ข่าว

โคลา-โคลาผนึก"ดอยคำ"รุกตลาด"น้ำผลไม้"2รสชาติใหม่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โคลา-โคลาผนึก"ดอยคำ"รุกตลาด"น้ำผลไม้"2รสชาติใหม่

 

 

               กลุ่มธุรกิจโคคา-โคลาโคลาโคลา ประกอบด้วย บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท โคคา-โคลาโคลาโคลา (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศความร่วมมือกับ บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด ร่วมสนับสนุนผลผลิตในประเทศ ด้วยการใช้วัตถุดิบจากเกษตรกรไทยที่ผ่านการคัดสรรคุณภาพจากดอยคำ มาเป็นส่วนผสมในสองผลิตภัณฑ์ใหม่จากน้ำผลไม้พร้อมดื่มมินิทเมด ได้แก่ มินิทเมด น้ำมะเขือเทศผสมเนื้อส้ม และมินิทเมด น้ำรสเสาวรสผสมน้ำผึ้งและมะนาว เป็นครั้งแรกของโคคา-โคลาโคลาโคลา แบรนด์น้ำผลไม้อันดับหนึ่งของโลก และดอยคำ แบรนด์อันดับหนึ่งของไทย ผลผลิตมะเขือเทศ ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพที่มาแรงอย่างต่อเนื่อง

โคลา-โคลาผนึก"ดอยคำ"รุกตลาด"น้ำผลไม้"2รสชาติใหม่

     

            พรวุฒิ สารสิน ประธานกรรมการ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด กล่าวระหว่างการแถลงข่าวความร่วมมือเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ณ ห้องบอลรูม โรงแรมอนันตรา สยาม ราชดำริ โดยระบุว่า โคคา-โคลาโคลาโคลาไม่เพียงดำเนินธุรกิจโดยรับฟังความต้องการของผู้บริโภคเป็นสำคัญ แต่ยังมีความมุ่งมั่นในการสนับสนุนให้เกิดความยั่งยืนในทุกประเทศที่มีการดำเนินธุรกิจ การได้ร่วมมือกับบริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด นับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลาโคลาโคลาในประเทศไทย ในการส่งเสริมความยั่งยืน ด้วยการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนเกษตรกรชาวไทย โดยที่น้ำผลไม้พร้อมดื่มมินิทเมด ซึ่งเป็นแบรนด์น้ำผลไม้อันดับหนึ่งของโลก จัดหาสินค้าจากผู้ผลิตในท้องถิ่น (local ingredient source) นำมาผสมผสานกับน้ำส้มนำเข้าจากมินิทเมด ซึ่งคัดสรรจากแหล่งคุณภาพ นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์มินิทเมด น้ำมะเขือเทศผสมเนื้อส้ม และมินิทเมด น้ำรสเสาวรสผสมน้ำผึ้งและมะนาว ยังตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย ที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

โคลา-โคลาผนึก"ดอยคำ"รุกตลาด"น้ำผลไม้"2รสชาติใหม่

             “จากเทรนด์สุขภาพที่เติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง โคคา-โคลา จึงเดินหน้านำเสนอนวัตกรรมเครื่องดื่มที่ช่วยขยายพอร์ตโฟลิโอให้สนองตอบความต้องการของผู้บริโภค ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ในประเทศไทย และสะท้อนการเป็นบริษัทเครื่องดื่มเต็มรูปแบบอย่างแท้จริง” 

             จากข้อมูลดัชนีค้าปลีกของเดอะนีลเส็นคอมปะนี (ประเทศไทย) แบรนด์น้ำผลไม้พร้อมดื่มมินิทเมด ครองส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 11.5 ของตลาดน้ำผลไม้พร้อมดื่มในประเทศไทยที่มีมูลค่ารวม 12,000 ล้านบาท และภายใต้ความร่วมมือนี้ โคคา-โคลาจะรับซื้อผลผลิตทางการเกษตร คือ มะเขือเทศ และเสาวรส จากเกษตรกรส่งเสริมของดอยคำมาใช้เป็นส่วนผสมในน้ำผลไม้พร้อมดื่ม มินิทเมด สองรสชาติใหม่ คือ น้ำมะเขือเทศผสมเนื้อส้ม และน้ำรสเสาวรสผสมน้ำผึ้งและมะนาว

