ข่าว

 ทีซีพี รุกตลาด"ซีแอลเอ็มวี" ส่ง"วอริเออร์"ลุยเวียดนาม     

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 ทีซีพี รุกตลาด"ซีแอลเอ็มวี" ส่ง"วอริเออร์"ลุยเวียดนาม           

 

             หมายมั่นปั้นมือยกระดับธุรกิจของบริษัทไทยให้ยิ่งใหญ่บนเวทีโลกในอีก 5 ปีข้างหน้าสำหรับกลุ่มธุรกิจทีซีพี (TCP) ประกอบด้วยบริษัท ที.ซี. ฟาร์มาซูติคอล อุตสาหกรรม จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าของกลุ่มบริษัทเครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด รับผิดชอบในการทำตลาดและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกลุ่มบริษัท ที.จี. เวนดิ้ง แอนด์ โชว์เคส อินดัสทรีส์ จำกัด เป็นเจ้าของและบริหารจัดการตู้จำหน่ายเครื่องดื่มอัตโนมัติสำหรับผลิตภัณฑ์ของกลุ่มและแบรนด์อื่นๆ และบริษัท เดอเบล จำกัด ดูแลการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกลุ่มและแบรนด์อื่นๆ ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจทีซีพี มีพนักงานกว่า 5,000 คนในประเทศไทยและทั่วโลก

                เป็นคำยืนยันของบอสใหญ่ “สราวุธ อยู่วิทยา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจทีซีพีกับคณะสื่อมวลชนไทยในพิธีเปิดสำนักงานแห่งแรกในต่างประเทศ ณ นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม โดยวางเป้าเพิ่มลงทุนใน บริษัท TCPVN อีก 4,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปีเพื่อเสริมแกร่งด้านการตลาด การจัดจำหน่าย การวิจัยและพัฒนา (R&D) โดยตั้งเป้า 3 ปีข้างหน้าที่หวังยอดขายเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว หลังประสบความสำเร็จในการส่งผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มชูกำลังตัวใหม่ “วอริเออร์ (Warrior” ลงสู่ตลาดเมื่อปี 2558 ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากคนเวียดนามอย่างดียิ่ง ซึ่งการเปิดสำนักงานที่เวียดนามนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนธุรกิจ 5 ปี ที่ได้ประกาศไว้เมื่อปี 2560 ที่มุ่งสร้างยอดขายของกลุ่มโตขึ้น 3 เท่าเป็น 100,000 ล้านบาท 

                   “วอริเออร์เพิ่งเข้าทำตลาดที่เวียดนามได้เพียง 3 ปี ปรากฏว่ามีการเติบโต 100% ทุกปี ตอนนี้วอริเออร์ขึ้นมาอยู่อันดับ 5 ส่วนอันดับ 1 ยังคงเป็นกระทิงแดง หรือเรดบูล เราจึงภูมิใจกับผลิตภัณฑ์ตัวนี้มาก ส่วนหนึ่งคนเวียดนามให้การยอมรับผลิตภัณฑ์ที่มาจากประเทศไทยอยู่แล้ว การทำตลาดของเราจะไม่เน้นกลยุทธ์ทั่วๆ ไปการลดแลกแจกแถม แต่เรามุ่งไปที่ตัวกลุ่มผู้บริโภคมากกว่า ของเราใช่ว่าจะราคาถูก แพงกว่าเจ้าอื่นด้วยซ้ำ แต่ก็ยังได้รับความนิยมจากคนเวียดนาม”            

                   สราวุธยอมรับว่าเครื่องดื่มชูกำลังอัดลมแบรนด์ “วอริเออร์” เป็นความภูมิใจของเรา และทีมงานตลาดต่างประเทศทุกคน เพราะถือว่าเป็นแบรนด์ใหม่ที่คนไทยสร้างขึ้นมาเพื่อตลาดเวียดนาม ที่สามารถฝ่าฟันเอาชนะการแข่งขันที่รุนแรงของตลาดเครื่องดื่มพร้อมดื่มในตลาดได้ วอริเออร์ถือเป็นผลงานชิ้นโบแดงของทีมงานวิจัยตลาดที่เข้าถึงพฤติกรรมการบริโภคของคนเวียดนามอย่างลึกซึ้ง โดยเมื่อ 5 ปีที่แล้วเราพบว่ายังมีผู้บริโภคชาวเวียดนามที่ต้องการดื่มเครื่องดื่มชูกำลังที่ยังคงให้ความรู้สึกเหมือนดื่มน้ำอัดลม  จึงได้วิจัยและพัฒนาจนออกมาเป็นเครื่องดื่มชูกำลังอัดลมแบรนด์วอริเออร์ และได้นำออกมาวางจำหน่ายในปี 2558 ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี มียอดขายเติบโตต่อเนื่องทุกปี โดยคาดว่ายอดขาย ณ สิ้นปี 2561 จะเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึงเท่าตัว  

