"ไอคอนสยาม" แลนด์มาร์คโลก ปลุกเชื่อมั่นประเทศไทย

เปิดประตูอภิมหาโครงการ “ไอคอนสยาม” เมืองแห่งความรุ่งโรจน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โชว์ศักยภาพ "คนไทย-ทุนไทย" ปักหมุดโกลบอลเดสทิเนชั่น พร้อมเดินเครื่องปลุกกำลังซื้อไฮซีซัน ส่งทัพไอคอนิคสโตร์ลักชัวรีกว่า 7 พันแบรนด์ในคอนเซปต์ใหม่-สินค้าเฉพาะ อัดฉีดโปรโมชั่นยาวข้ามปีลุ้นรางวัลรวมมูลค่ากว่า 20 ล้าน ทุ่มหนักวันแรกช้อป 1 หมื่นรับคืนสูงสุด 2 หมื่น

วานนี้ (9 พ.ย.) เมืองไอคอนสยาม มูลค่า 54,000 ล้านบาท เปิดประตูอภิมหาโครงการเมืองแห่งการใช้ชีวิตสู่โลกอนาคต และสัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์ของไทยริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ประกอบไปด้วยอาณาจักรศูนย์การค้าแห่งยุค 2 อาคาร คอนโดมิเนียมหรู 2 อาคาร และ 7 สิ่งมหัศจรรย์ของไอคอนสยาม จารึกเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ภายใต้การพลิกโฉมพัฒนาโครงการที่เป็นจุดหมายปลายทางที่ยิ่งใหญ่ ปักหมุดเป็นหนึ่งในเดสทิเนชั่นระดับโลก ด้วยคอนเซปต์ “Creating Shared Value” หรือการสร้างประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย และ “Co-Creation” หรือการร่วมกันรังสรรค์อย่างเป็นรูปธรรมเต็มรูปแบบ เรียกว่าเป็นโครงการที่ “สิ่งที่ดีที่สุดของไทยมาบรรจบกับสิ่งที่ดีที่สุดของโลก” โดยจัดงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ร่วมกันสร้างปรากฏการณ์บนแม่น้ำเจ้าพระยา ภายใต้ธีม “Legendary Party” เพื่อดึงดูดทุกสายตาทั่วโลกให้หันมามองไทย

โดยงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการมีกองทัพสื่อไทยและต่างชาติเข้าร่วมชมโครงการกว่า 600 คน รวมทั้งแขกวีไอพีทั่วฟ้าเมืองไทยร่วมงานมหาปรากฏการณ์งานเปิดเมืองไอคอนสยามกว่า 30,000 คน

นางชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า ไอคอนสยาม คือเมืองที่เป็นศูนย์รวมของความมหัศจรรย์หลากหลาย ทั้งศิลปะและวัฒนธรรม ผสมผสานการชอปปิงและความบันเทิง โดยการผนึกกำลังพันธมิตรองค์กรธุรกิจทั้งใหญ่และเล็กทุกขนาดและหลากหลายรูปแบบธุรกิจ รวมถึงผู้คนจำนวนมากจากหลายสาขาอาชีพที่ต้องการมีส่วนร่วมสร้างสถานที่ที่บอกเล่าหลากหลายเรื่องราวของความภาคภูมิใจในความเป็นไทย ผสานสิ่งที่ดีในมิติต่างๆ จากทุกมุมโลก สู่สัญลักษณ์ใหม่ให้เป็นตัวแทนจินตนาการแห่งยุค

สืบทอดความงามชนรุ่นหลัง

นับเป็นแนวคิดการทำธุรกิจในโลกยุคใหม่ที่มุ่งเน้นการสานประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย เพื่อเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน สืบทอดและส่งต่อความงดงามสู่ชนรุ่นหลัง อีกทั้งให้คนทั่วโลกที่มาเยือนรู้สึกหลงรักและประทับใจประเทศไทยมากยิ่งขึ้น

"ไอคอนสยามได้ทำให้เกิดขึ้นจริงแล้ว ในสเกลที่ไม่เคยเกิดขึ้นที่ใดมาก่อนในโลก โครงการนี้จะทำให้คนไทยทุกคนรู้สึกโชคดีที่เกิดเป็นคนไทย ให้ต่างชาติตกหลุมรักประเทศไทยไปตราบนานเท่านาน” นางชฎาทิพ กล่าวย้ำ

อีกสิ่งหนึ่งที่น่าภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนไทยและถือเป็นปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่ก็คือการที่ผู้ประกอบการร้านค้าแฟชั่นแบรนด์และลักชัวรีแบรนด์ชื่อดังระดับโลกมีความเชื่อมั่นและมองเห็นคุณค่าความดีงามของความเป็นไทย จึงได้เข้าร่วมผนึกกำลังกับไอคอนสยาม ด้วยการคิดนอกกรอบและทำงานร่วมกับศิลปินไทยสร้างสรรค์ผลงานมาสเตอร์พีซ ดีเดย์ความพร้อม 80%

