ข่าว

จับตาโค้งสุดท้าย ผลประมูลดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จับตาโค้งสุดท้าย ผลประมูลดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิ"กลุ่มรอยัล ออคิด ดูฟรี" ลุ้นโอกาสยกระดับดิวตี้ฟรีไทยสู่ชั้นแนวหน้า

 

               นับถอยหลังกับการเปิดซองประมูล ที่เข้าสู่โค้งสุดท้ายในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ เพื่อตัดสินให้สิทธิ์ผู้ประกอบกิจการร้านค้าปลอดอากรสนามบินสุวรรณภูมิ  ซึ่ง “กลุ่มโรงแรมรอยัล ออคิด” พร้อมพันธมิตร “บริษัท เอ็มไพร์ เอเชีย” และ “เวิลด์ ดิวตี้ฟรี กรุ๊ป” (WDFG UK) ในเครือ “ดูฟรี” (Dufry) ผู้นำด้านร้านค้าปลีกสำหรับนักท่องเที่ยวและร้านค้าปลอดอากรชั้นนำระดับโลก ได้เข้ายื่นประมูลงาน ภายใต้ชื่อ “กลุ่มกิจการร่วมค้า ดูฟรี รอยัล ออคิด” (Dufry ROH) ไปเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา 

จับตาโค้งสุดท้าย ผลประมูลดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิ

   

          วิทวัส วิภากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทโรงแรมรอยัล ออคิด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความตั้งใจของกลุ่ม และการเชิญชวนพันธมิตรระดับโลกอย่าง เวิลด์ ดิวตี้ฟรี กรุ๊ป (WDFG UK) ในเครือ ดูฟรี (Dufry) มาร่วมในการประมูลในครั้งนี้ว่า ทางกลุ่มฯเล็งเห็นว่า ประเทศไทยยังมีโอกาสในการยกระดับให้ร้านค้าปลอดอากรในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกลายเป็นดิวตี้ฟรีที่ดีที่สุดเทียบชั้นแนวหน้า สามารถแข่งขันระดับโลกได้ ซึ่งมีความสอดคล้องกับแนวทางและเป้าหมายของทางบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เป็นอย่างดี

              “เมื่อกลุ่มพันธมิตรคนไทยตัดสินใจที่จะเข้าร่วมประมูลในครั้งนี้ โดยจุดประสงค์ของกลุ่มคือ การนำพาร์ทเนอร์อันดับหนึ่งของโลก ผู้มีประสบการณ์ เป็นมืออาชีพ และความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการร้านค้าปลอดอากร มีการดำเนินงานที่เป็นระบบ สามารถตรวจสอบได้ เพื่อเป้าหมายในการสร้างรายได้ให้กับประเทศสูงสุด เราจึงมีการเจรจาพูดคุยมาอย่างต่อเนื่องกับกลุ่ม เวิลด์ ดิวตี้ฟรี กรุ๊ป (WDFG UK) ซึ่งหลายๆ คนอาจเคยได้สัมผัสความยิ่งใหญ่ของร้านค้าปลอดอากร ณ สนามบินนานาชาติลอนดอนฮีทโธรว์ กรุงลอนดอน มาแล้ว  ในส่วนของ เวิลด์ ดิวตี้ฟรี กรุ๊ป ในเครือดูฟรี (Dufry) เป็นบริษัทสัญชาติอังกฤษ  ที่อยู่ภายใต้การบริหารและกำกับดูแลจากบริษัทแม่อย่าง ดูฟรี กรุ๊ป (Dufry Group) ผู้ถือหุ้นใน เวิลด์ ดิวตี้ฟรี กรุ๊ป 100% ปัจจุบันดูแลร้านค้าปลีกสำหรับนักท่องเที่ยวและร้านค้าปลอดอากร ในเครือรวมกันทั้งสิ้นมากกว่า 2,200 แห่ง ซึ่งกระจายตัวอยู่กว่า 292 สนามบิน ในกว่า 64 ประเทศทั่วโลกอีกด้วย”   