                      เขาให้เหตุผลในการทำตลาดเครื่องดื่มชูกำลังที่ประเทศเวียดนาม โดยประกาศแผนธุรกิจ 3 ปีของทีซีพี ในเวียดนามหรือบริษัท TCPVN จำกัด  ด้วยการลงทุนเพิ่ม 4,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มศักยภาพให้ TCPVN ว่ามีสาเหตุมาจาก  3 ส่วนหลัก คือ การเสริมสร้างขีดความสามารถของทีมงานวิจัยตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น การบริหารจัดการด้านการตลาดและการขายด้วยทีมงานมืออาชีพระดับโลก และการบริหารจัดการช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมและทันสมัย  โดยคาดว่าส่วนแบ่งการตลาดของทุกแบรนด์ในเวียดนามจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% และมีผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างน้อย 1 แบรนด์ออกจำหน่าย ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มชูกำลังอย่างแท้จริง 

                    นอกจากนี้ TCPVN ยังมีบทบาทในการบริหารจัดการด้านการตลาดและการขาย ด้วยทีมงานการตลาดมืออาชีพซึ่งเป็นคนเวียดนามที่มีประสบการณ์การทำงานกับบริษัทระดับนานาชาติ โดยจะทำงานผสานกับทีมบริหารของ ทีซีพี กรุ๊ป ที่เคยผ่านการทำงานระดับโลก เพื่อนำเอาทักษะที่ได้เรียนรู้มาปรับใช้ในการสร้างความเจริญให้บริษัทของคนไทยและแบรนด์ไทย ทักษะเหล่านี้เมื่อผสานเข้ากับผลงานยอดเยี่ยมของทีมงาน TCPVN ก็จะยิ่งช่วยเสริมสร้างให้ระบบการทำงานด้านการตลาดมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น 

                     “การเปิดบริษัท TCPVN ขึ้นที่เวียดนามนี้ เป็นบทพิสูจน์ความมุ่งมั่นของกลุ่มธุรกิจทีซีพี ที่ต้องการเป็นองค์กรธุรกิจที่สามารถนำความภาคภูมิใจมาสู่ประเทศไทยในเวทีโลก ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มที่เป็นแบรนด์ไทยที่สร้างชื่อเสียง และได้รับการยอมรับในระดับโลกเราหวังว่า TCPVN จะมีส่วนช่วยพัฒนาและผลักดันให้มูลค่าตลาดรวมของเครื่องดื่มพร้อมดื่มในเวียดนามสูงขึ้นเป็นอันดับที่สอง หรือใกล้เคียงกับตลาดน้ำอัดลม" สราวุฒิ กล่าวย้ำอย่างมั่นใจ            

                    วัสนัย กฤษอร่ามเรือง ผู้อำนวยการสายงานธุรกิจต่างประเทศ กลุ่มธุรกิจทีซีพี กล่าวเสริมว่า บริษัท TCPVN จำกัด เป็นบริษัทแรกในต่างประเทศที่กลุ่มธุรกิจทีซีพี ถือหุ้น 100% โดยจะเป็นบริษัทที่มีบทบาทสำคัญในการร่วมกำหนดทิศทางการเติบโต และการขยายตลาดในเวียดนาม การเลือกมาเปิดสำนักงานที่เวียดนามเพราะเป็นตลาดที่ใหญ่ มีศักยภาพสูง และมีโอกาสที่ตลาดเครื่องดื่มพร้อมดื่มจะเติบโตอีกมาก เนื่องจากไลฟ์สไตล์ของคนเวียดนามจะนิยมบริโภคเครื่องดื่มชูกำลังเพื่อใช้ในการดับกระหาย รวมถึงใช้บริโภคควบคู่ไปพร้อมกับมื้ออาหาร ซึ่งเป็นวัฒนธรรมการบริโภคของคนที่ทำงานหนัก และต้องการพลังงานจากเครื่องดื่มชูกำลังมาช่วยเสริม

