รัฐผนึกเอกชนจัดใหญ่โชว์สุดยอดนวัตกรรม"พลังงานทดแทน"

 

               เปิดอย่างยิ่งใหญ่สำหรับงาน ASEAN Sustainable Energy Week (ASE) 2019 ชูไฮไลท์ SMART ENERGY SOLUTIONS เป็นการจัดแสดงนวัตกรรมด้านพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกครบวงจรที่ใหญ่และครบครันที่สุดในภูมิภาคเอเชียรับวันสิ่งแวดล้อมโลก ในระหว่างวันที่ 5-8 มิถุนายน ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา  พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ในกิจกรรม EV Drive & Ride ถือเป็นงานแรกและงานเดียวในประเทศไทยที่รวบรวมรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ 100% จากค่ายรถต่างๆ ในประเทศไทยจำนวนมากที่สุด     

     

 

 

               ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดงาน ASEAN Sustainable Energy Week (ASE) 2019 เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ณ ห้องแกรนด์ฮอลล์ 203 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา โดยระบุว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างภาคีเครือข่ายภาครัฐ-เอกชน อาทิ กระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย บัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (JGSEE) สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) และภาคเอกชนเป็นจำนวนมาก  

                 “งานที่จัดขึ้นครั้งนี้ จะแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าที่จะนำพาประเทศไทยก้าวขึ้นสู่สังคมคาร์บอนต่ำ  ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจ นอกจากนี้ประเทศไทยยังตั้งวิสัยทัศน์เชิงนโยบาย ที่เปลี่ยนเศรษฐกิจแบบเดิมไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมภายใต้นโยบาย ไทยแลนด์ 4.0 โมเดลพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาล ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี”

                รมว.พลังงาน เผยต่อว่า โมเดลพัฒนาเศรษฐกิจดังกล่าว จะช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง หลุดพ้นจากกับดักการเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางและก้าวเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างแท้จริง ขณะเดียวกันประเทศไทยยังจะเป็นผู้นำโลกในด้านการผลิตแบตเตอร์รี่และยานยนต์ไฟฟ้า ยังช่วยเสริมสร้างโอกาสทางด้านธุรกิจสำหรับบริษัทที่เกี่ยวข้องทางด้านพลังงานและไม่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมพลังงานจากหลายประเทศทั่วโลกได้มาอยู่ร่วมกัน ณ ที่แห่งนี้ 

             “งานนี้มีส่วนช่วยส่งเสริมให้เกิดการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานได้อย่างมาก เช่น พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีของแผงโซลาร์เซลล์และระบบการเก็บพลังงานมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและราคาถูกลง สอดคล้องกับแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (พีดีพี) 2018 ในระยะ 20 ปีข้างหน้าที่กำหนดให้มีการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์เพิ่มขึ้น 20-30% หรือประมาณ 15,000-20,000 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันสามารถผลิตได้ประมาณ 3,500 เมกะวัตต์”

                 รมว.พลังงาน ย้ำด้วยว่า งาน ASEAN Sustainable Energy Week 2019 หรือ ASE มีความสำคัญและเป็นงานสัมมนาระดับนานาชาติที่มีความพิเศษมาก เป็นการประชุมและจัดแสดงเกี่ยวกับนวัตกรรมด้านพลังงานทดแทน การเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงานไฟฟ้าและสิ่งแวดล้อม โดยยานยนต์ไฟฟ้า เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่จะมีการนำมาจัดแสดงเพื่อให้เห็นถึงความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมพลังงานไทยในภูมิภาคและในปีนี้ยังจะมีการจัดแสดงเกี่ยวกับความก้าวหน้าทางด้านแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไทยเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน ควบคู่ไปด้วยกันกับการพลังงานและการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย การจัดงานครั้งนี้ถือว่าเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางด้านพลังงานและเป็นแหล่งลงทุนด้านพลังงานในระดับภูมิภาค

       

           มนู เลียวไพโรจน์ ประธานบริหาร บริษัทยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) ประธานจัดงาน กล่าวเสริมว่าสำหรับงาน ASEAN Sustainable Energy Week (ASE) 2019 ในปีนี้มีการจัดงานคู่ขนานร่วมกับอีก 3 งานใหญ่ ได้แก่ งานไทย วอเตอร์ เอ็กซ์โป 2019 (Thai Water Expo 2019) เป็นการแสดงเทคโนโลยีด้านการบริหารจัดการน้ำดีและน้ำเสียระดับภูมิภาค โดยได้รับความร่วมมืออย่างดีจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องและมีบทบาทสำคัญด้านการบริหารจัดการน้ำในประเทศไทย ภายในงานจัดแสดงอุปกรณ์และเทคโนโลยีล่าสุดเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำจากกว่า 1,000 แบรนด์ชั้นนำ จาก 35 ประเทศทั่วโลก 

             งาน ปั๊มแอนด์วาล์ว เอเชีย 2019 (Pump & Valves Asia 2019) เป็นงานแสดงเทคโนโลยีเฉพาะทางงานเดียวในประเทศไทย ที่เน้นเทคโนโลยีและนวัตกรรมล่าสุดเกี่ยวกับปั๊มอุตสาหกรรม วาล์ว ซีล ปั๊มน้ำ พร้อมอุปกรณ์การวัดของเหลวที่หลากหลาย ฯลฯ และงาน Electric Vehicle Asia 2019 โดยสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย งานแสดงเทคโนโลยียานยนต์พลังงานไฟฟ้าและอุปกรณ์ ระบบจัดการแบตเตอรี่ อุปกรณ์ตรวจตราและควบคุมสถานีชาร์จประจุไฟฟ้า 

