ลาล่า มูฟ ประเทศไทย ขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งให้บริการส่งสินค้า 

 

                 จากความพยายามสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจในโลกดิจิทัล ในที่สุด “ลาล่ามูฟ ประเทศไทย” ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นขนส่งสินค้าแบบ On-demand Delivery ก็ขึ้นแท่นผู้บริการขนส่งสินค้าอันดับหนึ่ง ด้วยมูลค่าการทำธุรกรรมรวมกว่า 1,200 ล้านบาทในปี 2561  พร้อมเล็งขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องในปี 2562 ด้วยเพิ่มไซส์รถขนส่งสินค้า 5 ประตูและกระบะ รุกพื้นที่ทุกภูมิภาคทั่วไทย พร้อมพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ตอบโจทย์การบริการครบวงจร

 

“การเติบโตแบบก้าวกระโดดนี้เป็นผลมาจากการขยายธุรกิจและการพัฒนาบริการอย่างต่อเนื่อง สร้างความแตกต่างและสามารถแข่งขันในตลาดธุรกิจขนส่งแบบ On-demand ที่มีผู้เล่นในตลาดเพิ่มมากขึ้นได้อย่างเหนือชั้น ไม่ว่าจะเป็นการบริการในรูปแบบ On-demand ที่ให้ความสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพสูงสุดด้วยแอพพลิเคชั่นที่ล้ำสมัย ด้วยการค้นหาพนักงานส่งสินค้าได้เร็วที่สุดภายใน 6 วินาที ถึงผู้ส่งเร็วสุด 186 นาที ถึงมือผู้รับเร็วที่สุด 20 นาที และรวมระยะเวลาในการให้บริการทั้งหมดเร็วที่สุด 38 นาที และมีพนักงานขับรถที่มากที่สุดในเมืองไทยรวม 80,000 คัน”

   ชานนท์ กล้าหาญ กรรมการผู้จัดการลาล่ามูฟ ประเทศไทยเผยจุดเด่นของธุรกิจระหว่างการแถลงข่าวผลประกอบการ ประจำปี 2561 ณ สำนักงานใหญ่อาคารสาทรธานี 2 เมื่อวันที่ 23 มกราคม โดยระบุว่า “ในปี 2561 ที่ผ่านมา ลาล่ามูฟ ประเทศไทย ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยเปรียบเทียบจากอัตราการเติบโตของมูลค่าการทำธุรกรรมใน 4 ปีที่ผ่านมา (2558-2561) เริ่มจากในปี 2558-2559 เติบโต 500% มูลค่ารวม 121 ล้านบาท ต่อมาในปี 2560 เติบโตเพิ่มขึ้น 400% มูลค่ารวม 532 ล้านบาท และล่าสุดปี 2561 ธุรกิจเติบโตเพิ่มเป็น 123% มูลค่าการทำธุรกรรมรวม 1,200 ล้านบาท 

ตลอดระยะเวลา 4 ปี ของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ลาล่ามูฟ มีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ด้วยจุดยืนหลักคือ “คุณภาพ” ของการให้บริการ และความมุ่งมั่นในการพัฒนาแพลตฟอร์ม รวมถึงการขยายุรกิจและพื้นที่ให้บริการในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง จวบจนในปี 2562 นับเป็นปีที่ลาล่ามูฟ ประเทศไทย ก้าวสู่อันดับหนึ่งในตลาดธุรกิจการขนส่งสินค้าแบบ On-demand Delivery ของไทย เพื่อตอบโจทย์และครอบคลุมความต้องการของลูกค้าในทุกกลุ่ม 

“ของเราจะต่างจากรายอื่นคือจะคิดราคาส่งตามระยะทาง ไม่ใช่ตามน้ำหนัก ทำให้สามารถส่งสินค้าถึงมือลูกค้าไม่เกิน 1 ชั่วโมง ยกตัวอย่างลูกค้าเรียกงานผ่านแอพลาล่า มูฟ ใช้เวลาเฉลี่ยไม่เกิน 6 นาที คุณก็แจ้งรายละเอียดว่าจะซื้อสินค้าอะไร ที่ไหน อย่างไร ตรงนี้ใช้เวลาเฉลี่ย 18 นาที จากนั้นก็จะเอามาส่งถึงมือลูกค้าไม่เกิน 20 นาที รวมเวลาทุกกระบวนการใช้เวลา 44 นาที นี่คือจุดเด่นของเรา”

   บอสใหญ่ลาล่ามูฟ ประเทศไทย เผยต่อว่าในปี 2562 นี้ ลาล่ามูฟ ประเทศไทย มีการวางแผนพัฒนาธุรกิจรวมถึงการขยายตัวการให้บริการที่เต็มรูปแบบมากขึ้น ได้แก่ การนำเทคโนโลยีเชื่อมต่อเอพีไอ เข้ามาเป็นตัวช่วยในการให้บริการสำหรับร้านค้า และคู่ค้าในการทำธุรกิจที่สร้างผลกำไรมากยิ่งขึ้น โดยสามารถสร้างแพลตฟอร์มการสั่งและส่งสินค้าให้แก่ร้านค้าออนไลน์ได้เองได้อย่างสะดวกรวดเร็ว รวมไปถึงการพัฒนาแอพพลิเคชั่น และเว็บไซต์​โฉมใหม่เพื่อตอบโจทย์และความสะดวก​สบาย​ให้แก่ลูกค้านอกจากนั้นยังมีแผนการขยายพื้นที่ให้บริการไปยังภูมิภาคอื่นๆ ในประเทศ พร้อมเพิ่มรถขนาดใหญ่สำหรับขนส่งสินค้ารวมไปถึงการบริการส่งสินค้าแบบแอลทีแอล และบริการส่งสินค้าภายในวันเดียวกัน 

