"มกอช."จับมือ"เยอรมนี"เสริมความรู้สุขอนามัยพืช SPSติดอาวุธให้เจ้าหน้าที่เกษตรฯ ลดปัญหาอุปสรรคการนำเข้า-ส่งออกสินค้าเกษตรไทย
1 พฤศจิกายน 2561 สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) จัดสัมมนาให้ความรู้ด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช (SPS) ให้กับเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตร กรมการข้าว กรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ และสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.)
ซึ่งทำหน้าที่รับผิดชอบการควบคุมการผลิต ส่งออก และนำเข้าสินค้าพืช ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ในหัวข้อเรื่อง “ รู้เรื่องนำเข้า และส่งออกสินค้าพืชอย่างเข้าใจ นำไปใช้ได้อย่าง รู้จริง ” เพื่อนำไปใช้ในการให้ความรู้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการ ทั้งในส่วนของผู้ผลิต ผู้นำเข้า และ ผู้ส่งออก รวมถึงนำไปใช้ประกอบการเจรจาเปิดตลาดสินค้าเกษตรกับประเทศคู่ค้า ซึ่งมีนางพจมาน วงษ์สง่า Senior Regional Manager ASEAN Sustainable Agrifood Systems (ASEAN SAS) ผู้แทน GIZ ร่วมสัมมนา นายวิทวัสก์ สาระศาลิน ผู้อำนวยการกองนโยบายมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหาร ร่วมด้วย
นางสาวจูอะดี พงศ์มณีรัตน์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กำหนดแนวทาง กฎระเบียบ และมาตรการ การนำเข้าและส่งออกสินค้าเกษตรให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์สากล ตามมาตรการด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช SPS ซึ่งเป็นมาตรการที่มีรายละเอียดด้านเทคนิคสูง และต้องใช้พื้นฐานความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาก จึงมีความจำเป็นต้องให้ความรู้ความเข้าใจ แก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
มกอช. จึงได้หารือกับองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมนี (Deutsche Gesellschaft für Internationale Zusammenarbeit;GIZ) ถึงการจัดสัมมนาครั้งนี้ ซึ่ง GIZ เป็นองค์กรที่อยู่ระหว่างการดำเนินโครงการ Facilitating Trade for Agricultural Goods in ASEAN (FTAG) เพื่อศึกษาปัญหาและอุปสรรคในการค้าสินค้าพืชระหว่างประเทศไทย ราชอาณาจักรกัมพูชา และสาธารณสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่งได้รับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลเยอรมนี
ทั้งนี้เพื่อให้ความรู้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ กฎระเบียบ มาตรการ และขั้นตอนการนำเข้าสินค้าพืชของไทย ตลอดจนหลักเกณฑ์และขั้นตอนการเปิดตลาดส่งออกสินค้าพืชไปยังต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการวิเคราะห์ความเสี่ยงศัตรูพืช วิธีการกำจัดศัตรูพืช การออกใบรับรองสุขอนามัยพืช เป็นต้น อันเป็นแนวทางในการควบคุมการผลิต ส่งออก และนำเข้าสินค้าเกษตรของไทยต่อไป
เลขาธิการกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันองค์การการค้าโลก (WTO) กำหนดให้มาตรการด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช (SPS) เป็นแนวทางให้ทุกประเทศ ต้องกำหนดและปฏิบัติตามมาตรการด้านสุขอนามัยพืช เพื่อคุ้มครองชีวิตพืช สัตว์ และมนุษย์ ให้ปลอดภัยจากโรคระบาดและภัยคุกคามจากต่างถิ่น เนื่องจากการหลั่งไหลเข้ามาของสินค้าจากต่างถิ่น โดยเฉพาะสินค้าผักละผลไม้ล้วนมีความเสี่ยงต่อการนำแมลงศัตรูพืช และโรคพืชเข้ามาแพร่กระจายภายในประเทศ ซึ่งทำให้หลายประเทศต้องประสบกับปัญหาภัยคุกคามจากศัตรูพืชต่างถิ่น ทำความเสียหายแก่พืชผลทางการเกษตรและระบบนิเวศโดยรวม ก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจในวงกว้างจึงส่งผลให้สินค้าผักและผลไม้ จึงเป็นสินค้าที่มีหลักเกณฑ์ในการนำเข้าและส่งออกที่เข้มงวด
นางพจมาน วงษ์สง่า Senior Regional Manager ASEAN Sustainable Agrifood Systems (ASEAN SAS) ผู้แทน GIZ กล่าวว่า องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมันหรือ GIZ ดำเนินงานในนามของกระทรวงต่างๆ ภายใต้รัฐบาลเยอรมัน รวมทั้งภาครัฐและเอกชน และองค์กรนานาชาติ GIZ ดำเนินการอยู่ในกว่า 130 ประเทศทั่วโลก มีความเชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ รวมทั้งด้านการเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในด้านการพัฒนาเสริมสร้างศักยภาพให้กับกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ รวมทั้งเกษตรกร
สำหรับประเทศไทย GIZ เป็นภาคีร่วมในการดำเนินโครงการ”อำนวยความสะดวกด้านการค้าสินค้าเกษตรในภูมิภาคอาเซียน (Facilitating Trade for Agriculture Goods in ASEAN)” หรือ FTAG ซึ่งได้ดำเนินงานเพื่อส่งเสริมการเคลื่อนย้ายสินค้าอย่างเสรีและเพิ่มการค้าขายระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน ในการอำนวยความสะดวกทางการค้าสินค้าเกษตรจำพวกผักและผลไม้สด ซึ่งจะเน้นสินค้าที่ทำการค้าระหว่าง ประเทศกัมพูชา ไทย และเวียดนาม
ทั้งนี้ได้แก่ มะม่วง ลำไย ลิ้นจี่ แก้วมังกร กล้วย และพริก เน้นถึงความปลอดภัยของอาหารและสุขอนามัยพืชเป็นหลัก (PS and Food safety) ในการนี้องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ผ่านโครงการ FTAG ร่วมกับสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ(มกอช.) หวังว่าการสัมมนาครั้งนี้ ได้รับความรู้จากวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านการนำเข้าส่งออกพืช และเป็นเวทีแลกเปลี่ยน ระดมความคิดแนวทางการแก้ไขเพื่อเป็นการส่งเสริมการอำนวยความสะดวกในการค้าระหว่างประเทศเซียน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง