วงถกผู้เลี้ยงหมู รมช.เกษตร ลั่น ปราบนำเข้า 'หมูเถื่อน' - โบรกเกอร์ เอาเปรียบ

ที่ห้องประชุม 123 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  ถนนราชดำเนินกลาง แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร กรุงเทพฯ  ดร.ไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดการสัมมนาผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยทั่วไทย ในหัวข้อ  "ทำอย่างไรให้รายย่อยยั่งยืน"  โดยมี ตัวแทนชมรมผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยไทย  , น.สพ.ยุคล ลิ้มแหลมทอง นักวิชาการอิสระ  , น.สพ.สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์   ,พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล  อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ  , นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ผู้แทนอธิบดีกรมการค้าภายใน  เข้าร่วม 

 

 

 

การเสวนาเป็นรูปแบบออนไลน์   โดยมีกลุ่มผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยทั่วประเทศ ที่ร่วมรับฟังแลกเปลี่ยนความเห็น  และผลักดันข้อเสนอ ให้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แก้ไขปัญหาการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนอย่างจริงจัง  การหาแนวทางป้องกันในเรื่องของราคาหมู และราคาต้นทุนการเลี้ยงหมู  ปัญหาการถูกเอารัดเอาเปรียบเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร  โดยมีเงื่อนไขอยู่ที่    "โบรกเกอร์หน้าฟาร์ม"    ที่สนับสนุนให้เกษตรกรเลี้ยงหมู และเป็นผู้ซื้อขายหมูกับเกษตรกรรายย่อย แต่มีพฤติกรรมเอารัดเอาเปรียบ

 

 

 

 

 

.

ประกาศทำหน้าที่เจ้าภาพแก้ทุกปัญหา

.

 

ดร.ไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรรายย่อย แบ่งออกได้เป็นหลายกรณี ขณะนี้เฉพาะหน้า เป็นปัญหาการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน  กับปัญหามีผู้ส่งเสริมให้เกษตรกรรายย่อยเลี้ยงสุกร  (โบรกเกอร์ ) มีพฤติกรรมกดราคาจนทำให้ผู้เลี้ยงสุกรประสบปัญหาขาดทุน  และ ปัญหาในเรื่องของต้นทุนการเลี้ยง 

 

 

 

ข้อมูลปี 2565 จาก กรมปศุสัตว์   ประเทศไทยมีเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูทั้งประเทศ  149,000 ราย จำนวนประชากรหมู  10 ล้านตัว เป็นหมูขุนกว่า 9 ล้านตัว เป็นกลุ่มผู้เลี้ยงรายย่อย 136,000 ราย คิดเป็นร้อยละ  97 ซึ่งผลกระทบปัญหาการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน  , ปัญหาโบรกเกอร์เอาเปรียบ และ ปัญหาต้นทุน   เป็นสิ่งที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์   พร้อมเข้ามาเป็นเจ้าภาพแก้ปัญหา

 

 

 

"จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแก้ไขปัญหาเรื่องนี้โดยมีผู้แทนเกษตรกรรายย่อยเข้ามาร่วมวางแผนแก้ปัญหากันอย่างจริงจัง ในการปราบปราม ที่ต้องมี กรมสอบสวนคดีพิเศษ นายอัจฉริยะ กรมปศุสัตว์ รวมถึง กระทรวงพาณิชย์ กรมศุลกากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ   เพราะต้องประสานความร่วมมือกันทุกฝ่าย   เรื่องของราคาผลผลิต ต้องมีการกำหนดราคาหน้าฟาร์มที่ชัดเจน ที่ผู้เลี้ยงและผู้ซื้อจะต้องเข้าใจถูกต้องตรงกัน ซึ่งก็ต้องดูช่องทางของกฏหมายให้ชัดแจ้งต่อไป"  ดร.ไชยา  ระบุ

 

 

.

ดร.ไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

.

 

.

ดีเอสไอ ปูดข้อมูล มีบริษัทร่วมเอี่ยวนำเข้า 

.  

