คาสิโอคว้านักแข่งฟอร์มูล่า วัน เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์

           บริษัท คาสิโอ มาร์เก็ตติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ต่อยอดความสำเร็จยอดขาย 1 ล้านเรือนกว่า 4,000 ล้านบาทในปี 61  เปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์นาฬิกา EDIFICE ในประเทศไทย "อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์" (Mr. Alexander Albon) นักแข่งรถฟอร์มูล่า วัน สัญชาติไทยจากทีม Scuderia Toro Rosso (สคูเดอเรีย โทโร รอสโซ่)  พร้อมส่ง EDIFICE (เอดิฟิส) นาฬิกาสปอร์ตโครโนกราฟสมรรถนะสูง  6 รุ่นเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ชาย  ตั้งเป้าเติบโตรวมทุกแบรนด์ 18%  โดยวางงบการตลาดไว้ที่ 10%

              โคจิ ชินโจ กรรมการผู้จัดการ  บริษัท คาสิโอ มาร์เก็ตติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ในปี 2561 ที่ผ่านมา คาสิโอทำยอดขายได้สูงสุดกว่า  1 ล้านเรือน รวมมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 6-7%   อันดับหนึ่งคือ   G-SHOCK 55%    BABY-G 15%  และแบรนด์อื่น ๆ อีก 30%   ทั้งนี้ภาพรวมตลาดนาฬิกามีการเติบโตขึ้นเล็กน้อย แต่กลุ่มนาฬิกาพรีเมี่ยมได้รับความสนใจและมีอัตราการเติบโตสูงถึง 8%     ดังนั้นในปีนี้ คาสิโอจึงได้ร่วมมือกับบริษัท เซ็นทรัล  มาร์เก็ตติ้ง จำกัด วางแผนการตลาดบุกช่องทางการขายทั้งออฟไลน์ และเพิ่มสัดส่วนทางออนไลน์จาก 3% เป็น 10%  เพื่อมุ่งเป้าหวังเติบโตที่ 18%  โดยประเมินงบการตลาดไว้ที่ 10%  เน้นไปที่การเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ ๆ โดยเฉพาะนาฬิการะดับพรีเมี่ยม และลิมิเต็ดอิดิชั่นอย่างต่อเนื่อง  

                 การเปิดตัว    EDIFICE นาฬิกาสปอร์ตโครโนกราฟสมรรถนะสูง ที่มาพร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยวควบคู่กับเทคโนโลยีอันล้ำหน้า โดยมีแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ "อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์" นักแข่งรถฟอร์มูล่า วัน สัญชาติไทย ภายใต้สังกัดทีม Scuderia Toro Rosso  จะช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น จึงเป็นกลยุทธ์ในการกลุ่มตลาดนาฬิกาผู้ชายระดับพรีเมี่ยม ซึ่งการร่วมมือกับทีมแข่งรถฟอร์มูล่า วัน ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้แบรนด์ EDIFICE ได้รับการตอบรับที่ดี และมีการเติบโตในเชิงธุรกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดยุโรป  และในปีที่ผ่านมาการเปิดตัวนาฬิกา EDIFICE ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Powered) ในประเทศไทยทำให้ธุรกิจเติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า"

             ด้านนายวิโรจน์ สุขพิทักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส Casio and Hardline บริษัท เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง จำกัด กล่าวเสริมว่า "ปัจจัยที่ทำให้คาสิโอทำยอดขายประสบความสำเร็จ คือ  การเปิดตัวรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นในทุก ๆ เดือน การใช้กลยุทธ์ Collaboration กับศิลปินเพื่อสร้างความแปลกใหม่ การเดินหน้าเจาะกลุ่มนาฬิการะดับพรีเมี่ยม และใช้กลยุทธ์ Omni Channel ตามแนวทางของเซ็นทรัลกรุ๊ป เพิ่มเติมจากช่องทางออฟไลน์ ได้แก่ G-Shock Flagship Store ที่ปัจจุบันมี 15 สาขา และดีลเลอร์กว่า 200 สาขา"

              นาฬิกา "EDIFICE Scuderia Toro Rosso Limited Edition 2019" เป็นนาฬิกาสปอร์ตโครโนกราฟคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด ที่ผสานดีไซน์โฉบเฉี่ยวควบคู่กับเทคโนโลยีอันล้ำสมัย โดยออกแบบร่วมกับทีม Scuderia Toro Rosso ทีมแข่งรถ FORMULA 1 ระดับโลก มาพร้อมกันถึง 3 รุ่น ได้แก่ ECB-900TR, EQS-920TR และ EFR-564TR ดีไซน์การออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจากกีฬามอเตอร์สปอร์ต ทั้งตัวเรือน หน้าปัด และสาย เสริมความพิเศษด้วยลูกเล่น เช่น ตัวเลขบอกเวลาซึ่งใช้อักษรแบบเดียวกับเลขประจำรถแข่งของทีม หน้าปัดและฝาหลังของนาฬิกาประดับด้วยโลโก้ Scuderia Toro Rosso โดยรุ่น ECB-900TR และ EQS-920TR มาพร้อมระบบพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Powered) และรุ่น ECB-900TR มาพร้อมบลูทูธ สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานฟังก์ชั่น   ต่าง ๆ เช่น การปรับเวลาอัตโนมัติกว่า 300 เมืองทั่วโลก นาฬิกา "EDIFICE Scuderia Toro Rosso Limited Edition 2019" มีราคาตั้งแต่ 7,900 - 12,900 บาท จะวางจำหน่ายกลางเดือนเมษายน ศกนี้

            นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งคอลเล็คชั่นใหม่ "EDIFICE Countdown Bezel Series" ซึ่งมาพร้อมกับระบบพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Powered) และหน้าปัดกระจกแซฟไฟร์คริสตัลซึ่งมีความทนทานต่อการใช้งาน นาฬิกา EDIFICE คอลเลคชั่นนี้มี 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น EFS-S550DB (สายสเตนเลส) รุ่น EFS-S550BL (สายผ้าไนลอน) และรุ่น EFS-S550PB (สายเรซิน) ราคาตั้งแต่ 7,000 - 7,500 บาท พร้อมวางจำหน่ายในเดือนมิถุนายน ศกนี้