ข่าว

   วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 "ความปลอดภัยต้องมาก่อน" นโยบายเที่ยวไทย"วีระศักดิ์ โควสุรัตน์"

 

 

            “ผมเป็นรัฐมนตรีคนเดียวในรัฐบาลนี้ที่โดนใบเหลือง จะไม่ได้ใบเหลืองได้อย่างไร หลังเหตุการณ์เรือนักท่องเที่ยวจีนล่มที่ภูเก็ต ผมพยายามขอเข้าพบผู้ใหญ่ของรัฐบาลจีนเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นถึง 3 ครั้งแต่ได้รับการปฏิเสธ ก็พยายามติดต่อประสานต่อไป สุดท้ายก็ได้เข้าพบกับรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวจีน แต่ให้ไปพบที่เมืองตุนหวง มณฑลชานซี ซึ่งมีความกันดารมาก แต่ให้เข้าพบประมาณ 5 ทุ่ม ในทางการทูตรู้ดีว่าการให้เข้าพบในห้วงเวลานี้หมายความว่าอย่างไร ก็เลยให้เจ้าหน้าที่สถานทูตประสานกลับไปอีกครั้งว่าขอเลื่อนเข้าพบในช่วงรับประทานอาหารเช้า ท่านก็ตอบตกลง”

   วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา

 

           วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เล่าบรรยากาศการเข้าพบนายลั่ว ชู่กัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวจีน ในฐานะตัวแทนรัฐบาลกลาง เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเหตุการณ์เรือล่มที่จ.ภูเก็ต ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเสียชีวิตจำนวน 47 คน และได้รับบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก ในการประชุมหารือแนวทางการปฏิรูปการท่องเที่ยวของไทยจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวกว่า 500 คน ณ ห้องนภาลัยบอลรูม โรงแรมดุสิตธานี

            รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เล่าต่อว่า ตามข้อกำหนดรัฐบาลกลางของจีนคนของเขาที่เดินทางมาเที่ยวต่างประเทศถ้าเสียชีวิตเกิน 2 คนจะต้องรายงานผู้ว่าการมณฑลได้รับทราบ แต่ถ้าเสียชีวิตเกิน 10 คนจะต้องรายงานรัฐบาลกลาง เรื่องก็ต้องถึงประธานาธิบดี ซึ่งในวันนั้นท่านรัฐมนตรีว่าการวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีนได้นำข้อห่วงใยจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ถึงรัฐบาลไทยด้วย โดยฝากขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้การดูแลนักท่องเที่ยวจีนที่ประสบภัยเป็นอย่างดีและยังขอให้รัฐบาลไทยและคนไทยช่วยดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวประเทศไทยอีกเป็นจำนวนมาก

            “ข้อห่วงใยจากท่านประธานาธิบดีจีน ท่านพยายามให้กำลังใจ อยากให้คนจีนมาเที่ยวเมืองไทยอยู่แต่ต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยไม่เฉพาะนักท่องเที่ยวจีนเท่านั้น ประเทศอื่นๆ ทั้งหมดที่เข้ามาในประเทศไทย ท่านไม่ได้ให้ดูแลแค่นักท่องเที่ยวจีน แต่ฝากให้ดูแลคนทั้งโลก ฉะนั้นจากนี้ไป ผมจึงไม่ต่อรองเรื่องความปลอดภัยอีกต่อไป ความปลอดภัยต้องมาก่อน”

           วีระศักดิ์ยอมรับว่าการทำงานของระบบราชการไทยยังเป็นแท่งอยู่มาก หน่วยงานใครหน่วยงานมัน การบูรณาการยังน้อย แต่การท่องเที่ยวจำเป็นต้องเชื่อมโยงกันระหว่างองค์กร หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนจะต้องเดินก้าวไปด้วยกันเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทย ในแง่การตลาดอยากได้จำนวนนักท่องเที่ยวในปริมาณมากๆ เมื่อเขาเข้ามาเยอะ แต่เราไม่มีความพร้อมในการต้อนรับก็จะเป็นปัญหาตามมา

