ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาฯ ทรงโปรโมทท่องเที่ยวไทยในงาน ITB2019
เมื่อเวลา 15.16 น. วันที่ 7 มี.ค. (เวลาตามท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จร่วมงาน International Tourismus Borse 2019 (ITB 2019) ครั้งที่ 53 ณ กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี งานส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 6-10 มีนาคม ณ Messe Berlin Exhibition Ground เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย
โดยมีนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)และผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวไทยเฝ้ารับเสด็จ นอกจากนี้ทรงเสด็จเยี่ยมชมบูธต่าง ๆ ของทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่คูหาของประเทศไทยหมายเลข 221 ฮอลล์ 26 บี ซึ่งตกแต่งในธีม "อะเมซิ่ง ไทยแลนด์" ในแนวคิด “โอเพ่น ทู เดอะ นิว เฉด ออฟ ไทยแลนด์” โดยเน้นสินค้าและบริการของแหล่งท่องเที่ยวเมืองรองของประเทศไทย ที่มีศักยภาพและตรงกับพฤติกรรมความต้องการของนักท่องเที่ยวชาวยุโรป
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงประทานให้สัมภาษณ์แก่คณะสื่อมวลชนไทย
ในการนี้พระองค์ได้ทรงประทานให้สัมภาษณ์แก่คณะสื่อมวลชนไทยเกี่ยวกับการส่งเสริมท่องเที่ยวไทย มีใจความตอนหนึ่งว่าตามที่เคยพูดกับทุกคนไปแล้ว ว่าการที่เราจะต้อนรับนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นแขกของเรามาบ้านเราก็รู้สึกดีใจ เพราะฉะนั้นเราต้องเป็นเจ้าบ้านที่ดี ต้อนรับเขา ทำให้เขามีความสบายใจที่จะมาเที่ยว มาเยี่ยมบ้านเรา เขาชอบเมืองไทยเพราะทุกๆ ที่ทั้งเมืองหลักและเมืองรองมีแหล่งท่องเที่ยวสวยงามจำนวนมาก โดยแต่ละที่ก็มีอัตลักษณ์ และมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง นับเป็นเสน่ห์ของแต่ละที่แต่ละชุมชน ในฐานะเจ้าของบ้านต้องมีความภูมิใจในอัตลักษณ์ของตัวเอง เพราะเรามีสิ่งที่คนอื่นไม่มี เพราะฉะนั้นเราต้องชูอัตลักษณ์ให้มันแตกต่าง
แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่เราพูดมาเสมอว่า คนไทยจะต้องมีจิตใจที่เป็นมิตร มีความเต็มใจที่จะบริการ ทำให้ทุกคนสะดวกสบาย มีความสุขที่จะมาบ้านเรา ชาวต่างชาติเขาคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดเวลาไปเยือนสถานที่ต่างๆ คือความปลอดภัย ถ้านักท่องเที่ยวมาแล้วรู้สึกไม่ปลอดภัย จะทำให้เขาไม่อยากกลับมาเที่ยวอีก เพราะฉะนั้นเราต้องช่วยให้นักท่องเที่ยวรู้สึกปลอดภัย ต้องช่วยกันดูแล ให้อยู่ดีกินดี มีความสุข อย่างไรก็ตาม เราก็ต้องดูแลคนไทยกันเองด้วย ในการที่จะโปรโมทแหล่งท่องเที่ยวบ้านเรา และทุกคนต้องช่วยกัน
ในการทำงานของข้าพเจ้าก็คือ การร่วมแรงร่วมใจ ให้ทุกคนช่วยกัน ทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกัน เป็นเพื่อนกัน วันนี้ทาง ททท.ได้โปรโมทเมืองรอง 55 จังหวัด พวกเราทุกคนต้องให้โอกาส สามารถมีโอกาสที่จะต้อนรับและเป็นเจ้าของบ้าน สามารถที่จะทำงานร่วมกันเพราะฉะนั้นต้องช่วย เพราะการทำงานด้านท่องเที่ยวต้องช่วยกันในหลาย ๆ ส่วน
ส่วนจุดแข็งของประเทศไทยนั้นก็คือคนไทย เพราะคนไทยเป็นคนมีน้ำใจ เมตตา กรุณา ชอบช่วยเหลือ เป็นนิสัยดั้งเดิมของเรา เห็นได้จากเหตุการณ์ภัยพิบัติสึนามิปี 2547 คนต่างชาติก็ชื่นชมเรื่องความมีน้ำใจของเรา นี่คือจุดแข็งของประเทศ เป็นเสน่ห์ของเจ้าของบ้านที่ดี นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว คนไทยคือนัมเบอร์วันที่ทำให้ประเทศไทย เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวอยากมาเยือน นอกจากนี้เมืองไทยยังมีความหลากหลายในเรื่องแหล่งท่องเที่ยวทางธรรชาติและวัฒนธรรม มีความเก่าและความใหม่ผสมผสานกัน ทำให้ใครชอบอย่างไรก็สามารถไปเที่ยวอย่างที่ตัวเองชอบได้
นอกจากนี้พระองค์ยังทรงแนะนำการใช้สื่อโซเชียลมีเดียเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยว่าเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก เพราะเป็นสื่อที่ไปได้รวดเร็วเข้าถึงทุกที่ทุกแห่งได้ผลดีเยี่ยมกว่าด้านอื่นและมีโอกาสได้โต้ตอบกัน ข้าพเจ้าจะใช้โซเชียลเป็นหลักคือไอจี ซึ่งต้องเปิดใจกว้างรับฟังทุกคอมเมนต์ แม้ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ตาม ทุกคนสามารถคุยกับข้าพเจ้าได้ถ้ามีเวลาก็จะพยายามตอบ มีคนมาแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย หลายคนก็ให้กำลังใจมาก ซึ่งข้าพเจ้ารู้สึกขอบใจ ซาบซึ้งใจที่พวกเรามาให้กำลังใจทำให้สามารถที่จะมีกำลังใจทำงานดีๆต่อไป
แต่บางครั้งสื่อออนไลน์ก็มีข้อเสียที่ต้องระมัดระวังในการใช้ อย่างบางคนใช้ในการด่ากัน แต่สำหรับตัวข้าพเจ้าเองก็ไม่ได้โกรธอะไรเพราะมองว่าคนด่าทำให้เราหันมามองตัวเอง ได้ปรับปรุงตัวเอง ไม่ต้องชมตลอดเวลา อย่างเมื่อก่อนเคยเปิดเฟซบุ๊กเป็นสาธารณะก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ก็มันดี แต่ตอนหลัง ๆ ก็เยอะไปก็เลยปิด และถ้าเป็นเรื่องไม่จริงก็ไม่แคร์ ปีนี้พระท่านบอกว่าไม่ให้โกรธหรือโมโหใคร ตามสุภาษิตที่ว่าโกรธคือโง่ โมโหคือบ้า เพราะถ้าโกรธและโมโหก็จะทำให้เราแก่เร็วและเป็นอัลไซเมอร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง