พ่อแม่ร่ำไห้รับศพลูกเหยื่อรับน้องโหด

 

                           1 ก.ย. 57  เมื่อเวลา 11.00 น.  ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ  บิดา-มารดา นายกัน (นามสมมติ) นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สถาบันอาชีวศึกษาแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี ที่เสียชีวิตในช่วงระหว่างรับน้องที่หาดทรายน้อย หมู่บ้านเขาเต่า ต.หนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้เดินทางมารับศพบุตรชาย ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศุลที่วัดชินวราราม ต.บางขะแยง อ.เมือง จ.ปทุมธานี เป็นเวลา 3 วัน

 

                           บิดานายกัน กล่าวว่า อยากจะขอให้กรณีนี้เป็นกรณีสุดท้าย และอยากให้มีการแก้ไข หรือทำอะไรที่ดีกว่านี้ เพื่อให้ผู้กระทำผิดเกิดความละอายใจ พร้อมเรียกร้องไปยังสถาบันการศึกษาต่างๆ ให้คิดวิธีรับน้องใหม่ที่เป็นประโยชน์ และสร้างสรรค์ เช่น เลี้ยงข้าวรุ่นน้อง ยังจะดีกว่า เพราะถึงขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิด เนื่องจากอยู่ในระหว่างรอการประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ  ซึ่งช่วงนี้ขอให้ทำพิธีศพบุตรชายให้เรียบร้อยก่อน 

 

                           ด้านมารดานายกัน กล่าวว่า ตนเองมีบุตรชายเพียงคนเดียว ยอมรับว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก แต่ลูกได้เสียชีวิตไปแล้ว หลังจากนี้จะต้องพยายามใช้ชีวิตต่อไปตามปกติให้ได้ สำหรับผลการผ่าชันสูตรศพเบื้องต้น แพทย์ ระบุว่า เสียชีวิตเนื่องจากระบบหายใจ และระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว ส่วนผลการตรวจอย่างละเอียดต้องรอผลอีกประมาณ 2 เดือน 

 

                           ขณะที่ พล.ต.ต.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ กล่าวว่า ทางนิติเวช ได้ตรวจร่องรอยภายนอกก่อนทำการผ่าพิสูจน์ พบว่า ตามร่างกายมีบาดแผล รอยถลอก ฟกซ้ำ ตามร่างกาย แต่ก็เป็นรอยฟกซ้ำเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก และรอยดังกล่าวไม่ถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้ ซึ่งขณะนี้ ทีมแพทย์ได้ผ่าเพื่อนำชิ้นเนื้อ และตรวจหาสารพิษ เพื่อตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ซึ่งต้องรอผลอีกสักระยะ ส่วนกรณีที่มีพยานเห็นว่า มีการกรอกแอลกอฮอล์ใส่ปากผู้ตาย ก่อนเสียชีวิตนั้น ตรงนี้สามารถตรวจสอบได้

 

                           พ.ต.อ.สุพิไชย ลิ่มศิวะวงศ์ นายแพทย์ (สบ 5) กลุ่มงานนิติพยาธิ นิติเวชฯ รพ.ตำรวจ แพทย์ผู้ผ่าพิสูจน์ กล่าวว่า การผ่าชันสูตรเบื้องต้น พบมีน้ำอยู่ในช่องอกจำนวนหนึ่ง และเคยมีประวัติการจมน้ำ สาเหตุการตายคาดว่า น่าจะเกิดจากการขาดอากาศหายใจ ทั้งนี้ ต้องตรวจพิสูจน์ชิ้นเนื้ออย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อสรุปหาสาเหตุการตายแท้จริง