             พิพัฒพงศ์ อิศรเสนา ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด กล่าวว่า ดอยคำ เป็นหนึ่งในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่ดำเนินธุรกิจในรูปแบบกิจการเพื่อสังคมมากว่าครึ่งศตวรรษ จวบจนปัจจุบัน อันเป็นการสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระผู้ทรงก่อตั้ง บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด ด้วยแนวคิด “เกษตรเพื่อชุมชน ผลิตผลเพื่อคนไทย” มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการส่งมอบผลิตผลทางการเกษตรที่มีคุณภาพ และถือเป็นความภาคภูมิใจของดอยคำ ทั้งน้ำมะเขือเทศ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์อันดับ 1 ในตลาด และน้ำเสาวรส ที่ได้รับความนิยมสูงจากผู้บริโภค โดยความร่วมมือในครั้งนี้ นับเป็นการส่งเสริมภาคการเกษตรของประเทศ และที่สำคัญคือจะทำให้เกษตรกรไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความกินดี อยู่ดี อย่างยั่งยืน สมดังพระราชปณิธานของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 9 พระผู้ทรงก่อตั้งบริษัท

โคลา-โคลาผนึก"ดอยคำ"รุกตลาด"น้ำผลไม้"2รสชาติใหม่

               “ดอยคำถือเป็นตัวแรกๆ ของโลกก็ว่าได้ที่โคคา-โคลามาร่วมจอย เราเองก็ตั้งเป้าไว้ว่าจะเป็นเจ้าแห่งมะเขือเทศ ตอนนี้เรามีผลิตภัณฑ์จากมะเขือเทศหลากหลายเช่น น้ำมะเขือเทศ มะเขือเทศอบแห้ง แยมมะเขือเทศ มะเขือเทศเพื่ออุตสาหกรรม ต่อไปเราจะเอามะเขือเทศที่เป็นจุดแข็งของเรารุกตลาดในระดับบนทั้งภัตตาคาร ร้านอาหาร โรงแรม ส่วนที่ร่วมกับโคคา-โคลาจะเริ่มในซีซั่นนี้เป็นต้นไป ไม่ใช่แค่ 2 ผลิตภัณฑ์นี้ แต่กำลังวางแผนร่วมกันจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาในอนาคตด้วย”  

                 สำหรับน้ำผลไม้พร้อมดื่มมินิทเมด 2 รสชาติใหม่ น้ำมะเขือเทศผสมเนื้อส้ม และน้ำรสเสาวรสผสมน้ำผึ้งและมะนาว เป็นนวัตกรรมเครื่องดื่มที่โคคา-โคลาพัฒนาขึ้นเพื่อนำเสนอการผสมผสานอย่างลงตัว เป็นน้ำผลไม้พร้อมดื่มคุณภาพสูง รสชาติดี โดยมินิทเมด น้ำมะเขือเทศผสมเนื้อส้ม เป็นการผสมผสานของน้ำมะเขือเทศคุณภาพจากดอยคำที่ทั้งอร่อยและมีประโยชน์ เข้ากับน้ำส้มนำเข้าจากมินิทเมด ซึ่งคัดสรรจากแหล่งคุณภาพ มีไลโคปีน 2,418 ไมโครกรัมต่อขวด ขนาด 335 ม.ล. ผู้บริโภคสามารถพบกับน้ำผลไม้พร้อมดื่มมินิทเมด น้ำมะเขือเทศผสมเนื้อส้ม ขนาด 280 ม.ล. และ 335 ม.ล. และมินิทเมด น้ำรสเสาวรสผสมน้ำผึ้งและมะนาว ขนาด 280 ม.ล. ได้แล้ววันนี้ทั่วประเทศ 

                  อย่างไรก็ตาม กลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในประเทศไทย ประกอบด้วย บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัดในฐานะเจ้าของแบรนด์ รับผิดชอบในกิจกรรมการตลาด และสองบริษัทพันธมิตรผู้ผลิตและจำหน่าย บจ.ไทยน้ำทิพย์ รับผิดชอบ 63 จังหวัดทั่วประเทศ และ บมจ.หาดทิพย์ รับผิดชอบใน 14 จังหวัดภาคใต้และเป็นผู้นำในตลาดเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์ทั่วประเทศ นอกเหนือจากแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกอย่าง โคคา-โคลา แล้ว ผลิตภัณฑ์ในพอร์ตโฟลิโอของกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในประเทศไทย ประกอบไปด้วย โค้ก ออริจินอล, โค้ก สูตรไม่มีน้ำตาล, โค้ก ไลท์, โค้ก พลัส คอฟฟี่, แฟนต้า, สไปรท์, ชเวปส์, เอแอนด์ดับบลิวรูทเบียร์ รวมถึงน้ำส้มมินิทเมด สแปลช, มินิทเมด พัลพิ, มินิทเมด ไวตา คิดส์, มินิทเมด ออเรนจ์ ไฟเบอร์, มินิทเมด ฮันนี่ เลมอน, น้ำดื่มน้ำทิพย์, อควาเรียส เกรปฟรุต, อควาเรียส ซิตรัส, น้ำมะพร้าวซิโค่ 

