‘แพทองธาร’ เล็งต่อยอด คนรุ่นใหม่ อนุรักษ์งานผ้าโบราณ นำร่อง ‘สินค้าโอทอป’

ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ พร้อมด้วยรัฐมนตรี และสส.หญิงของพรรคเพื่อไทย อาทิ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ดร.พวงเพ็ชร ชุนละเอียด,รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายเกรียง กัลป์ตินันท์ , รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นางมนพร เจริญศรี ร่วมชมงาน OTOP Midyear 2023

โดย น.ส.แพทองธาร สวมใส่เสื้อลายผ้าขาวม้าและกระเป๋าผ้าทอมือมาร่วมงาน พร้อมบอกว่าได้ผ้าขาวม้า ในช่วงหาเสียงที่ชาวบ้านใช้ ผูกเอว ต้อนรับ ซึ่งลายเหมือนกัน 3-4 ผืนจึงนำมาตัดเป็นชุดสูทใส่มาในวันนี้ และมีความภาคภูมิใจเพราะผ้าไทยใส่แล้วมีเสน่ห์รวมถึงได้มีการออกแบบด้วยตัวเอง และได้ตัดตั้งแต่ตอนที่ตั้งครรภ์จึงหลวมเล็กน้อย

 

 

น.ส.แพทองธาร ได้ชมและเลือกซื้อสินค้า หลายร้าน เช่น ซื้อเสื้อผ้าไหมย้อมคราม จากเปลือกไม้ ให้สามี โดยกะขนาด และประเมินว่าตัวน่าจะใกล้เคียงกับนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ยังซื้อ ผ้าบาติกจาก จังหวัดปัตตานี

 

 

นอกจากนี้ เธอ ยังได้ซื้อชาชักดื่มและซื้อขนมไทย กลับไปฝากลูกที่บ้าน พร้อมยัง ได้ทดลอง ทอผ้าซิ้นหมี่ตาปทุมมาศ จากจังหวัดอุทัยธานี รวมทั้งแลกเปลี่ยนรับฟังปัญหากับผู้ประกอบการและต่อยอด ส่งเสริม Soft Power ที่กำลังผลักดัน 

 

ขณะที่บรรยากาศมีประชาชนมาขอถ่ายรูป เป็นที่ระลึกและยังมีแฟนคลับนำภาพถ่ายของน.ส.แพทองธารกับบุตรสาว มาขอลายเซ็น ซึ่งน.ส.แพรทองธารได้เซ็นและเขียนข้อความ ให้แฟนคลับชื่อหญิงให้ร่วมกันผลักดัน Soft Power ไปด้วยกัน

 

 

น.ส.แพทองธาร เปิดเผยภายหลังจากได้เดินเยี่ยมชมงานฯ ว่า ได้เห็นสินค้าซอฟต์พาวเวอร์ที่จะผลักดันต่อมากมาย บางร้านหากสนับสนุนอย่างดี การผลักดันให้ไปต่างประเทศก็ไม่ใช่เรื่องยาก ซึ่งตนเองพร้อมที่จะผลักดัน รวมถึงพร้อมสนับสนุนร้านอื่นที่แม้ยังไม่มีชื่อเสียง โดยจะนำข้อมูลที่ได้วันนี้ไปนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ในวันที่ 3 ตุลาคมนี้ ซึ่งเบื้องต้นได้ประชุมกับทีมงานไปบ้างแล้ว รวมถึงจะเรียงลำดับความสำคัญว่าสามารถทำอะไรได้ก่อนหลัง

 

 

"หากอะไรที่ทำได้เร็วก็จะทำทันที ซึ่งสิ่งที่ทำได้เร็วที่สุด คือ การผลักดันสินค้า OTOP(สินค้าโอทอป) รวมถึงจะพัฒนาเรื่องของทักษะฝีมือควบคู่กันไปด้วย"

 

 

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการยังไม่ได้สะท้อนปัญหาเข้ามาว่าอยากจะให้รัฐบาลสนับสนุนด้านอะไรบ้าง แต่เท่าที่มอง เรื่องทักษะฝีมือการทอการทำผ้าไทยเริ่มหายไป เด็กรุ่นใหม่ทำอาชีพใหม่ๆ บางทีค่านิยมเปลี่ยนไปทำให้เขาสนใจเรื่องการทอผ้าน้อยลง ผ้าลายสวยๆดีๆกลายเป็นหายากขึ้น

 

"มองว่า เป็นปัญหาที่ต่อเนื่องมา ถ้าสามารถพัฒนาทักษะตรงนี้ จะทำให้ราคาผ้าไทยเข้าถึงได้ง่าย ไม่แพงจนเกินไป รวมถึงอยากจะนำนวัตกรรมเข้ามาช่วย แต่ยังต้องปรึกษาทีมงานว่า จะสามารถนำนวัตกรรมอะไรมาส่งเสริมในส่วนตรงนี้ได้" น.ส.แพทองธาร กล่าวสรุป