ข่าว

ธุรกิจคว่ำบาตรไลน์เจอโขกเงินเพิ่ม10เท่า-เลิกใช้หนีซบเฟซบุ๊ก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ที่มา : หน้าหนึ่ง! หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,490 วันที่ 25 - 27 กรกฎาคม 2562

 


          ธุรกิจระสํ่า ไลน์โขกค่าบริการเพิ่ม 10 เท่า แห่ยกเลิกบริการหนีซบเฟซบุ๊ก ค้าออนไลน์ เอสเอ็มอีกระทบแน่ แบงก์ปรับกลยุทธ์ส่งข้อความตรงถึงลูกค้า ปตท.ขู่ทบทวนทีโออาร์ปีหน้า

 

 

          ภาคธุรกิจระสํ่าหลังไลน์รวบรวม LINE@ และ LINE Official Account เข้าด้วยกัน และแจ้งคิดอัตราค่าบริการใหม่ พร้อมจำกัดการส่งข้อความ สร้างความปั่นป่วนทั้งวงการตลาดดิจิทัล ทั้งนักการตลาด แบรนด์ ผู้ประกอบการอี-คอมเมิร์ซ ที่มีต้นทุนการส่งข้อความการใช้บริการ LINE Official Account สูงขึ้นกว่าเดิมประมาณ 10 เท่า ทำให้หลายรายเลิกใช้บริการ เพราะมีต้นทุนสูงขึ้น บางรายใช้บริการลดลง แต่ใช้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยส่งข้อความน้อยลง แต่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง


ต้นทุนเพิ่ม10เท่า    
          เดิมราคาแพ็กเกจรายเดือนของ LINE@ จะอยู่ช่วง 0- 6,888 บาทต่อเดือน ซึ่งจะจำกัดหรือคิดราคาเฉพาะจำนวน Reach หรือยอดคนที่ได้รับข้อความ ส่วนจำนวนข้อความนั้นส่งได้ไม่จำกัด แต่สำหรับ LINE Official Account แม้ราคาแพ็กเกจอาจจะถูกกว่า คือ 0-1,500 บาท แต่จะจำกัดจำนวนข้อความสูงสุดเพียง 10,000 ข้อความ ส่วนข้อความที่เกินมาจะคิดตามจำนวนข้อความ x Reach ที่ส่งไปจริง ซึ่งคำนวณออกมาค่าใช้จ่ายสูงกว่าเดิม 10 เท่า

 

รายย่อยหนีใช้เฟซบุ๊ก
          “การเปลี่ยนแปลงของไลน์ครั้งนี้ ปลุกให้แบรนด์ หรือ ผู้ประกอบการตื่น และรู้ว่าไม่ควรพึ่งพาแพลตฟอร์มใด แพลตฟอร์มหนึ่ง เพราะวันหนึ่งแพลตฟอร์มเติบโตขึ้น มีผู้ใช้จำนวนมากๆ เจ้าของแพลตฟอร์ม สามารถเปลี่ยนแปลงนโยบายได้ตลอดเวลา วิธีการดีสุด จำเป็นต้องสร้างช่องทางสื่อสารไปยังลูกค้า หรือกลุ่มเป้าหมายของตัวเองขึ้นมา ทั้งหน้าเว็บไซต์ หรือ อี-เมล์”

 



          ด้านนายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กรรมการบริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท ตลาด ดอท คอม กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่าเท่าที่คุยกับร้านค้า ผู้ประกอบการรายย่อย ที่เคยใช้บริการ LINE@ หลายราย เลิกใช้บริการไปแล้วหลังจากที่ไลน์ควบรวมกับ “LINE Official Account” เพราะการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนการสื่อสารถึงลูกค้า หรือกลุ่มเป้าหมายเพิ่มขึ้น และหันไปใช้เฟซบุ๊กเมสเซ็นเจอร์ หรือ อี-เมล์ สื่อสารถึงลูกค้าแทน บางรายใช้ลดลง และใช้แบบมีประสิทธิภาพมากขึ้น


ปตท.ขู่ทบทวนทีโออาร์
    ขณะที่แหล่งข่าวจากบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ใช้บริการ LINE Official Account รายใหญ่และมีคนติดตามมากที่สุด ระบุ แม้ว่าปตท.จะไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางธุรกิจของไลน์เพราะกลุ่ม ปตท. ใช้แพ็กเกจ LINE Official Account เป็นรายได้ มีการกำหนดเงื่อนไขค่าบริการไว้ในทีโออาร์ชัดเจนตั้งแต่ต้นปี แต่หากเงื่อนไขค่าบริการในปีหน้ามีการเปลี่ยนแปลงปตท.ก็อาจต้องพิจารณาทีโออาร์ใหม่


