอาจารย์ใหญ่ ระดับ 7 โรงเรียนท่ามะขามวิทยา อ.โพธาราม จ.ราชบุรี และย้ายไปเป็นผู้อำนวยการอีกหลายโรงเรียน ก่อนย้ายกลับมาที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ อีกครั้งในตำแหน่งผู้อำนวยการเมื่อปี 2556

 

                      วันเดียวกัน ในสังคมออนไลน์ได้เผยแพร่ข้อความที่อ้างว่าเป็นบทสนทนาของนักเรียนคู่กรณีกับผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “จ่าพิชิต ขจัดพาลชน” โดยนักเรียนคนดังกล่าวได้เข้ามาปรึกษาและเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ผอ.เรียกนักเรียน ม.5 กับ ม.6 ลงไปเข้าแถวที่สนามฟุตซอล และขอเวลาพูด 20 นาที พอผ่านไป 25 นาที ผอ.ก็เปิดโอกาสให้นักเรียนถาม จึงยกมือแล้วบอกกับ ผอ.ว่าตอนนี้ 25 นาทีแล้วครับ ผอ.จึงเรียกตนไปหน้าแถว แล้วผอ.ก็คุกเข่าจะกราบตน ตอนนั้นตกใจมากจึงรีบลงไปประคอง ผอ.แล้วบอกว่าไม่ต้องกราบตน เพราะแค่จะแย้งเรื่องเวลา แต่ ผอ.ก็ดึงดันที่จะกราบแล้วให้ตนกลับเข้าแถวไป ซึ่งวันนั้นยอมรับว่าทำผิด เพราะยับยั้งสติไม่ทันและพูดออกไปอย่างไม่รู้กาลเทศะ ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้เข้าพบ ผอ.เพื่อขอขมาแล้ว และตกลงว่าวันจันทร์จะขอขมาหน้าแถวอีกครั้ง