                    “ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังของเวียดนาม มีศักยภาพที่จะเติบโตต่อเนื่องโดยปัจจุบันในภูมิภาคเอเชียเวียดนามเป็นที่สองรองจากประเทศจีนเท่านั้น ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มธุรกิจทีซีพี ที่มีจำหน่ายอยู่แล้วมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องกว่า 25% ซึ่งเป็นการเติบโตที่มากกว่าตลาดรวม ที่สำคัญตลาดเวียดนามจะให้ความไว้วางใจกับสินค้าที่มีคุณภาพ ซึ่งผลิตภัณฑ์ของเราเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกทั้งในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม พรีเมียม ซึ่งสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันให้กลุ่มธุรกิจทีซีพี ในการนำผลิตภัณฑ์คุณภาพอื่นๆ เข้าสู่ตลาดเวียดนาม”  

                     สำหรับยอดขายสินค้าของกลุ่มธุรกิจทีซีพี ในตลาดเวียดนาม คาดว่าถึงสิ้นปีนี้จะมียอดขายรวมประมาณ 10,000 ล้านบาท และมีส่วนแบ่งการตลาดรวมทุกแบรนด์ในตลาดเครื่องดื่มชูกำลังราว 42% อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์และแบรนด์ของกลุ่มธุรกิจทีซีพี ที่มีจำหน่ายในประเทศไทยและทั่วโลก ประกอบด้วย 6 กลุ่มผลิตภัณฑ์ รวม 8 แบรนด์ ได้แก่ กลุ่มเครื่องดื่มชูกำลัง ประกอบด้วย กระทิงแดง เรดดี้ โสมพลัส และวอริเออร์ กลุ่มเครื่องดื่มเกลือแร่  คือ สปอนเซอร์ กลุ่มเครื่องดื่มฟังก์ชันนัล ดริ้งก์ คือ แมนซั่ม กลุ่มเครื่องดื่มชาพร้อมดื่ม คือ เพียวริคุ ผลิตภัณฑ์เมล็ดทานตะวัน คือ ซันสแนค และกลุ่มหัวเชื้อเครื่องดื่ม คือ เรดบูลรสดั้งเดิม

                    นอกจากนี้กลุ่มธุรกิจทีซีพี ยังผนึกความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ขับเคลื่อนองค์กรสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนใน 3 มิติคือพันธมิตรธุรกิจยั่งยืนและองค์กรธรรมาภิบาล คุณภาพสินค้าและบริการและคุณภาพชีวิตบุคลากร  และรักษ์สิ่งแวดล้อม และชุมชนยั่งยืน ซึ่งเป้าหมายเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนนี้ เพื่อมุ่งยกระดับกลุ่มธุรกิจทีซีพีเป็นหนึ่งใน “บริษัทคนไทยที่ได้รับการชื่นชมที่สุด”   

 

  ข้อมูลเปรียบเทียบตลาดเครื่องดื่มไทย-เวียดนาม 

 

ข้อมูล                                ประเทศเวียดนาม                         ประเทศไทย

 จำนวนประชากร                      96 ล้านคน                              69 ล้านคน

 ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GDP)

- 2560 

- 2561 (เติบโตประมาณ)              223.9 พันล้าน(ดอลลาร์สหรัฐ) 6.8%       455.2 พันล้าน (ดอลลาร์สหรัฐ) 3.9%

ตลาดเครื่องดื่มพร้อมดื่ม (RTD)

- มูลค่าตลาดรวม                      1 แสนล้านบาท                          2.3 แสนล้านบาท*

ตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง (Energy Drink)

- มูลค่าตลาดรวม

- อัตราการเติบโต                     25,000 ล้านบาท  6%                     23,000 ล้านบาท  คงที่

*รวบรวมข้อมูลโดยกลุ่มธุรกิจ TCP

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