ข่าว

"มกอช."บรรลุเป้าเวทีโลกเจรจาสุขอนามัยพืชสำเร็จ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"มกอช."บรรลุเป้าเวทีโลกเจรจาด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช (SPS) สำเร็จรอ RCEP ประกาศบังคับใช้ ยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารไทยสู่ตลาดโลก

 

           20 พฤศจิกายน 2561 นางสาวจูอะดี พงศ์มณีรัตน์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เปิดเผยว่า  มกอช. เป็นหน่วยงานหลักของไทยในการเจรจาด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช  

 

 

           (Sanitary and Phytosanitary Measures: SPS) ซึ่งได้พยายามผลักดันและได้เข้าร่วมการเจรจา เพื่อจัดทำข้อตกลงด้าน SPS ภายใต้การเจรจาความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership) หรือ RCEP มาโดยตลอดระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2556 จนกระทั่งการประชุมจัดทำข้อตกลงด้าน SPS ภายใต้ RCEP ครั้งที่ 24  เมื่อเดือน ตุลาคม 2561 ล่าสุด ได้บรรลุข้อตกลงสามารถหาข้อสรุปและบรรลุผลการเจรจาร่วมกันได้แล้ว

 

"มกอช."บรรลุเป้าเวทีโลกเจรจาสุขอนามัยพืชสำเร็จ  

 

           ความตกลง RCEP ถือเป็นกรอบความตกลงทางเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ ประกอบด้วยประเทศสมาชิก 16 ประเทศ ได้แก่ ประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ และประเทศคู่เจรจา  6 ประเทศ คือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ รวมจำนวนประชากรมากกว่า 3,400 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 50 ของประชากรโลก มีมูลค่าการค้ารวมกันสูงถึง 10.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 340 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 29 ของการค้าโลก ซึ่งทุกประเทศคาดหวังว่ากรอบ RCEP จะทำให้ประเทศสมาชิกได้รับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกันมากที่สุด ครอบคลุมทั้งการขยายตลาดการค้าสินค้า บริการ และส่งเสริมการลงทุน รวมทั้งลดอุปสรรคทางการค้าให้มากกว่าความตกลงอื่นที่มีอยู่เดิม

 

"มกอช."บรรลุเป้าเวทีโลกเจรจาสุขอนามัยพืชสำเร็จ

 

           ข้อตกลงด้าน SPS ฉบับนี้ จะช่วยอำนวยความสะดวก และลดอุปสรรคทางการค้าสินค้าเกษตรและอาหารให้ มีกลไกการแลกเปลี่ยนข้อมูลและการดำเนินการด้าน SPS ระหว่างประเทศสมาชิก กำหนดกรอบระยะเวลาการในดำเนินการที่เหมาะสม สำหรับการแก้ไขปัญหาและอำนวยความสะดวกด้านมาตรการด้าน SPS  ส่งเสริมความร่วมมือด้าน SPS อันจะช่วยยกระดับคุณภาพมาตรฐานของสินค้าเกษตรและอาหารของไทยและประเทศสมาชิก  RCEP เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก

 

"มกอช."บรรลุเป้าเวทีโลกเจรจาสุขอนามัยพืชสำเร็จ

 

           “ หากความตกลง RCEP มีผลบังคับใช้แล้ว จะทำให้อาเซียนเป็นศูนย์กลางของตลาดการค้าสินค้าเกษตร และเป็นโอกาสของไทยที่จะสามารถส่งออกสินค้าเกษตรไปยังประเทศสมาชิก RCEP ได้มากขึ้น รวมทั้งช่วยยกระดับคุณภาพมาตรฐานของสินค้าเกษตรและอาหารของไทยเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าน้ำตาล อาหารแปรรูป มันสำปะหลัง กุ้ง และข้าว ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าเกษตรและอาหารส่งออกที่สำคัญของไทย อันจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร ตลอดจนผู้ผลิตและผู้ส่งออกไทยได้มากขึ้น ” เลขาธิการกล่าว

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