            “วันนี้อยากให้ทุกฝ่ายได้มีการบูรณาการทำงานร่วมกัน เป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น ไม่ว่าภาครัฐหรือภาคเอกชนในการทำงานร่วมกัน รับผิดชอบร่วมกัน ในภาคสื่อมวลชนก็เหมือนกัน สื่อมวลชนมีความสำคัญที่จะสื่อสารให้ภาคประชาชนมีความเข้าใจ ร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดี”

            รมว.ท่องเที่ยวฯ ยังชี้ให้เห็นตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาประเทศไทยผ่านการสื่อสารในช่องทางต่างๆ นับตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน โดยระบุว่าการบอกต่อจากเพื่อนที่เคยเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยมีผลมากที่สุด รองลงมาติดตามทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก โครงการนำเที่ยวในสื่อทีวีในจีน โบรชัวร์นำเที่ยว โดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเองโดยไม่พึ่งบริษัททัวร์เริ่มมีมากขึ้นและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ​

           "มีงานวิจัย ททท. พบว่าพฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาเองโดยไม่พึ่งบริษัททัวร์มีเพิ่มขึ้นและคนกลุ่มนี้มีแนวโน้มโตขึ้นเรื่อยๆ เป็นกลุ่มที่มีกำลังจับจ่ายใช้สอย แล้วก็พบว่าคนที่ไม่เคยมาเมืองไทยเลย เดือนแรกของปีนี้มีมาเยอะมาก ไม่เคยมีมากมาก่อนในประวัติศาสตร์ เพราะพวกเขาเหล่านี้ได้รับรู้ข้อมูลเมืองไทยมาจาก อันดับแรก เพื่อนครับ คำบอกเล่าของเพื่อน มีอิทธิพลอย่างมากในการตัดสินใจเลือกมาเที่ยวในประเทศไทย รองลงมาดูโซเชียลเน็ตเวิร์ก สื่อโซเชียลนี่จะมีอิทธิพลอย่างมากในจีน เกิดเหตุอะไรนิดอะไรหน่อยก็จะมีผลในทันที”

             วีระศักดิ์ยังได้กำชับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการดูแลนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาเที่ยวประเทศไทยอย่างเป็นระบบครบวงจร เริ่มตั้งแต่ตรวจคนเข้าเมือง ไม่ว่าทางบกหรือทางอากาศยาน ซึ่งเป็นด่านแรกหลังนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึง จะต้องดำเนินการด้วยความรวดเร็ว อาจใช้ระบบแทนคนในช่วงที่มีไฟลท์บินลงติดๆ กัน ถึงแม้จะมีเจ้าหน้าที่มานั่งเต็มทุกตู้ตู้ละ 3 คน แต่ปัญหาความล่าช้าก็ยังเกิดขึ้น

           “ถ้าไฟลท์ลงติดๆ กัน 3-4 ไฟลท์ มาเป็นก้อนใหญ่ ยังไงก็ช้า เมื่อแก้ปัญหาไฟลท์บินไม่ได้แล้วเราจะทำอย่างไรกับคนที่มายืนรอเป็น 2-3 ชั่วโมง มีเจ้าหน้าที่มาคอยดูแลอำนวยความสะดวกไหม มีน้ำท่าบริการไหม เพื่อให้เขารู้สึกผ่อนคลายหลังเดินทาง นี่คือจุดเริ่มต้น เป็นหน้าด่าน ต้องทำให้เขารู้สึกประทับใจจากจุดเริ่มต้นตรงนี้ได้ไหม”