          ด้านผู้ประกอบการในธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่แห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า ไลน์ถือเป็นสื่อออนไลน์หนึ่งที่ผู้ประกอบการใช้ในการสื่อสารข้อมูล ข่าวสารต่างๆ ไปยังลูกค้า เช่นเดียวกับสื่อออนไลน์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook , Twitter ฯลฯ รวมถึงสื่อออฟไลน์ ซึ่งบริษัทได้จัดสรรงบประมาณในการใช้จ่ายสำหรับสื่อต่างๆ อยู่แล้ว โดยมีบริษัทเอเยนซีเป็นผู้บริหารจัดการให้ตามที่ฝ่ายการตลาดวางแผนไว้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งว่าจะมีการปรับเปลี่ยนอัตราค่าบริการใหม่แต่อย่างใด และคงต้องรอดูก่อนว่า ราคาใหม่จะเท่าไร พร้อมกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น


แบงก์กัดฟันรับต้นทุนเพิ่ม
          ธนาคารพาณิชย์ก็เป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่จะได้รับผลกระทบจากการปรับโครงสร้างราคาใหม่ของไลน์เช่นเดียวกับธุรกิจอื่น โดยนายธีรชาติ จิรจรัสพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ Enterprise Digital ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ยอมรับว่า โครงสร้างราคาใหม่จะทำให้ต้นทุนการสื่อสารของธุรกิจหรือองค์กรเพิ่มขึ้น และถ้ายิ่งเป็นกลุ่มที่มีผู้ติดตามจำนวนมากก็ยิ่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น ถ้าหากไม่มีการปรับกลยุทธ์ในการส่งข้อความไปยังผู้ใช้ แต่คาดว่า Line อาจจะมีการพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างราคาใหม่อีกครั้ง ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและทำให้ผู้ใช้บริการสนับสนุน Platform ของ Line ต่อไปได้


          อย่างไรก็ตาม ช่องทาง Line ยังเป็นช่องทางที่ธนาคารจะใช้ในการสื่อสารกับลูกค้าต่อไป จึงมีแผนดำเนินการที่จะพัฒนาระบบ Line ให้รองรับการทำการตลาดส่วนบุคคลให้ธนาคารสื่อสารได้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการทำ Chatbot เพิ่มความสามารถในงานบริการได้มากขึ้น ซึ่งนอกจากช่วยตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าก็ยังช่วยในการบริหารจัดการค่าใช้จ่าย Line Official รองรับโครงสร้างราคาค่าบริการตัวใหม่


          มีรายงานว่าบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด จะยกเลิกใช้ LINE Official Account “SCBS” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 7.5 หมื่นราย


ค้าออนไลน์กระทบแน่            
          นางสาวโชนรังสี เฉลิมชัยกิจ ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอี ไทย กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวของไลน์ย่อมมีผลทำให้ต้นทุนในการดำเนินการเพิ่มมากขึ้น และเป็นอุปสรรคในการส่งข้อความหาลูกค้า ทำให้ต้องมีการคิดพิจารณามากขึ้นว่าจะทำอย่างไรถึงจะไม่ให้ค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนเงินที่สูง หรืออาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนวิธีการ อย่างไรก็ดี คงจะต้องรอดูแพ็กเกจที่ชัดเจนอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งว่าจะมีการเรียกเก็บค่าบริการอย่างไร


          “การให้บริการของไลน์จะแตกต่างจากของเฟซบุ๊ก ซึ่งจะสามารถระบุได้อย่างชัดเจนเลยว่าจะส่งไปยังกลุ่มใดอายุเท่าไหร่ เพศไหน พื้นที่บริเวณใด โดยไลน์อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์ความต้องการได้เท่านี้ ซึ่งสิ่งที่อยากเสนอแนะก็คือการเรียกเก็บค่าบริการอาจจะทำในรูปแบบให้ถี่ขึ้นตามการใช้งาน น่าจะดีกว่าการเรียกเก็บแบบเหมาจ่ายซึ่งน่าจะช่วยให้การทำตลาดง่ายกว่า”


          สอดคล้องกับที่นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช เลขาธิการสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดเผยว่า เมื่อมีค่าใช้จ่ายก็ต้องได้รับผลกระทบระดับหนึ่ง แต่โดยรวมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีน่าจะปรับตัวได้ เพราะนอกจากช่องทางสื่อสารทางไลน์แล้วก็ยังมีช่องทางอื่น หันไปใช้แพลตฟอร์มอื่นได้ เช่น เฟซบุ๊ก เมสเซ็นเจอร์ หรือแม้แต่การหันไปพัฒนา WhatsApp


          อย่างไรก็ตามปัจจุบันผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจะมี 3 กลุ่มที่ใช้ช่องทางสื่อสารต่างๆทาง LINE@ โดยกลุ่มแรกคือกลุ่มพ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์ ที่ส่งข่าวสารทางไลน์และใช้ไลน์ติดต่อลูกค้า กลุ่มนี้จะพึ่งพาช่องทางไลน์มากสุดสัดส่วนกว่า 50% ที่เหลือจะเป็นกลุ่มบริษัท ห้าง ร้าน ที่ใช้ช่องทางนี้สำหรับสื่อสารภายในองค์กรกับภายนอกองค์กร และกลุ่มบุคคลทั่วไป เช่น กลุ่มที่ไม่ได้แสวงหากำไร ในรูปของสมาคม สมาพันธ์หรือชมรม และกลุ่มบริษัทนิติบุคคล เป็นต้น 
 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