คลอด คณะกก. 'โครงการดิจิทัลวอลเล็ต' นายกฯ ประธาน - รมช. คลัง ลุ้นขยายรัศมี 4 กม.

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง  เปิดเผยว่า  ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้  ( 3 ต.ค. ) มีการเห็นชอบ  การจัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อน โครงการดิจิทัลวอลเล็ต  ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ  เนื่องจาก โครงการนี้มีความสำคัญ ใช้งบประมาณจำนวนมากจึงต้องละเอียดรอบคอบ  กระทรวงการคลังจึงเสนอให้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา โดยมีองค์ประกอบย่อยที่มาจากคณะรัฐมนตรีชุดใหญ่  มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการ รองประธานประกอบด้วย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ,    รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ  ,  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ,   รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม   และ  นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

 

 

 

 

พร้อมด้วยปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ตัวแทนสำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา อัยการสูงสุด ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมอยู่ในคณะกรรมการชุด    คณะกรรมการชุดนี้จะควบคุม  โครงการดิจิทัลวอลเล็ต ตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ เป็นคณะกรรมการที่จะพิจารณาแนวนโยบาย กรอบวงเงินนโยบาย แหล่งที่มาของงบประมาณ กลไกการดำเนินการต่างๆ รวมถึงเมื่อโครงการได้เริ่มดำเนินการแล้ว คณะกรรมการก็จะทำหน้าที่ในการติดตามตรวจสอบ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตต่าง ๆ

 

 

 

 

 

เมื่อโครงการสิ้นสุดก็จะทำหน้าที่สรุปผลว่า เป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่เพื่อรายงานต่อคณะรัฐมนตรีให้รับทราบต่อไป  คาดว่าคณะกรรมการชุดนี้จะเริ่มประชุมนัดแรกได้ภายในสัปดาห์นี้   ซึ่งในการประชุมครั้งแรก จะเป็นการมอบนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท รวมถึงการตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบาย เพื่อไปรวบรวมประเด็นต่างๆ เสนอต่อชุดใหญ่ ซึ่งคาดว่าตนจะเป็นประธานอนุกรรมการชุดนี้ ร่วมกับ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล  เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แต่ก็จะต้องรอให้มีการตั้งคณะอนุกรรมการอย่างเป็นทางการคาดว่าจะใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ จะสามารถส่งข้อมูลกลับมายังคณะกรรมการชุดใหญ่ในทุกมิติ 

 

 

 

ส่วนเรื่องเงื่อนไขการใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ในระยะ 4 กิโลเมตรนั้น ก็เป็นหนึ่งในประเด็นที่คณะอนุกรรมการ จะต้องไปรวบรวมความคิดเห็น แต่ยอมรับว่าจากเสียงสะท้อนจากประชาชน ก็มีแนวโน้มที่จะขยายกรอบพื้นที่ เพราะในระยะ 4 กิโลเมตร   ตนในฐานะสส. ต่างจังหวัด บางหมู่บ้านก็แทบจะหาอะไรไม่ได้เลย ดังนั้นการขยายกรอบพื้นที่จึงมีความเป็นไปได้สูง แต่สุดท้ายจะเป็นเช่นไรคงต้องรอ คณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการเป็นผู้พิจารณา   

 

 

 

 

 

"กรณีที่เป็นห่วงว่าเงินดิจิทัล  10,000 บาท ที่รัฐบาลมอบให้ประชาชน สุดท้ายแล้วจะไปอยู่กับผู้ประกอบการรายใหญ่  แท้จริงแล้วไม่ว่าประชาชนจะนำเงินไปใช้กับผู้ประกอบการรายย่อยหรือรายใหญ่  ก็ไม่มีความแตกต่าง  และ ไม่ว่าจะเป็นรายเล็กรายใหญ่จะอยู่ในระบบหักภาษีหรือไม่ ทุกคนก็สามารถขึ้นเงินได้ แต่หากไม่ได้อยู่ในระบบหักภาษีก็จะเป็นในลักษณะได้รับเงินมาและนำไปใช้ต่อ ซึ่งทุกอย่างจะเป็นไปตามธรรมชาติตามความต้องการการใช้จริง แต่ก็จะต้องมีกลไกเพื่อสร้างแรงจูงใจ ในการใช้จ่ายเงินให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในชุมชน รัฐบาลกำหนดไว้เพียง 2 อย่างคือ เรื่องกรอบเวลาในการใช้เงิน ในระยะ 6 เดือน และพื้นที่ในการใช้เงินดิจิตอล 4 กิโลเมตร  แต่เชื่อว่าจะมีเงื่อนไขอื่นมาเพิ่มเติมอีกแน่นอน คาดว่าทุกอย่างจะเสร็จสิ้นภายในปลายเดือนตุลาคม  เพื่อให้สามารถเริ่มต้นนโยบายภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 นี้  แต่เป็นไปได้ที่จะขยับออกไปอีก 1 เดือน เพราะไม่อยากให้มีการเริ่มโครงการทั้งที่มีเป็นปัญหาค้างคา "   รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุ