เปิดราชกิจจามาตรการปราบ"บุหรี่เถื่อน" เครือข่ายชาวไร่วอนรัฐอย่าซ้ำเติมขึ้นภาษี
เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.61 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศกรมสรรพสามิต เรื่อง “กำหนดมูลค่าสินค้ายาสูบชนิดบุหรี่ซิกาแรต เพื่อถือเป็นเกณฑ์ในการกำหนดค่าปรับ” เพื่อให้การกำหนดค่าปรับในการเปรียบเทียบ คดีเกี่ยวกับสินค้ายาสูบชนิดบุหรี่ซิกาแรต ในกรณีไม่มีราคาขายปลีกแนะนำตามมาตรา 17 (1) แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560
ดังนั้น อธิบดีกรมสรรพสามิต จึงกำหนดมูลค่าของสินค้ายาสูบชนิดบุหรี่ซิกาแรต คือ 1.ให้ถือมูลค่าของสินค้ายาสูบชนิดบุหรี่ซิกาแรตเป็นเกณฑ์ในการกำหนดค่าปรับ โดยบุหรี่ซิกาแรตขนาดบรรจุซองละ 20 มวน ให้ถือราคาซองละ 80 บาท 2.บุหรี่ซิกาแรตที่บรรจุซองหรือภาชนะอื่นมากกว่าหรือน้อยกว่า 20 มวน ให้ถือราคาที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงตามส่วนของขนาดบรรจุที่กำหนดไว้
อย่างไรก็ตามการกำหนดมูลค่าของสินค้ายาสูบชนิดบุหรี่ซิกาแรต เพื่อถือเป็นเกณฑ์ในการกำหนดค่าปรับ อธิบดีกรมสรรพสามิต จะดำเนินการทบทวนทุกสิ้นปีปฏิทินตั้งแต่สิ้นปีปฏิทิน พ.ศ. 2562 เป็นต้นไปหรือจะทบทวนก่อนสิ้นปีปฏิทิน เมื่อมีเหตุที่ทำให้มูลค่าของสินค้ายาสูบชนิดบุหรี่ซิกาแรตเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ในกรณีที่ปรากฏว่ามูลค่าของสินค้ายาสูบชนิดบุหรี่ซิกาแรตไม่มีการเปลี่ยนแปลง หรือกรณีอยู่ระหว่างการทบทวนและประกาศกำหนดมูลค่าของสินค้ายาสูบชนิดบุหรี่ซิกาแรต เพื่อถือเป็นเกณฑ์ในการกำหนดค่าปรับ ให้ใช้มูลค่าของสินค้ายาสูบชนิดบุหรี่ซิกาแรตตามประกาศฉบับนี้จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าของสินค้าเป็นอย่างอื่น โดยประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป ณ วันที่ 23 พ.ย.2561 ลงนามโดย พชร อนันตศิลป์อธิบดี กรมสรรพสามิต
จากนั้นอธิบดีกรมสรรพสามิตได้แจงรายเอียดประกาศฉบับดังกล่าว โดยระบุว่าเพื่อกำหนดราคาสำหรับบุหรี่เถื่อนที่ลักลอบนำเข้า และมียี่ห้อแปลก ๆ ไม่มีจำหน่ายในเมืองไทย ทำให้ไม่สามารถหาราคาอ้างอิงได้ ทั้งนี้การกำหนดราคาดังกล่าว เพื่อใช้ในการคิดค่าปรับ ดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดเท่านั้น
“กฎหมายสรรพสามิตฉบับเก่า ก็มีกำหนด แต่ตอนนั้น 60 บาท/ซอง แต่เมื่อมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่ จึงต้องออกประกาศใหม่ ส่วนที่กำหนดราคา 80 บาท ก็เป็นไปตามที่ทางเจ้าหน้าที่ได้สำรวจราคาขายปลีกแนะนำมาคิดเฉลี่ยในปัจจุบัน ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือมีผลต่อราคาบุหรี่ที่ขายอยู่ในตลาดทั่วไปเลย”พชรกล่าวย้ำ