              โดยมีไฮไลท์เด่น คือ การร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่ในกิจกรรม EV Drive & Ride ถือว่าเป็นงานแรกและงานเดียวในประเทศไทยที่รวบรวมรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ 100% จำนวนมากที่สุด จากค่ายรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของประเทศไทย ที่นำรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นยอดนิยมที่เปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทย อาทิ รถ BMW i3s, BYD e6, FOMM One, NISSAN LEAF, HYUNDAI KONA Electric และ HYUNDAI IONIQ electric มาร่วมให้บุคคลทั่วไปร่วมทดสอบการขับขี่จริง

               ประธานจัดงานกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า งาน ASEAN Sustainable Energy Week (ASE) 2019 เป็นงานที่ตอบโจทย์พลังงานยุคใหม่ได้ครบถ้วนทุกด้าน ทั้งด้านพลังงานทดแทน การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และงานแสดงนิทรรศการนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดและครบวงจรที่สุดในอาเซียนด้านเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม ในฐานะเจ้าภาพไทยพร้อมเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมด้านพลังงานและพลังงานทางเลือกครบวงจรที่ใหญ่ ครบครันที่สุดในภูมิภาค  นอกจากนี้ภายในงานยังจัดให้มีงานประชุมสัมมนาด้านสิ่งแวดล้อมครบทุกเรื่องกว่า 85 เรื่อง ตลอดระยะเวลาการจัดงาน ร่วมเปิดโลกทัศน์ เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และเตรียมตัวให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของวงการพลังงานในอนาคตด้วยความล้ำสมัย วันที่ 5-8 มิถุนายน นี้ ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา  

                    เพิ่มพื้นที่สีเขียว“คุ้งบางกระเจ้า”วันสิ่งแวดล้อมโลก 

             เนื่องในวันที่ 5 มิถุนายน ของทุกปี เป็น “วันสิ่งแวดล้อมโลก” องค์กรภาคีเครือข่า่ยภาครัฐและเอกชนกว่า 50 องค์กรแสดงพลังความร่วมมือขับเคลื่อนโครงการพัฒนาพื้นที่สีเขียวคุ้งบางกระเจ้า อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562 โดยมี เตชพล ฐิตยารักษ์ รองเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ในฐานะคณะอนุกรรมการกำกับการดำเนินงานพัฒนาพื้นที่คุ้งบางกระเจ้า เป็นประธานในพิธี ชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ และ ชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด ในฐานะองคกรประธานคณะทำงานด้านพื้นที่สีเขียว พร้อมด้วย 19 องค์กรผู้สนับสนุนและ 31 องค์กรภาคีคณะทำงานร่วมในพิธี พร้อมมอบกล้าพันธุ์ไม้ให้ผู้แทนชุมชน 6 ตำบลเพื่อแสดงสัญลักษณ์เริ่มต้นการพัฒนาพื้นที่สีเขียวในพื้นที่คุ้งบางกระเจ้าด้วย

              ชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด กล่าวว่าปตท.1 ดำเนินธุรกิจโดยยึดหลักการบริหารองค์กรเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนคือ People Planet และ Prosperity การพัฒนาพื้นที่สีเขียวที่คุ้งกระเจ้าแห่งนี้เป็นหนึ่งในแนวทางการทำงานด้าน Planet ที่ปตท.ให้ความสำคัญมาก โดยปตท.นำองค์ความรู้ที่ได้จากการดำเนินโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติกว่า 20 ปีผสานกับความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมในกลุ่มปตท.มาปรับใช้กับกิจกรรมเพื่อสังคมในรูปแบบ Technology for Social Collaboration เพื่อมุ่งพัฒนาสังคมให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ซึ่งคณะทำงานด้านการพัฒนาพื้นที่สีเขียวได้จัดตัง้คณะกรรมการระดับตำบลเพื่อร่วมทำงานกับชุมชนในทุกขั้นตอนและมีการเตรียมพื้นที่ให้พร้อมต่อการพัฒนาพื้นที่สีเขียว ได้แก่ การสำรวจพื้นที่เป้าหมายทั้งหมดร่วมกับกรมป่าไม้เพื่อเตรียมพื้นที่ปลูกป่าเช่นการวางท่อจัดการน้ำใหม่และถมดินปิดท่อเดิมที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ขนานไปกับการจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับชุมชนทั้ง 6 ตำบล เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง

                 สำหรับคุ้งบางกระเจ้าถือเป็นแหล่งโอโซนใหญ่ในเมืองใกล้กรุงเทพฯ ซึ่งในปัจจุบันยังมีสภาพเป็นป่าธรรมชาติที่มีความหลากหลายทางชีวภาพและถือเป็นแหล่งผลิตโอโซนลำดับ 7 ของโลก เปรียบได้กับปอดของคนกรุงเทพฯ โดยในวันที่ 28 มีนาคม 2562 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประกาศกฎกระทรวงกำหนดให้คุ้งบางกระเจ้า รวมพื้นที่ทั้งสิ้น 11,819 ไร่เป็นเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม ซึ่งประกอบด้วย 6 ตำบล ได้แก่ บางกระเจ้า บางน้ำผึ้ง บางกอบัว บางกระสอบ บางยอ และบางคนอง โดยเมื่อปี 2549 พื้นที่แห่งนี้ได้รับการยกย่องจากนิตยสารไทม์ให้เป็น The Best Urban Oasisof Asia