  “ความท้าทายของเราในปีนี้ก็คือการสร้างเครือข่ายร้านค้าที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอิเกีย ไลน์แมน คอฟฟี่ คลับ กาแลคซี่ กิฟท์ ที่ผ่านมาเรามีจุดแข็งในการร่วมเชื่อมเครือข่ายกับไลน์แมน จนได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ไลน์แมนเขาจะเด่นในเรื่องคนขับรถ ส่วนเราจะเด่นการเซอร์วิส การให้บริการ เมื่อมารวมกันทำให้มีจุดแข็งเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีแผนการขยายพื้นที่ไปสู่ภูมิภาค โดยเริ่มจากเมืองใหญ่ อย่าง เชียงใหม่ ขอนแก่น โคราช ภูเก็ตและภาคตะวันออกที่มีแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจที่สูง เพราะงานของเราจะมุ่งไปที่งานออฟฟิศเป็นหลักก่อน”

  ชานนท์ย้ำด้วยว่า นอกจากนั้น ลาล่ามูฟ ประเทศไทย ยังใส่ใจในสวัสดิการของพนักงานขับรถ โดยเปิดโอกาสการเข้าถึงความคุ้มครองครอบคลุมทั้งสุขภาพ ชีวิต รถยนต์และรถจักรยานยนต์ รวมถึงอุบัติเหตุให้แก่พนักงานขับรถกว่า 80,000 คนในประเทศไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบ

ทั้งนี้ลาล่ามูฟเป็นผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นขนส่งสินค้าแบบ On-demand Delivery ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในฮ่องกง เมื่อปี 2556 โดยเป็นผู้ริเริ่มการบริการจัดส่งสินค้าในช่วงสุดท้ายที่รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ตรงกับสโลแกน “ส่งถึงไว ภายใน 1 ชั่วโมง” โดยพนักงานมืออาชีพและไว้ใจได้ด้วยราคาที่สมเหตุสมผล ไม่มีค่าใช้จ่ายอื่นๆ แอบแฝง 

ปัจจุบันกลายมาเป็นผู้ให้บริการจัดส่งสินค้าที่ใหญ่ที่สุดครอบคลุมทั่วภูมิภาคเอเชียรวมทั้งประเทศไทย มีการดำเนินธุรกิจอยู่ใน 10 เมืองหลักใน 8 ประเทศเขตภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกอบด้วย ฮ่องกง ไต้หวัน ประเทศไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย รวมทั้งอีกกว่า 100 เมืองในประเทศจีน ล่าสุดเพิ่งขยายไปเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย โดยในประเทศไทยมีผู้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นลาล่า มูฟ แล้วจำนวนกว่า 2,500,000 ราย และมีพนักงานขับรถลงทะเบียนมากกว่า 80,000 ราย

           

                                        จากเด็กกิจกรรมรั้วนนทรีสู่ธุรกิจขนส่งสินค้า

    ด้วยประสบการณ์การทำงานในวงการเทคโนโลยีในประเทศไทยมากว่า 9 ปี และในด้านคมนาคมและขนส่งมากว่า 5 ปี สำหรับ “ชานนท์ กล้าหาญ” หนึ่งในทีมบุกเบิกลาล่า มูฟ ประเทศไทย มาตั้งแต่ปี 2557 ก่อนก้าวมารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการในปัจจุบันเพื่อดูแลแผนงานและการเติบโตโดยรวมของลาล่ามูฟ ประเทศไทย 

    ก่อนหน้าที่จะเข้าร่วมทีมลาล่า มูฟ นั้น เขาเป็นหนึ่งในทีมผู้บุกเบิกการเข้ามาของแกร็บแท็กซี่ ประเทศไทย ในฐานะหัวหน้าการตลาด ดูแลรับผิดชอบการตลาดให้แกร็บมาตั้งปแต่ปี 2556 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นให้บริการโดยขับเคลื่อนสร้างกลุ่มลูกค้าให้เติบโตรวมถึงสร้างแบรนด์แกร็บแท็กซี่ ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง

ไม่เพียงเท่านั้นชานนท์ยังมีประสบการณ์ทำงานในองค์กรธุรกิจรวมถึงเป็นผู้บุกเบิกบริษัทสตาร์ทอัพในความรับผิดชอบด้านการตลาดอย่างต่อเนื่องทำให้มีประสบการณ์ด้านการวางแผนธุรกิจและกลยุทธ์การตลาดที่หลากหลาย จากความสำเร็จดังกล่าวส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการสั่งสมประสบการณ์ในการเรียนในระดับปริญญาตรีด้านบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ฐานะผู้นำกิจกรรมทั้งเพื่อสังคมและเพื่อองค์กร อาทิ  ผู้นำออกค่ายอาสาพัฒนาชนบท เป็นต้น