ในขณะการปัญหาของชาวไร่ยาสูบ ซึ่งเป็นต้นทางการผลิตมวนยานั้น ก่อนหน้านี้ กฤษณ์ ผาทอง นายกสมาคมผู้บ่ม ผู้เพาะปลูก และผู้ค้าใบยาสูบ จังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะตัวแทนภาคีชาวไร่ยาสูบ ได้เข้าพบเพื่อหารือกับอธิบดีกรมสรรพสามิต"พชร อนันตศิลป์" โดยทางกลุ่มผู้ปลูกใบยาสูบ ได้ขอให้กรมสรรพสามิตช่วยแก้ปัญหาระยะสั้นเกี่ยวกับการรับซื้อใบยาเพิ่มมากขึ้น และปัญหาระยะกลางและยาวเรื่องการเลื่อนการขึ้นอัตราภาษีตามมูลค่าจาก 20% เป็น 40% ที่เริ่ม 1 ต.ค.2562 ออกไปก่อน
ทั้งนี้ในส่วนของมาตรการระยะสั้น ทางกรมสรรพสามิต ยืนยันว่ารัฐบาลจะมีมาตรการชดเชยเงินให้กับเกษตรกรปลูกใบยาสูบเพิ่มเติม โดยจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.)พิจารณาเห็นชอบ เนื่องจากการเพราะปลูกปีนี้ทางการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ได้ลดโควตาการซื้อใบยาสูบจากชาวไร่เหลือ 50% ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก
"ในส่วนของข้อเสนอให้เลื่อนการขึ้นภาษีบุหรี่ออกไปก่อนนั้น ทางอธิบดีกรมสรรพสามิตยืนยันว่า ยังไม่ถึงเวลาที่จะตัดสินใจ เพราะยังมีเวลาเหลืออีกมาก และจะมีการเลือกตั้งใหม่ในต้นปีหน้า ดังนั้นการเสนอให้เลื่อนการขึ้นภาษีบุหรี่ จึงต้องรอเสนอให้รัฐบาลใหม่เป็นผู้ตัดสินใจจะมีความเหมาะสมมากกว่า"กฤษณ์เผย
โดยเขาย้ำว่าการเข้าพบอธิบดีกรมสรรพสามิตในวันนั้นได้รับการยืนยันว่า การเก็บภาษีบุหรี่ยังยึดตามกฎหมายเดิมทุกอย่าง ซึ่งมีการระบุไว้ชัดเจน ทั้งการเก็บภาษีด้วยการแบ่งราคาเป็น 2 กลุ่ม และอัตราภาษีที่ในวันที่ 1 ต.ค.2562 จะต้องเก็บภาษีตามมูลค่าเป็นอัตราเดียวกันที่ 40%
ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตัวแทนภาคีเครือข่ายชาวไร่ยาสูบประเทศไทยจำนวน 80 คน นำโดย สุธี ชวชาติ นายกสมาคมผู้บ่ม ผู้เพาะปลูก และผู้ค้าใบยาสูบ จ.ลำปาง มอบกระเช้าเพื่อแสดงความขอบคุณแกนนำพรรคพลังประชารัฐ"สมศักดิ์ เทพสุทิน" ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐ ที่ได้ช่วยผลักดันงบประมาณช่วยเหลือจำนวน 159 ล้านบาทจากรัฐบาล ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในระยะสั้นจากการที่การยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ที่ลดโควต้ารับซื้อใบยาปีนี้เหลือเพียง 50% ไปได้บ้าง
สงกรานต์ ภักดีจิตร นายกสมาคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เลย์จ.เพชรบูรณ์ และตัวแทนภาคีเครือข่ายชาวไร่ยาสูบเผยว่ามาตรการเงินช่วยเหลือเป็นเพียงการแก้ปัญหาระยะสั้นของฤดูกาลผลิตนี้เท่านั้น สิ่งที่พวกเรายังกังวลคือหากรัฐบาลจะมีการเก็บภาษีบุหรี่เพิ่มอีก 2 บาทเพื่อสมทบกองทุนบัตรทอง จะทำให้ราคาบุหรี่กระโดดขึ้นจาก 60 บาท เป็น 90 บาททันที โควต้ารับซื้อใบยาของ ยสท. คงต้องลดลงไปอีกหรือไม่มีเลย พวกเราก็คงต้องเลิกทำอาชีพยาสูบไปในที่สุด