          รมว.ท่องเที่ยวฯ ยังแสดงความห่วงใยนักท่องเที่ยวจีนในการเดินทางมาท่องเที่ยวไทยในรูปแบบของกรุ๊ปทัวร์ที่ได้กำหนดเส้นทางท่องเที่ยวเป็นที่ตั้ง โดยไม่ คำนึงถึงตัวนักท่องเที่ยว โดยยกตัวอย่างกรุ๊ปทัวร์นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาจากซีอาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเดินทางมาไฟลท์เดียวกับคณะของตน โดยเครื่องออกจากซีอานประมาณเที่ยงคืนครึ่ง(ตามเวลาไทย) ใช้เวลาบินประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ถึงสนามบินดอนเมืองตีสามกว่า จากนั้นก็เดินทางต่อไปชายทะเลที่ไหนสักแห่ง เมื่อไปถึงก็ลงเรือไปดำน้ำตามเกาะแก่งต่างๆ ตามโปรแกรมที่กำหนดไว้

          “ตลอดทั้งคืนนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เกือบจะไม่มีเวลาพักผ่อนเลย ตั้งแต่รอขึ้นเครื่องที่โน่นมาถึงดอนเมือง รอเข้าคิวผ่านตม.แล้วมาต่อรถบัสไปทะเล ดำน้ำชมปะการัง ร่างกายก็รับไม่ไหวเพราะไม่ได้พักผ่อน นักท่องเที่ยวที่มาเสียชีวิตแบบนี้ก็มีไม่น้อย ซึ่งเราจะต้องมาร่วมกันแก้ไขว่าจะทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวมีความปลอดภัย จะต้องตรวจสอบความพร้อมของร่างกายทุกครั้งก่อนทำกิจกรรมเพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมา”

           นอกจากนี้อาหารการกินก็มีความสำคัญ วีระศักดิ์ ระบุว่า จากข้อมูลที่ได้รับการร้องเรียนนั้น นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาประเทศไทยส่วนใหญ่จะเกิดอาการท้องเสียกันเกือบทุกคน สืบเนื่องมาจากอาหารเป็นพิษ ดังนั้นผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม บริษัททัวร์ จึงจำเป็นต้องเรียนรู้พฤติกรรมการกินของคนจีนด้วย ปกติชาวจีนจะรับประทานอาหารจืดเมื่อมาเจอส้มตำรสจัดจ้านแบบไทยอาจเกิดปัญหาได้

             “โดยปกติคนจีนไม่นิยมกินน้ำแข็ง แต่โรงแรมหรือร้านอาหารก็จัดน้ำแข็งมาให้ก็เป็นปัญหา หรือจัดอาหารรสจัดจ้านเช่น ส้มตำ ซึ่งผิดไปจากอาหารที่เขาเคยกินก็จะทำให้เกิดท้องไส้ปั่นป่วนได้ เหล่านี้แม้จะดูเป็นสิ่งเล็กน้อยแต่ก็มีความสำคัญที่ทุกคนทุกฝ่ายต้องช่วยกันดูแล หากเราทำได้ครบลูปในเส้นทางตั้งแต่ด่านแรกจนกระทั่งเขาเดินทางกลับด้วยความประทับใจ นี่คือสิ่งที่ผมอยากฝากให้พวกเราทุกคนช่วยกัน” รมว.ท่องเที่ยวฯ กล่าวย้ำ

         

  ขณะที่ พงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวเสริมว่า จากข้อมูลตัวเลขที่ทางการจีนได้ระบุทำให้ทราบว่าคนจีนมาเที่ยวประเทศไทยมากถึง 40% ของคนจีนไปเดินทางไปท่องเทีี่ยวทั่วโลก นั่นแสดงให้เห็นว่าคนจีนยังชื่นชอบการเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย  

             “ผมมีโอกาสไปดูงานศูนย์บริหารจัดการท่องเที่ยวที่เมืองไหหนาน อยู่ทางตอนใต้เกาะไหหลำของจีน ซึ่งเป็นศูนย์ที่เพอร์เฟกท์มากๆ มีทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่กันครบ ทั้งตำรวจ ศาล เกิดเหตุก็สามารถทำสำนวนส่งฟ้องศาลได้ในทันที แล้วก็เข้าไปดูห้องคอนโทรล ซึ่งไฮเทคมากๆ มีการบูรณาการประสานงานอย่างทันท่วงทีเมื่อเกิดเหตุกับนักท่องเที่ยว” ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ย้ำทิ้งท้าย

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