สำหรับการเปิดบริการเมืองไอคอนสยามมีความพร้อม 80% ของพื้นที่ชั้น จี ถึงชั้น 5 โดยวันที่ 1 ธ.ค.จะเปิดบริการชั้น 6 โซนพื้นที่อาหารในชื่อ “อลังการ” ภายใต้คอนเซปต์ร้านอาหารบนนาข้าว นอกจากนี้ยังมีประติมากรรมชิ้นใหญ่ น้ำตกสูง 17 เมตร สะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ในน้ำมีปลาในนามีข้าวของเมืองไทย

ภายหลังจากนี้องค์ประกอบแห่งความมหัศจรรย์ต่างๆ จะทยอยเปิดบริการต่อเนื่อง ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีทอง กำหนดเปิดบริการราวไตรมาส 3 ปี 2562 ทรูไอคอนฮอลล์ ศูนย์ประชุมระดับโลกครั้งแรกของไทยรองรับการประชุมนานาชาติ เช่น การประชุมเอเปค มิวสิคัลโชว์ เปิดบริการเดือน ก.ค.2562 รวมทั้ง ริเวอร์ มิวเซียม พื้นที่ 7,000 ตร.ม. ฟิตเนสขนาดใหญ่สุดในไทย 4,000 ตร.ม.โดยฟิตเนสเฟิร์ส

ธุรกิจเอื้อประโยชน์สังคม

นอกจากนี้ภายในองค์ประกอบของ 7 สิ่งมหัศจรรย์เมืองไอคอนสยาม อาทิ ริเวอร์พาร์ค-คอมมูนิตี้สเปซขนาดใหญ่ 10,000 ตร.ม. ริมน้ำ เปิดให้สาธารณชนเข้ามาใช้ประโยชน์ได้ทุกวัน เป็นการเอื้อประโยชน์กับผู้คนในชุมชนโดยรอบและผู้คนจากที่ต่างๆ ที่รักและชื่นชอบบรรยากาศแม่น้ำเจ้าพระยา

สุขสยาม-เมืองมหัศจรรย์ที่เป็น Co-Creation Space ครั้งแรกในไทยกับการผนึกกำลังสร้างสรรค์จากชุมชนท้องถิ่น 77 จังหวัดทั่วประเทศ ร่วมสร้างแพลตฟอร์มธุรกิจ และพื้นที่เชิงวัฒนธรรมโดยสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งของผู้ประกอบการรายย่อยจากชุมชนระดับท้องถิ่นจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ

ปรากฏการณ์รวมโลกในรอยไทย-รวมผลงานอันยอดเยี่ยมของศิลปินทุกแขนงกว่า 100 คน ตั้งแต่ศิลปินท้องถิ่นจากทุกภาคของไทย ไปจนถึงศิลปินแห่งชาติ รวมทั้งศิลปินระดับโลกจากหลายประเทศ มาร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอกเพื่อไอคอนสยามโดยเฉพาะ

เปิดตัวแม่เหล็ก “ครั้งแรก” ในไทย

นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า ไอคอนสยามยังมีความมหัศจรรย์จากความเป็น “ที่สุด” และ “ครั้งแรก” ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในไทยจำนวนมาก โดยแบรนด์หรูหราระดับโลกจำนวนหนึ่งจะตั้งอยู่ในอาคารไอคอนลักซ์ (ICONLUXE) พื้นที่ 25,000 ตร.ม. ติดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นอาคารอาณาจักรศูนย์การค้าที่มีสัญลักษณ์แห่งความวิจิตรตระการตา โดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมือนที่ใดในโลก โดยจะเป็นอาคารกระจกโครงสร้างไร้เสาที่ยาวที่สุดในโลก รูปทรงคล้ายกระทงแก้ว สร้างสรรค์ขึ้นอย่างวิจิตรงดงามให้เป็นสัญลักษณ์ใหม่บนแม่น้ำเจ้าพระยา และการรวบรวมสุดยอดแบรนด์ลักชัวรีชื่อดังจากทั่วโลกมาเนรมิตร้านแฟลกชิฟสโตร์ในรูปแบบ Global ICONIC Store ครั้งแรกในไทย ซึ่งรวมถึงคอนเซปต์ Icons within Icon ให้ลักชัวรีแบรนด์มีคฤหาสน์ของตนเองในรูปแบบ Duplex Mansion อยู่ภายในอาคารไอคอนลักซ์ นอกจากนั้น ยังเป็นครั้งแรกของแบรนด์ชื่อดังระดับแนวหน้าของโลกและของไทยกว่า 7,000 แบรนด์ ที่มาพร้อมคอนเซปต์ใหม่ นำเสนอสินค้าพิเศษเฉพาะที่ไอคอนสยามเท่านั้น

