ไลฟ์สไตล์

ชายไทยใหญ่ขึ้นใช้ถุงยางอนามัยไซส์52

ชายไทยใหญ่ขึ้นใช้ถุงยางอนามัยไซส์52

21 ม.ค. 2559

ชายไทยมีขนาดใหญ่ขึ้น จากเดิมใช้ถุงยางอนามัยขนาด 49 มม. เพิ่มเป็นไซส์ 52 ผิวขรุขระกลิ่นสตรอเบอร์รีขายดีที่สุด

 
                      นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงมาตรการเพิ่มการใช้ยางพาราของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ระหว่างการตรวจเยี่ยมโรงงานผลิตถุงยางอนามัย ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ว่า ในส่วนของ อย.มีการดูแลคุณภาพการผลิตของถุงมือยางทางการแพทย์ ถุงยางอนามัย ซึ่งเมื่อวันที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมา ได้เรียกผู้ประกอบการคือ ผู้ผลิตถุงยางอนามัย 9 ราย ถุงมือยาง 20 ราย มาหารือเพื่อวางแผนส่งต่อให้รัฐบาลว่าจะสามารถเพิ่มการผลิตเพื่อช่วยเกษตรกรได้อย่างไรบ้าง ในส่วนของถุงยางอนามัยพบว่า ร้อยละ 80 - 90 ผลิตโดยใช้น้ำยางพาราในประเทศไทย มีเพียงร้อยละ 10 เท่านั้นที่นำเข้า ซึ่งยางพาราถือเป็นวัตถุดิบที่นำมาผลิตทั้งถุงยางและถุงมือได้ดีที่สุด และถือว่ามีต้นทุนถูกกว่ายางสังเคราะห์ โดยในแต่ละปีมีกำลังการผลิตโดยรวม 6.5 หมื่นตัน แบ่งเป็นถุงยางอนามัย 9,000 ตัน ถุงมือยาง 5.6 หมื่นตัน
 
                      นายนาวิน จังเจริญกุล ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาดภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท แอนเซล จำกัด กล่าวว่า บริษัทมีกำลังการผลิตถุงยางอนามัย เฉลี่ย 2,880,000 ชิ้นต่อวัน โดยส่งออกคิดเป็นร้อยละ 99 ทั้งนี้ บริษัทมีปริมาณการใช้น้ำยางพาราสด 2,900 ตันต่อปี โดยบริษัทที่ประเทศอินเดียซื้อ 1,900 ตันต่อปี ใช้โรงงานในประเทศไทย 1,500 ตันต่อปี ล่าสุด บริษัทที่ประเทศศรีลังกามีการสั่งซื้อน้ำยางดิบของไทย 1,200 ตันต่อปี
 
                      "บริษัทผลิตถุงยางอนามัยสำหรับผู้ชาย ทั้งจากน้ำยางธรรมชาติและน้ำยางสังเคราะห์ มีความหลากหลายทั้งเรื่องผิวสัมผัส สี รูปร่าง กลิ่น ชนิดของสารหล่อลื่น และขนาด ซึ่งก่อนการผลิตถุงยางอนามัย บริษัทมีการทำการวิจัยและพัฒนา โดยพบว่า ผิวขรุขระกลิ่นสตรอเบอร์รีขายดีที่สุด รองลงมาคือกลิ่นวานิลลา และขนาดอวัยวะเพศชายไทยมีขนาดใหญ่ขึ้น จากเดิมที่เคยใช้ถุงยางอนามัยขนาด 49 มิลลิเมตร เพิ่มเป็น 52 มิลลิเมตร"