               “เรามีความประสงค์ที่จะสร้างประโยชน์ให้กับประเทศอย่างสูงสุดผ่านพันธมิตรระดับโลกอย่าง เวิลด์ ดิวตี้ฟรี กรุ๊ป ซึ่งมีความพร้อมในการลงทุนและสามารถดำเนินการได้ทันทีผ่านระบบและความเชี่ยวชาญของพันธมิตรของเรา โดยจะมีการนำเอานวัตกรรม ระบบจัดการที่ได้มาตรฐานระดับโลก และความเชี่ยวชาญระดับโลกมาปรับใช้กับร้านค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อสร้างรายได้ให้กับท่าอากาศยานไทย และประเทศไทย  พร้อมพัฒนาบุคลากร ด้านทักษะการดำเนินงาน ซึ่งงานด้านการพัฒนาบุคลากรนั้นเป็นเสมือนแผนแม่บทที่เราให้ความสำคัญและเป็นส่วนหนึ่งในการลงทุนครั้งนี้ โดยเราได้ตกลงกับพันธมิตรของเราถึงความตั้งใจในการสร้างศูนย์การฝึกอบรมพนักงานประจำภูมิภาคเอเซียให้เกิดขึ้นในประเทศไทย  ยิ่งไปกว่านั้น เราได้มีการเจรจาข้อตกลงกับพันธมิตรของเรา เพื่อสร้างโอกาสให้สินค้าและผลิตภัณฑ์ไทยที่ได้มาตรฐานได้จำหน่ายในตลาดโลก ผ่านเครือข่ายร้านค้าของพันธมิตรเราทั่วโลกเช่นกัน”วิทวัส กล่าว

             จับตาร่วมลุ้นไปพร้อมกัน หาก ดูฟรี รอยัล ออคิด ชนะการประมูลในครั้งนี้ จะถือเป็นนิมิตใหม่ของการสร้างโอกาสให้กับ ร้านค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศสุวรรณภูมิ และประโยชน์หลากหลายกับประเทศไทยผ่านศักยภาพอันยิ่งใหญ่จากพันธมิตรระดับโลกอย่าง เวิลด์ ดิวตี้ฟรี กรุ๊ป ในเครือ ดูฟรี นอกจากนี้ ผลประโชน์ในครั้งนี้คงจะไม่ใช่เพียงเพื่อผู้โดยสารที่ใช้บริการสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิเท่านั้น แต่รวมไปถึงโอกาสในการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย สินค้าไทยผ่านเครือข่ายของ เวิลด์ ดิวตี้ฟรี กรุ๊ป ในเครือ ดูฟรี ที่ครอบคลุมไปทั่วทุกมุมโลก 

     

        สำหรับบริษัทโรงแรมรอยัล ออคิด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มีประสบการณ์มากกว่า 30 ปี ในการบริหารจัดการโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ภายใต้ชื่อโรงแรมชั้นนำทั้งในและต่างประเทศถึง 7 แห่ง ดูแลนักท่องเที่ยวมาแล้วมากมายหลายเชื้อชาติ ทำให้เข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้านักเดินทางทั้งไทยและต่างประเทศมาโดยตลอด
         ในขณะบริษัท เอ็มไพร์ เอเชีย จำกัด บริษัทฯ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งโครงการจากภาครัฐและเอกชนมากมาย รวมถึงมีส่วนในการประมูลโครงการร่วมทุนสำคัญๆ เช่น สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา สมาร์ทซิตี้ รวมทั้งมีพันธมิตรทางธุรกิจระดับโลกมากมาย
        ส่วนเวิลด์ ดิวตี้ฟรี กรุ๊ป (WDFG UK) ในเครือ ดูฟรี (Dufry) บริษัทสัญชาติอังกฤษ เป็นบริษัทที่อยู่ภายใต้การบริหาร และกำกับดูแลจากบริษัทแม่อย่าง ดูฟรี กรุ๊ป (Dufry Group) ผู้ถือหุ้นใน เวิลด์ ดิวตี้ฟรี กรุ๊ป 100% ปัจจุบันดูแลร้านค้าปลีก สำหรับนักท่องเที่ยวและร้านค้าปลอดอากร ในเครือรวมกันทั้งสิ้นมากกว่า 2,200 แห่ง ซึ่งกระจายตัวอยู่กว่า 292 สนามบิน ในกว่า 64 ประเทศทั่วโลก 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