 

พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นำเสนอว่า การแก้ไขปัญหาหมูเถื่อนนั้น ก่อนรับเรื่องเป็นคดีพิเศษ ได้รับทราบปัญหาและหารือกับ   นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมเกี่ยวกับปัญหาสุกร ยอมรับว่าเรื่องนี้มีผลกระทบสูงและมีเบื้องหลัง การรับเป็นคดีพิเศษ ถือว่า  "ดีเอสไอ"  ทำได้เร็วที่สุด เร่งรัดจนสามารถ ยึด อายัด หมูเถื่อนในท่าเรือได้ 161 ตู้ แนวทางการสืบสวน "ดีเอสไอ" รู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเป็นใคร และไม่ใช่เฉพาะคนในท่าเรือแหลมฉบัง   แต่ยังมีกลุ่มคนที่กำลังทำการขยายผล มีการแจ้งข่าวในเชิงลึกทำให้ทราบว่า มีผู้อยู่เบื้องหลังกระทำความผิดเป็นบริษัทใหญ่  4-5 บริษัท ยืนยันว่าการทำงานจะทำอย่างเต็มที่ และก็ยังคงต้องการข้อมูลในทางลับเพื่อดำเนินการปราบปรามในเรื่องนี้

 

 

 

 

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำเสนอว่า ตนต้องการเรียกร้องให้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ ได้ใช้กฏหมายจับกุม "โบรกเกอร์" เนื่องจากพฤติกรรมที่เอารัดเอาเปรียบผู้เลี้ยงสุกรรายย่อย จะได้รับผลกระทบโดยตรง และนอกจากนี้ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งในความร่วมมือกับกับ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และ กรมปศุสัตว์ ซึ่งที่ผ่านมาได้ทำการจับกุมหมูเถื่อน ที่ท่าเรือแหลมฉบังไปแล้ว 161 ตู้ แต่ยังพบว่ายังมีท่าเรืออื่นที่ยังมีหมูเถื่อนทะลักเข้ามาอีกกว่า หนึ่งพันตู้ ซึ่งเรื่องนี้การแก้ไขปัญหาขึ้นอยู่กับ อธิบดีกรมศุลกากร  

 

 

.

จับตา "ชิปปิ้ง" รู้เห็นแจ้งสำแดงเป็นเท็จ  

.

 

"ปัญหาหมูเถื่อนยังเกิดจากการสำแดงรายการอันเป็นเท็จ ร่วมกันหลายฝ่าย ด้วยวิธีการคีย์ข้อมูล เช่น มีการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน จากประเทศบราซิล ต้นทางรู้ว่าเป็นเนื้อหมูแต่เมื่อมาถึง ประเทศไทย  "ชิบปิ้ง" คนคีย์ข้อมูลจะทำการเปลี่ยนประเภทของสินค้า เช่นจากเนื้อหมู ก็จะเป็นปลา   สร้างความเสียหายให้กับประเทศและเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู มีการขายหมูตัดราคา ที่ทำให้ประเทศเสียหายจากปัญหาการลักลอบนำเข้าปีละกว่า 7 หมื่นล้านบาท การแก้ไขปัญหา จึงต้องพุ่งเป้าไปที่ด่านศุลกากร โดยเฉพาะอธิบดีกรมศุลกากร จะต้องให้ความร่วมมือ  " นายอัจฉริยะ กล่าว

 

 

.

การสัมมนาผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยทั่วไทย ในหัวข้อ  "ทำอย่างไรให้รายย่อยยั่งยืน"   จัดขึ้นที่ห้องประชุม 123 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์    โดยมี   ดร.ไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน

.

 

 

น.สพ.สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า การปราบปรามหมูเถื่อนจำเป็นที่ทุกฝ่ายจะต้องช่วยกัน เพราะการลักลอบนำเข้า ทำให้ผู้เลี้ยงหมูในประเทศค่อย ๆหมดไป เพราะการนำเข้านั้นไม่ต้องเลี้ยงขาย   และสามารถขายได้ราคาถูกกว่า ซึ่งที่ผ่านมา กรมปศุสัตว์ ร่วมกับ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ทำการปราบปรามจนพบว่า เนื้อหมูเถื่อนนั้น ลักลอบมาในรูปแบบ กองทัพมด ที่มาจากประเทศรัสเซีย และทางเรือ มาจากประเทศบราซิล  ในเรื่องราคากรมปศุสัตว์ พยายามรักษาเสถียรภาพราคา ต้องการให้ราคานิ่ง อยู่ได้ทุกคน ผู้บริโภคไม่เดือดร้อน ดังนั้นในกรณี ผู้จับ ผู้ขาย ที่เรียกว่าขึ้นทะเบียนโบรกเกอร์ จำเป็นที่ต้องขอข้อมูลจากผู้เลี้ยงว่าได้ซื้อขายหมูให้ใครบ้าง จึงจะสามารถทำการติดตามขึ้นทะเบียนได้ เพราะจะต้องพิจารณาไปถึงปริมาณการผลิต ที่ต้องสมดุล โครงสร้างราคาที่เป็นธรรม ตั้งแต่หมูหน้าฟาร์ม ที่ต้องหารือร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อขับเคลื่อนการทำงาน