พร้อมกันนี้ ทาคาชิมายะ ห้างสรรพสินค้าระดับตำนานที่ได้รับการยอมรับอย่างสูงจากญี่ปุ่น เปิดสาขาแรกในไทย “สยาม ทาคาชิมายะ”บนพื้นที่ 36,000 ตร.ม. มีสินค้าหลากหลายกว่า 500 แบรนด์ ในจำนวนนี้เป็นแบรนด์ญี่ปุ่นชื่อดัง 180 แบรนด์ และมีกว่า 80 แบรนด์ เข้ามาจำหน่ายในไทยเป็นครั้งแรก

นอกจากนี้ ยังมี “Apple Store” แห่งแรกในไทย ซึ่งจะเป็นจุดศูนย์รวมให้ผู้คนมาแลกเปลี่ยนความคิด เรียนรู้ และสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ไปด้วยกัน และจะเป็นที่ที่สร้างแรงบันดาลใจและจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ให้กับคนในชุมชน เป็นต้น

ระดมโปรโมชั่นกระตุ้นซื้อ

ไอคอนสยามยังจัดรายการโปรโมชั่น ตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย.2561- 20 ม.ค.2562 ทุกการช้อปจะได้รับของรางวัลมากมาย รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท อาทิ ช้อปครบ 5,000 บาทขึ้นไป รับเคสโทรศัพท์มือถือลายพิเศษ ครบ 20,000 บาท รับสยามกิ๊ฟการ์ด 500 บาท ไปจนถึงช้อปครบ 1 ล้านบาท รับสยามกิ๊ฟการ์ด มูลค่า 50,000 บาท

เฉพาะวันแรกของประชาชนที่เข้าใช้บริการ 10 พ.ย. ช้อปครบ 10,000 บาท รับสยามกิ๊ฟการ์ดมูลค่าสูงสุด 10,000 บาททันที และหากชำระผ่านบัตรเครดิตวันสยาม-กสิกรไทย ด้วย จะได้รับ เครดิตเงินคืน สูงสุด 10,000 บาทเพิ่มอีก รวมรับคืนสูงสุด 20,000 บาท

นอกจากนั้น ยังมีโปรโมชั่นอื่นๆ อีกมากมายร่วมกับบัตรเครดิตและพันธมิตรต่างๆ ได้แก่ บัตรเครดิตวันสยาม-กสิกรไทย บัตรเครดิตกสิกรไทย บัตรเครดิตไทยพาณิชย์ บัตรเครดิตซิตี้ บัตรเครดิตธนาคารออมสิน บัตรเครดิตกรุงศรี ทรูยู และทรูมันนี่

ทุบสถิติเพนท์เฮ้าส์ 460 ล้าน

นายวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC)ผู้พัฒนาโครงการที่พักอาศัยสุดหรู 2 อาคาร ภายในโครงการไอคอนสยาม กล่าวว่า แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟร้อนท์ เรสซิเดนซ์ เป็นคอนโดมิเนียมที่พักอาศัยระดับหรูหราริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา สูง 70 ชั้น จำนวน 379 ยูนิต ขณะนี้เสร็จสมบูรณ์ไปแล้วกว่า 90% และ เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นโครงการที่พักอาศัยระดับซูเปอร์ลักชัวรีแบรนด์ “แมนดาริน โอเรียนเต็ล” แห่งแรกในอาเซียน และแห่งที่ 14 ของโลกความสูง 52 ชั้น จำนวน 146 ยูนิต ขณะนี้เสร็จสมบูรณ์ไปแล้วกว่า 85%

ทั้ง 2 โครงการได้สร้างปรากฏการณ์ความสำเร็จในวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทย ในฐานะโครงการที่พักอาศัยที่มีมาตรฐานเทียบชั้นโครงการที่พักอาศัยที่ดีที่สุดในต่างประเทศ เทียบเท่าที่พักอาศัยในมหานครชั้นนำอย่างนิวยอร์ก ลอนดอน โตเกียว และเซี่ยงไฮ้ พร้อมสร้างสถิติใหม่เป็นโครงการที่พักอาศัยริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีราคาสูงที่สุดคุ้มค่ากับการลงทุนและอยู่อาศัย โดยมีราคาเริ่มต้น 85 ล้านบาท สำหรับคอนโด 2 ห้องนอน และห้องเพนท์เฮ้าส์ โดยห้องชุดที่ใหญ่ที่สุดมีพื้นที่ใช้สอยรวม 707 ตร.ม. ซึ่งมีราคาราวๆ 460 ล้านบาท

สำหรับ ไอคอนสยามพัฒนาโดย 3 กลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ของไทย คือ สยามพิวรรธน์เจ้าของและผู้บริหารศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ สยามพารากอน และสยามดิสคัฟเวอรี่ แมกโนเลียควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น (MQDC)เจ้าของและผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยและโครงการมิกซ์ยูสระดับลักชัวรี และเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) บริษัทชั้นนำของไทยที่มีการลงทุนในระดับโลก