เอกชนไทยร่วมทุนเอกชนลาว ศึกษา-พัฒนาระบบ EV Charge

       1 มี.ค.62-หม่อมหลวงรุ่งคุณ กิติยากร (หม่อมโจ้) ประธานบริษัท Chosen Energy ร่วมกับบริษัทหลวงประเสริฐ คอนสตรัคชั่น ในนามบริษัท EVLao ได้เซ็น MOU กับกระทรวงพลังงานเเละบ่อเเร่ ของ สปป.ลาว เพื่อทำการศึกษาการนำใช้รถยนตร์พลังงานไฟฟ้า EV เเละระบบชาร์จไฟฟ้าสุดอัจฉริยะ ซึ่งสามารถเก็บสถิติข้อมูลต่างๆเป็น Big Dataได้  เช่น เวลาที่ชาร์จ กำลังไฟ สถานะการชาร์จเเบบ real time โหลดบาลานซ์ ความปลอดภัยขั้นสูง ควบคุมด้วย software รวมถึง National Security กล่าวคือข้อมูล Big Data การใช้พลังงานต่างๆ จะอยู่ภายในประเทศเท่านั้นโดยไม่ต้อง Roaming ออกนอกประเทศ

         หม่อมหลวงรุ่งคุณ กล่าวว่า โครงการการนำใช้รถพลังงานไฟฟ้าเกิดขึ้นจาก สปป.ลาวเป็นประเทศที่นำเข้าน้ำมันเกือบ 100% ในขณะเดียวกัน สปป.ลาวมีเขื่อนที่มีกำลังผลิตไฟฟ้าอยู่มาก  จึงเป็นโอกาสอันดีที่ทางรัฐบาลลาวเห็นความสำคัญของการพึ่งพาตนเองจากพลังงานภายในประเทศ ทั้งนี้คาดว่าราคาพลังงานไฟฟ้าในการชาร์จรถ EV เทียบเเล้วจะถูกกว่าการใช้น้ำมันประมาณ 4 เท่า เเละการซ่อมบำรุงรักษาจะน้อยกว่ารถยนต์น้ำมัน เนื่องจากชิ้นส่วนสึกหล่อน้อย ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เเละคาดว่าทางรัฐบาลลาวจะมีมาตรการเเละโปรโมชั่นต่างๆออกมาเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนใน สปป.ลาวได้หันมาใช้รถ EV เร็วๆนี้

          "นับว่าทางรัฐบาลลาวมีวิสัยทัศน์ที่ได้ใช้โอกาสนี้ในการพึ่งพาตนเอง รักษาสิ่งเเวดล้อมเเละ หลุดจากพันธนาการด้านพลังงาน เเละมลพิษอย่างเเท้จริง" หม่อมหลวงรุ่งคุณ กล่าว

          ด้านหนังสือพิมพ์เวียงจันไทม์ ของสปป.ลาวรายงานข่าวดังกล่าวว่า บริษัท chosen energy กับ บริษัทหลวงประเสริฐ แห่งสปป.ลาว ในนามบริษัท EV Lao ได้ร่วมเซ็นเอ็มโอยูกับกระทรวงพลังงาน สปป.ลาวทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการทำระบบและการใช้รถ EV ใน สปป.ลาว

          โดยนายบัวริด ปะถมทอง รองอธิบดีกรมการขนส่งของกระทรวงโยธาธิการและการขนส่งสปป.ลาว กล่าวตอนหนึ่งว่า ในปัจจุบันนี้โลกกำลังเผชิญกับความท้าทายของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและมลภาวะทางอากาศ เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนรถยนต์ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักในการทำให้เกิดมลภาวะหลายๆประเทศได้พัฒนายานพาหนะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งยานยนต์ไฟฟ้านี้ด้วยเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ สปป.ลาวมีศักยภาพในการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ามาก เนื่องจากเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยแหล่งพลังงานทดแทนจากน้ำ แสงอาทิตย์และลม สิ่งเหล่านี้สามารถช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าเชื้อเพลิงในปัจจุบันได้ ซึ่งยานยนต์ไฟฟ้ามีข้อได้เปรียบเรื่องความปลอดภัยมากกว่ายานยนต์ทั่วไปในด้านเครื่องยนต์เผาไหม้ภายใน เนื่องจากความเสี่ยงทางด้านไฟไหม้ที่น้อยลง ยานยนต์ไฟฟ้ายังสามารถครอบคลุมได้กับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีปฏิบัติการและระบบสาระบันเทิงอีกด้วย

        “เรายังคงปรับปรุงในเรื่องการขนส่งให้ดีขึ้นไปสู่ระดับที่ยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการพัฒนาเทคโนโลยี เช่นยานพาหนะที่ใช้พลังงานสะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” นายบัวริดกล่าว