 

 “ดอยคำ” เกษตรเพื่อชุมชน ผลิตผลเพื่อคนไทย

              ด้วยสายพระเนตรอันยาวไกลของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนและทุกข์ยากของราษฎร จึงพระราชทานแนวพระราชดำริให้จัดตั้ง “โครงการพระบรมราชานุเคราะห์ชาวเขา” ขึ้น เมื่อปี 2512 เพื่อแก้ปัญหาการปลูกฝิ่น และการทำไร่เลื่อนลอย โดยมีวัตถุประสงค์ให้ส่งเสริมการปลูกพืชผัก ผลไม้ หลากหลายชนิดทดแทน แต่เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกที่ได้รับการส่งเสริม อยู่ห่างไกลจากตัวเมืองและแหล่งรับซื้อ จึงเกิดปัญหาการถูกพ่อค้าคนกลางกดราคา ประกอบกับในบางช่วงฤดูมีผลผลิตที่ล้นตลาด หรือบางครั้งอาจไม่ได้ขนาดที่เหมาะสมสำหรับการจำหน่ายผลสด

              ต่อมาปี 2515 จึงมีพระราชดำริให้จัดตั้ง “สหกรณ์ชาวเขา” และ “โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูป” แห่งแรกขึ้น เพื่อช่วยเหลือด้านการรับซื้อผลผลิตจากพืชที่ส่งเสริมในราคาเป็นธรรม โดยนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ในเครื่องหมายการค้า “ดอยคำ” เป็นการเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลผลิตทางการเกษตร ตลอดจนการจัดหาช่องทางกระจายสินค้าสู่ตลาด รวมถึงจัดให้มีการค้นคว้า วิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารตามแนวพระราชดำริ “อุตสาหกรรมเกษตรเพื่อการพัฒนาชนบท” ในเวลาต่อมา โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูป ถือกำเนิดขึ้นอีก 3 แห่ง ด้วยวัตถุประสงค์ที่ใกล้เคียงกัน

             โรงงานหลวงฯ เพื่ออุตสาหกรรมการเกษตรของบริษัท ในแต่ละแห่ง ได้ถูกออกแบบตามภูมิสังคม เพื่อให้กลมกลืนและสอดคล้องกับวิถีชีวิตในแต่ละพื้นที่ และดำเนินการตามวัตถุประสงค์ขององค์กรในการให้ความช่วยเหลือและส่งเสริมด้านเกษตรกรรม รวมทั้งยังพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชน และรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อความอยู่ดี กินดี และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ดังคำขวัญที่ว่า “โรงงานหลวงฯ เพื่อปวงชน”

              กระทั่งในปี 2537 มีพระราชกระแสให้สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ รับช่วงดำเนินกิจการโรงงานหลวงฯ ต่อจากมูลนิธิโครงการหลวง โดยจัดตั้งเป็นนิติบุคคลภายใต้ชื่อ “บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด” เพื่อดำเนินกิจการในรูปแบบ ธุรกิจเพื่อสังคม (Social Business) บริษัทจึงเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการสร้างสุขให้สังคมด้วยการพัฒนาอย่างสมดุลและยั่งยืน

             ปัจจุบัน บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด ดำเนินงานผ่านโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปทั้งหมด 4 แห่ง ได้แก่ โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ 1 (ฝาง) จ.เชียงใหม่ โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ 2 (แม่จัน) จ.เชียงราย โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ 3 (เต่างอย) จ.สกลนคร และโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ 4 (ละหานทราย) จ.บุรีรัมย์ เพื่อดำเนินการส่งเสริม รับซื้อ พัฒนา และแปรรูปผลผลิตให้เป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับพรีเมียมในราคาที่จับต้องได้ ภายใต้ตราสัญลักษณ์ “ดอยคำ” ผู้นำธุรกิจอุตสาหกรรมน้ำผลไม้ และอาหารแปรรูปเพื่อสังคม 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