"ร่างพ.ร.บ.ภาษีบุหรี่บัตรทองนี้ นอกจากจะเป็นการทำร้ายชาวไร่และครอบครัวทั่วประเทศกว่า 2 แสนคนแล้ว ยังมีข้อท้วงติงในหลายเรื่อง เช่น เลือกปฏิบัติเจาะจงเก็บบุหรี่อย่างเดียวโดยไม่เก็บภาษีจากเหล้า-เบียร์ด้วย หากรัฐบาลต้องการช่วยเหลือชาวไร่ยาสูบจริง ๆ ก็ควรยกเลิกความตั้งใจที่จะเก็บภาษีบุหรี่เพิ่ม ซึ่งน่าจะเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดให้กับชาวไร่ยาสูบได้”
ขณะเดียวกันทางตัวแทนภาคีเครือข่ายชาวไร่ยาสูบยังมีความกังวลว่า มาตรการความช่วยเหลือจากรัฐบาลมีความชัดเจนว่าจะเป็นการช่วยเหลือแค่ครั้งเดียว คือ ฤดูกาลปลูกนี้เท่านั้น แต่ฤดูการผลิตหน้าปี ซึ่งจะเป็นปีที่ราคาบุหรี่จะเปลี่ยนแปลง เพราะภาษี 40% จะมีผลและถ้าพ.ร.บ.เก็บเงินสมทบผ่านออกมาบังคับใช้จริง ๆ การยาสูบแห่งประเทศไทยก็จะไม่สามารถรับซื้อใบยาได้อีก เมื่อถึงเวลานั้นชาวไร่คงต้องเลิกปลูกยาและจะไม่ได้รับเงินชดเชยอีกด้วย
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางส่งเสริมการปลูกพืชทดแทนการปลูกยาสูบ หรือสนับสนุนให้เกษตรกรผู้ปลูกยาสูบเปลี่ยนไปประกอบอาชีพอื่นที่เหมาะสม เพื่อเป็นการแก้ปัญหาในระยะยาว ทั้งนี้การแก้ปัญหาความเดือดร้อนระยะสั้นเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบ จะจ่ายเงินช่วยเหลือในอัตราร้อยละ70 ของรายได้ที่หายไป
ตามหนังสือของสำนักเลขาธิการที่ส่งถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่าให้เร่งดำเนินการส่งเสริมการปลูกพืชทดแทนให้แล้วเสร็จก่อนที่จะเริ่มฤดูกาลผลิตในปี2562/2563 นั่นหมายถึงว่าจะไม่มีการจ่ายเงินชดเชยกรณีโดนลดโควตาในปีต่อ ๆ ไป
ด้าน วราภรณ์ นะมาตร์ ผู้อำนวยการบริหารสมาคมการค้ายาสูบไทยยังยืนยันว่าไม่อยากให้รัฐการออกมาตรการใหม่ ๆ มาแก้ปัญหาภาษีบุหรี่ที่กลายมาเป็นสร้างภาระให้ร้านค้าคนหาเช้ากินค่ำ ร้านค้าเล็ก ๆ ส่วนใหญ่ขายบุหรี่ได้เพียงวันละ 5-10 ซอง ถ้าตลาดต้องเจอความผันผวนอีกระลอก นอกจากจะขายของกันลำบากแล้วยังเปิดโอกาสให้มีการกักตุนหรือเก็งกำไรกันอีกด้วย
"มาตรการนี้ออกมาไม่ได้มีผลกระทบต่อร้านค้าทั่วไปแต่อย่างใด ตราบใดที่รัฐไม่ขึ้นภาษีบุหรี่ แต่จะมีผลดีแก่ร้านค้าที่อยู่ตามแนวชายแดนหรือจังหวัดที่มีการกระจายของบุหรี่เถื่อนเยอะๆมากกว่า"วราภรณ์ให้มุมมองทิ้งท้าย
เงินช่วยเหลือจากปริมาณโควตาผลิตใบยาลดลงจากฤดูผลิตปี2560/2561)
สายพันธุ์ จำนวนโควตาที่ลดลง เงินช่วยเหลือ(ต่อกก.) รวม(ล้านบาท)
ใบยาสูบเวอร์จิเนีย 4.36 17.5 76.3
ใบยาสูบเบอร์เลย์ 5.27 9.8 51.65
ใบยาสูบเตอร์กิช 2.26 14 31.64
รวมทั้งสิ้น 159.59
ข่าวที่เกี่ยวข้อง